อลเวง!วัดม่วงปมเงิน-ทองหาย CIB ยังไม่ปักใจเชื่อเจ้าอาวาสอ้าง "ลืม" พบทรัพย์สินผิดปกติหลายบัญชี
วันที่ 21 ก.ค. 68 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีเงินและทองคำปริศนาที่หายไปจาก วัดม่วง บางแค โดยยืนยันจะเดินหน้าตรวจสอบอย่างละเอียดทุกมิติ พร้อมเผยพฤติกรรมเจ้าอาวาสที่น่าสงสัยและยังให้การคลุมเครือ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สถานการณ์ที่วัดม่วงขณะนี้ "อลเวงมาก" การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีสิ่งของหายไปจริง โดยเฉพาะทองคำที่เจ้าอาวาสอ้างว่าหายไป แต่เมื่อตำรวจติดตามตรวจสอบอย่างหนัก กลับพบว่าเจ้าอาวาสมีพฤติกรรม "หลงลืม" และบางกรณีเริ่มจำได้ว่าทองถูกเก็บไว้ที่ไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถพบทองคำบางส่วนที่อ้างว่าสูญหายได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเงินที่หายไปนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ยังไม่สามารถติดตามเจอได้ และเจ้าอาวาสยังคงให้การคลุมเครือ อ้างว่าจำไม่ได้ ส่วนกรณีที่เจ้าอาวาสอ้างว่าเป็นอัลไซเมอร์นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตั้งข้อสังเกตว่า "ไม่น่าเป็นความจริง เพราะยังสามารถโต้เถียงกับบุคคลอื่นได้อยู่ชัดเจน"
รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยังระบุอีกว่า กำลังตรวจสอบทุกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับรายได้ของวัด โดยเฉพาะการบริหารจัดการของเจ้าอาวาส ซึ่งมีข้อสังเกตว่า ไวยาวัจกรของวัดไม่มีอำนาจในการดูแลบัญชีหรือเงินวัดแต่อย่างใด ทำให้เกิดข้อกังขาว่าเหตุใดรายได้จำนวนมากจากเงินบริจาคและกิจกรรมต่างๆ จึงกระจุกอยู่ในมือของเจ้าอาวาสเพียงผู้เดียว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการนำเงินวัดไปซื้อทองคำจริงหรือไม่
ในส่วนของการดำเนินคดี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าเจ้าอาวาสได้แจ้งความ หรือเพียงแค่ลงบันทึกประจำวันกับตำรวจท้องที่ ซึ่งเบื้องต้นดูเหมือนจะเป็นการแจ้งว่าทองและเงินหาย แต่ยังไม่มีเอกสารหลักฐานชัดเจนส่งต่อมายัง บก. ปปป. อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการตรวจสอบวัดม่วงอย่างละเอียด และถือว่าเป็นเป้าหมายหนึ่งของการสอบสวน เนื่องจากพบว่าเจ้าอาวาสมีทรัพย์สินจำนวนมากผิดสังเกต และมีหลายบัญชีที่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจน
สำหรับข้อมูลที่ได้รับจากพระลูกวัดหรือผู้เกี่ยวข้อง ทางตำรวจยืนยันว่าจะนำมาประกอบการสอบสวนอย่างรอบด้าน ซึ่งในบางส่วนพบว่าข้อมูลที่ได้รับช่วยให้สืบทรัพย์สินบางส่วนเจอแล้ว และเป็นแนวทางที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการสืบสวนหาที่มาของรายได้ของวัด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่า แม้ทองคำบางส่วนจะเริ่มมีเบาะแสที่ชัดเจน แต่เงินวัดที่หายไปยังไม่มีคำตอบที่น่าพอใจ เจ้าหน้าที่จึงยังคงเดินหน้าตรวจสอบอย่างละเอียด โดยหากพบว่ามีเจตนาปกปิดหรือทุจริต ก็อาจเข้าข่าย แจ้งความเท็จ หรือกระทั่ง ความผิดทางอาญาทุจริตเกี่ยวกับทรัพย์ของวัด "ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานให้เต็มที่ก่อน และเมื่อชัดเจนเมื่อไหร่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที"