ปิดด่านไทย-กัมพูชา ถึงสิ้นปี คาดรายได้หด 6 หมื่นล้านบาท ฉุดเป้าค้าชายแดนทั้งปีเหลือ 1.8-2%

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือน (ม.ค.- พ.ค.) ปี 68 มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงขยายตัวเป็นบวกถึง 11.20% คิดเป็นมูลค่า 80,723 ล้านบาท เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 67 โดยไทยส่งออก 63,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% ไทยนำเข้า 17,645 ล้านบาท เพิ่ม 20% และได้ไทยดุลการค้า 45,433 ล้านบาท เฉพาะเดือนพ.ค.68 มีมูลค่า 16,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เทียบเดือนพ.ค.67 โดยไทยส่งออก 12,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.20% ไทยนำเข้า 3,258 ล้านบาท และไทยได้ดุล 9,595 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มเดือนมิ.ย.68 คาดว่า จะลดลง เพราะมีการปิดด่านชายแดนระหว่างกัน ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.68 โดยงดการผ่านเข้า-ออกของประชาชน การค้าขายทุกประเภท รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

สำหรับการปิดด่านชายแดนของทั้ง 2 ประเทศตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.68 นั้น จากการสอบถามสำนักงานพาณิชย์จังหวัดชายแดน พบว่า บรรยากาศการค้าขายซบเซา ผู้ประกอบการ ร้านค้าต่างๆ ของทั้ง 2 ฝั่งปิดร้านจำนวนมาก แต่กระทรวงพาณิชย์ ได้หาทางช่วยเหลืออื่น เช่น หาสถานที่ใหม่ให้ค้าขาย เช่น พื้นที่ส่วนราชการ หน่วยงานเอกชน ห้างต่างๆ ฯลฯ

โดยกลุ่มสินค้าส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่าน คือ ผัก และผลไม้ แต่ได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพราะเป็นช่วงปลายฤดู โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ประสานหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนช่วยรับซื้อ และกระจายสู่ผู้บริโภคในประเทศ ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าอุตสาหกรรม ก็ได้หามาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออกแล้ว เช่น หาเส้นทางขนส่งสินค้าทางอื่น หาตลาดใหม่ทดแทน ผลักดันขายสินค้าทางออนไลน์ ฯลฯ

ขณะที่ด้านการนำเข้า คือ มันสำปะหลัง ที่ไทยนำเข้ามาทั้งแบบหัวมันสด และมันเส้นเพื่อแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์อื่น และส่งออก แต่ก็มีทางเลือกนำเข้าจากประเทศอื่น โดยเฉพาะลาว ที่นำเข้ามากถึงกว่า 60% ของการนำเข้าทั้งหมด และสินค้าอุตสาหกรรม

นางอารดา กล่าวว่า การปิดด่านจะไม่กระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของไทยไปกัมพูชามากนัก เพราะนอกจากการค้าชายแดน ที่เป็นการขนส่งสินค้าผ่านทางบกตามแนวชายแดนระหว่างกันแล้ว ไทยยังส่งออกไปกัมพูชาด้วยช่องทางอื่น เช่น ทางเรือ ซึ่งตัวเลขการส่งออกโดยรวมของไทยช่วง 5 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 145,538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกผ่านชายแดน 63,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% หรือคิดเฉลี่ยต่อเดือนราว 11,000 ล้านบาท แต่หากคิดเฉพาะการส่งออกผ่านชายแดน และมีการปิดด่านจนถึงสิ้นปีนี้ อาจทำให้มูลค่าการส่งออกผ่านชายแดนของไทยในช่วง 6 เดือนหลังหายไปกว่า 60,000 ล้านบาทเท่านั้น

“ถ้ามูลค่าการส่งออกชายแดนไทยไปกัมพูชาในช่วงครึ่งปีหลังหายไปกว่า 60,000 ล้านบาท ก็จะทำให้การค้าชายแดนภาพรวมของไทยกับเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และมาเลเซีย ทั้งปีนี้ลดลงราวๆ 1% เท่านั้น หรือเหลือขยายตัวได้ 1.8-2% จากเป้าหมายที่คาดขยายตัว 3% มูลค่ากว่า 1.87 ล้านล้านบาท เพราะจะมีมูลค่าการค้าชายแดนกับลาว และมาเลเซีย เข้ามาช่วยเสริม ซึ่งช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่าการค้าสูงถึง 382,899 ล้านบาท เพิ่ม 12.96% และ 277,385 ล้านบาท เพิ่ม 13.20% ตามลำดับ”นางอารดา กล่าว

สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดภายหลังจากฝ่ายความมั่นคงได้ประกาศมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนชายแดนไทย – กัมพูชา โดยประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัด และด่านศุลกากรชายแดนไทย – กัมพูชา รวบรวมข้อมูลรายงานกระทรวงฯ ให้ทราบเป็นประจำทุกวัน ตลอดจนเข้าร่วมประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) ตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงฯ

โดยรายงานความพร้อมของกระทรวงพาณิชย์ในการช่วยเหลือ ระบายสินค้าผัก และผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากการสั่งห้ามนำเข้าของกัมพูชา และการติดตามสถานการณ์ผลกระทบผ่านเครือข่ายของกระทรวงพาณิชย์ทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งการหารือร่วมกับภาคเอกชนเตรียมความพร้อมรองรับในการหาทางเลือกขนส่งสินค้าด้วยช่องทางอื่นๆ นอกจากช่องทางชายแดน เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชน “ด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดน และผ่านแดน

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์