แพทย์ฮาร์วาร์ด ย้ำระวัง 3 วัตถุในห้องนอน "เป็นพิษ" ไม่ใช่แค่ฟูก-หมอน เกือบทุกบ้านมีครบ!!!

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sanook

หมอจากฮาร์วาร์ดเตือน! 3 สิ่งอันตรายในห้องนอนที่หลายบ้านมีโดยไม่รู้ตัว

ใครจะคิดว่า “หมอนใบเก่า สเปรย์ปรับอากาศ และที่นอน” ซึ่งดูเหมือนไร้พิษภัยในห้องนอน กลับกลายเป็นภัยเงียบที่ค่อยๆ บ่อนทำลายสุขภาพทุกคืน…. เผยคำเตือนจากแพทย์จากฮาร์วาร์ด

ดร.เซารับ เซธี (Dr. Saurabh Sethi) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินอาหาร และอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งปัจจุบันทำงานในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน Instagram@doctor.sethi ชี้ให้เห็น 3 สิ่งที่หลายคนยังคงเก็บไว้ในห้องนอนโดยไม่รู้ว่ามันเป็น“ภัยร้ายแฝงตัว”

คลิปดังกล่าวมียอดวิวกว่า 2.1 ล้านครั้ง และยอดไลก์มากกว่า 34,000 ไลก์ ภายในเวลาอันสั้น โดยเนื้อหาเน้นเตือนให้รีบกำจัด 3 สิ่งเหล่านี้ออกจากห้องนอนโดยเร็วที่สุด เพื่อสุขภาพที่ดี

1. หมอนเก่า: แหล่งสะสมไรฝุ่น แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้

“ถ้าหมอนของคุณเกิน 2 ปี ควรเปลี่ยนใหม่ทันที” ดร.เซธี กล่าว พร้อมเตือนว่าหมอนที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว 1-2 ปี มักเต็มไปด้วย เหงื่อ คราบสกปรก ไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคภูมิแพ้เรื้อรังและโรคหืดหอบ จากงานวิจัยพบว่า ไรฝุ่นมีขนาดเล็กเท่ากับเม็ดเกลือ และเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นอาการหอบหืดอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะในหมอนที่ไม่ได้ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนเป็นเวลานาน

2. สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นหอม: หอมก็จริง แต่สารเคมีอันตรายแอบแฝง

แนะนำให้หันมาใช้น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจากพืชแทน ปลอดภัยและผ่อนคลายกว่า เนื่องจากแม้สเปรย์ปรับอากาศจะช่วยให้ห้องนอนมีกลิ่นหอมสดชื่น แต่ ดร.เซธี เตือนว่าสารฟทาเลต (Phthalates) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ สามารถทำลายระบบฮอร์โมน และก่อให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจ โดยสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) ยังระบุว่า VOCs อาจก่อให้เกิดอาการเวียนหัว ปวดศีรษะ สมาธิสั้น สายตาพร่ามัว และหากสัมผัสในระยะยาวอาจกระทบต่อหัวใจ ปอด ระบบสืบพันธุ์ และเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง

3. ที่นอนเก่า: ตัวการของอาการปวดหลัง และการนอนหลับไม่มีคุณภาพ

ที่นอนที่ผ่านการใช้งานเกิน 7-10 ปี มักเสื่อมสภาพ และทำให้เกิดปัญหาปวดหลังเรื้อรัง รวมถึงลดคุณภาพการนอน ดังนั้น หากที่นอนใช้งานมานานเกิน 10 ปี ควรพิจารณาเปลี่ยนใหม่เพื่อสุขภาพของกระดูกสันหลังและคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น ตามงานวิจัยในปี 2023 ระบุว่า ที่นอนที่หมดอายุการใช้งานจะสูญเสียความยืดหยุ่น และมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับอาการปวดหลังช่วงล่าง แม้ไม่มีรอยขาดหรือเสียหายที่เห็นได้ชัด

ท้ายที่สุด แม้ห้องนอนควรเป็นพื้นที่เพื่อการฟื้นฟู ไม่ใช่แหล่งสะสมโรค แต่หลายคนกลับไม่เคยนึกว่า สิ่งของที่อยู่ในห้องนอนประจำวันอย่างหมอน สเปรย์ และที่นอน อาจค่อยๆ ทำลายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ถ้าอยากนอนหลับให้ดี และใช้ชีวิตอย่างมีพลังในทุกเช้า จงเริ่มต้นจากการจัดห้องนอนใหม่ และกล้าทิ้งสิ่งที่ควรทิ้ง แม้จะเสียดายแค่ไหนก็ตาม