ภูมิธรรม เล็งเว้นค่าน้ำไฟ-น้ำ ให้ชาวบ้านพื้นที่ปะทะ กำชับพากลับบ้านเร็วที่สุด
ภูมิธรรม เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ สั่งประสานคมนาคม พาผู้อพยพกลับบ้านเร็วที่สุด ใช้งบอย่างเต็มที่ เล็งให้ กฟภ.-กปภ. ละเว้นค่าไฟ-น้ำ 2 เดือน ช่วงปะทะ
ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เป็นจุดแรก
เมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ และนายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ
นายภูมิธรรม กล่าวกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ ว่า เรามาด้วยความห่วงใย ทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน
ขั้นต้นพวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ ส่วนแนวหน้าทหารกล้าของเรา ได้ทำหน้าที่พยายามปกป้องดินแดนอธิปไตยของประเทศ และพยายามที่จะพิทักษ์รักษาดูแลครอบครัว บ้านเรือนทุกอย่างของประชาชนอย่างดี วันนี้เราทราบว่าประชาชนคิดถึงบ้าน ขณะที่ออกมาแล้วนั้น เราพยายามที่ ชรบ. อส. ตำรวจตระเวนชายแดนและตำรวจทุกภาคส่วน หรือฝ่ายปกครอง ดูแลรักษาบ้านเรือนของประชาชนอย่างเต็มที่ รัฐบาลห่วงใยอย่างยิ่ง และมีการปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่างๆ ก็คอยช่วยเหลือประชาชนในขั้นต้นที่เกิดเหตุการณ์
เราได้เพิ่มเงินให้จังหวัดทั้ง 7 จังหวัดชายแดน และเพิ่มเงินดูแลจาก 20 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาท และช่วยดูแลศูนย์อพยพทั้งหมด เราเห็นอกเห็นใจ ทุกข์ของประชาชนคือทุกข์อันดับหนึ่ง ที่เราต้องดูแล รวมทั้งทรัพย์สินของประชาชนว่าทุกคนอยากกลับบ้านเต็มที่แล้วเต็มตามแผนตนจะมีการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัดอีสานใต้และชี้แจงกฎเกณฑ์กติกา
ขณะนี้ท้องถิ่นทั้งหมดลงไปดูสำรวจพื้นที่บ้านเรือนที่เสียหายถ้าเสียหายรุนแรง พยายามหาที่พักให้ก่อนและมีการซ่อมแซมระดมทหารทหารช่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรืออาชีวะทั้งในจังหวัดมาคอยช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนก่อน และรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เซ็นเรื่องให้ที่ประชุม ครม. ได้มีการปรากฏเกณฑ์ในการช่วยเหลือ เพราะภัยพิบัติครั้งนี้ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ภัยปกติ ไม่ใช่ภัยที่จะเกิดขึ้นได้ตามปกติ เป็นภัยที่เกิดขึ้นที่ยากลำบากนานครั้งที่จะเกิดแต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วเสียหายถึงชีวิตและประชาชนและผู้ปฏิบัติงานของรัฐทุกภาคต้องดำเนินการ
ส่วนมีการลือมา เป็นสิ่งที่ไม่จริงบ้างผิดๆบ้าง ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน อยากทำให้ทุกคนทราบ รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนให้คืนกับสู่สภาวะปกติเร็วที่สุด
คือเห็นชอบหลักเกณฑ์ให้เงินเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณี การชายแดนไทย-กัมพูชา ในกรณีที่เสียชีวิตและทุพพลภาพเจ้าหน้าที่รัฐทหารตำรวจจ่ายให้รายรับ 10 ล้านบาทจากที่เคยได้หนึ่งล้านบาท ประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะให้รายรับ 8 ล้านบาท กรณีบาดเจ็บมาก เจ้าหน้าที่รัฐเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจรายละ 500,000 บาท ประชาชนรายละ 400,000 บาท และอนุมัติขยายวงเงินทดลองผู้ประสบภัยในกรณีฉุกเฉินในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรีและตราด เพิ่มเติมเป็น 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมบัญชีกลาง ขออนุมัติ นอกเหนือหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดลองราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน เป็นค่าใช้จ่ายในการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวปรับปรุงสถานที่ เครื่องอุปโภคบริโภค และตอบแทนเจ้าหน้าที่ในการดูแลผู้ประสบภัย โดยในวันพรุ่งนี้ตนจะประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานกระทรวงคมนาคมให้นำรถ ยานพาหนะ นำพานำประชาชนกลับบ้านด้วยความปลอดภัย
นอกจากนั้นได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่น ดำเนินตามระเบียบข้อบังคับเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายจากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรืองบประมาณในส่วนของของปอพอ ให้มาช่วยเหลือเยียวยาตามสมควร ให้ช่วยเหลือประชาชนโดยทันที
พร้อมกันนี้ การสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือฝ่ายปกครองในพื้นที่อำนวยความสะดวกจัดรถส่งพี่น้องประชาชนให้กลับถึงบ้าน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนสภาพความพร้อมของการใช้งานของไฟฟ้า ประปา
ทั้งนี้ เมื่อวานตนได้หารือกับปลัดกระทรวงมหาดไทยเตรียมพิจารณาลดค่าหรืออาจจะละเว้น ค่าไฟฟ้าและน้ำประปา เป็นระยะเวลา 2 เดือน ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ขณะนี้กำลังให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ไปหาแนวทางดำเนินการอยู่
นอกจากนี้ สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องรีบจัดการให้ประชาชนโดยเร็ว หลังจากให้งบประมาณแล้ว ให้อำนาจในการตัดสินใจแล้ว เชื่อว่าผู้ว่าราชการจังหวัด มีจิตใจที่รักราษฎรในปกครองของตนเอง จะดูแลช่วยกันอย่างเต็มที่ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลให้ความห่วงใยและพยายามดำเนินการต่างๆอย่างเต็มที่ สิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วคือ ความห่วงใยที่รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและให้ความใส่ใจเป็นอย่างดี
และในวันพรุ่งนี้รัฐมนตรีทุกคนจะเข้าพื้นที่หลังจากได้ประกาศสั่งการแล้วดำเนินการแล้ว ยังมีอะไรที่ติดขัดบกพร่องเป็นปัญหาหรือไม่จะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาฝากกำลังใจให้ความรู้สึกห่วงใยส่วนหลังทั้งหมด ตอนนี้รออีกนิดนึงรอให้แต่ละพื้นที่ดูตามความเป็นจริง ที่ไหนปลอดภัยแล้ว อันไหนที่เป็นปัญหาอุปสรรคจะได้แก้ไขจะได้ส่งพี่น้องประชาชนกลับบ้านอย่างช้าในวันพรุ่งนี้จะได้กลับบ้านทุกคน พร้อมได้ประสานกับกองทัพ ทั้งแม่ทัพภาคที่สอง และแม่ทัพภาคที่หนึ่ง ที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด ขอประชาชนอดใจรออีกนิด
จากนั้น นายภูมิธรรม ได้พาคุณยายที่จะเดินทางกลับบ้านวันนี้ พาขึ้นรถของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องเคลื่อนบ้ายด้วยรถพยาบาทด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ภูมิธรรม เล็งเว้นค่าน้ำไฟ-น้ำ ให้ชาวบ้านพื้นที่ปะทะ กำชับพากลับบ้านเร็วที่สุด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net