เดินหน้า 10 ภารกิจเร่งด่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้อง
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น และนายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ มอบนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานคณะที่ปรึกษา นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการในสังกัด ตลอดจนทูตพาณิชย์ทั่วโลกและพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมรับนโยบายผ่านระบบ Video Conference
ทั้งนี้การมอบนโยบายในครั้งนี้เน้นภารกิจสำคัญเร่งด่วน 10 ประการ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย เสริมความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับทุกภาคส่วน ประกอบด้วย
1.ยกระดับการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา กระทรวงพาณิชย์ มีบทบาทสำคัญในการเตรียมข้อมูล วิเคราะห์และเตรียมมาตรการรับมืออย่างใกล้ชิด
2.ขับเคลื่อนการส่งออกและขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะผ่านเครือข่ายทูตพาณิชย์ต่างประเทศ เพื่อชดเชยความเสี่ยงจากตลาดเดิม
3.เร่งรัดเจรจา FTA ใหม่ๆ เช่น ไทย-อียู ไทย-เกาหลีใต้ และปรับปรุงให้ทันสมัยและสอดรับกับประเด็นสำคัญ เช่น สิ่งแวดล้อมและการค้าโลกยุคใหม่
4.ส่งเสริม SMEs ให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงเทคโนโลยีและตลาดออนไลน์
5.สร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร โดยนำร่องการทำ Sandbox ในพื้นที่เป้าหมาย และผลักดันการวางแผนการผลิตที่แม่นยำ
6.แก้ปัญหาปากท้องประชาชน ด้วยการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้สูงเกินจริง พร้อมส่งเสริมมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
7.ปราบปรามธุรกิจนอมินีผิดกฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะสินค้าสวมสิทธิและการค้าขายไม่เป็นธรรม
8.ส่งเสริมการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ เช่น การผลักดัน GI เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย
9.ปฏิรูประบบบริการภาครัฐให้ทันสมัย ตรวจสอบกระบวนการให้บริการทุกขั้นตอน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
10. ยกเครื่องกฎหมายด้านพาณิชย์ ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการค้าสมัยใหม่ โปร่งใส และเอื้อต่อการแข่งขัน
นายจตุพร กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะเร่งแปลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยขับเคลื่อนเป็น “พาณิชย์หนึ่งเดียว” ทำงานแบบบูรณาการและสื่อสารอย่างเป็นเอกภาพ พร้อมเน้นย้ำการทำงานที่มีความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน เทิดทูนสถาบันและยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
สำหรับในส่วนของทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัด ได้รับมอบหมายให้เร่งหาตลาดและขับเคลื่อนการค้าภูมิภาคอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ปัญหาต้นทุนการผลิตที่พี่น้องเกษตรกรประสบในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งต้องเร่งลดต้นทุนอย่างเป็นรูปธรรมก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบให้ รมช. สุชาติ ขับเคลื่อนนโยบายสินค้าธงเขียว สำหรับปัจจัยด้านการเกษตรทันที
ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานคณะที่ปรึกษา ได้นำเสนอ “โมเดลการทำงาน” ให้หน่วยงานนำไปประยุกต์ใช้ พร้อมมอบหมายการบ้านเชิงปฏิบัติให้หน่วยงาน
อย่างไรก็ตามในประเด็นการส่งออก ต้องอาศัยความพร้อมทั้งด้านตลาดและสินค้า โดยไทยมีสินค้าเฉพาะถิ่นที่มีศักยภาพพัฒนาเป็นสินค้า GI และสินค้าคุณภาพสูงจำนวนมาก เช่น ผลไม้ ซึ่งการปฏิรูปกระบวนการผลิตจะช่วยเสริมศักยภาพการส่งออกในระยะยาว
ส่วนสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา การปิดด่านส่งผลกระทบกับประชาชนทั้งสองฝั่ง โดยกระทรวงฯ ได้ประชุมร่วมกับพาณิชย์ 7 จังหวัดชายแดน หอการค้า และสภาอุตสาหกรรม เพื่อหาแนวทางรองรับ เช่น การจัดกิจกรรมธงฟ้า ลดค่าครองชีพที่จังหวัดสระแก้ว และการส่งเสริมสินค้า OTOP เปิดตลาดใหม่ในพื้นที่อื่นๆ รวมถึงการสำรวจความเสียหายทางเศรษฐกิจ
“ทุกภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งเดินหน้าอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และทำงานด้วยความรับผิดชอบ เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนให้กับประเทศ”