PTT กำไร Q2/68 ที่ 2.1 หมื่นล้านลดลง 40 % จากธุรกิจปิโตร-โรงกลั่นลดลง
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2568 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 78,793 ล้านบาท ลดลง 36,541 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.7 จากในไตรมาส 2 ปี 2567 (2Q2567) ที่จำนวน 115,334 ล้านบาท
โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมีผลการดำเนินงานลดลงจากราคา ขายและปริมาณขายเฉลี่ยที่ลดลง รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นประกอบกับกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมี ผลการดำเนินงานลดลง โดยธุรกิจการกลั่นลดลงเนื่องจากในไตรมาสนี้มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสุทธิกับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือ
โดยในปตท. และบริษัทย่อยมีขาดทุนประมาณ 7,200 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรประมาณ 2,800 ล้านบาท แม้ว่ากำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) และปริมาณขายเพิ่มขึ้น ธุรกิจปิโตรเคมีมีผลการดำเนินงานลดลง โดยหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของกลุ่มอะโรเมติกส์และโอเลฟินส์ที่ปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่าง ประเทศมีผลการดำเนินงานลดลงจากกำไรต่อหน่วยที่ลดลงจากส่วนต่างราคาซื้อ -ขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจจัดหาและค้าส่งก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นลดลงจากต้นทุนก๊าซฯ ที่ปรับลดลงน้อยกว่าราคาขายเฉลี่ยให้กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่ลดลง
ขณะที่ธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากต้นทุนที่ลดลง เนื่องจากใน ไตรมาส 2 ปี2567 มีผลกระทบจา กการเริ่มใช้นโยบาย Single Pool ในการคำนวณราคาก๊าซฯ โดยมีผลย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567
โดยไตรมาส 2 ปี2568 ปตท. และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิจำนวน 21,533 ล้านบาท ลดลง 13,936 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 39.3 จากใน 2Q2567 ที่จำนวน 35,469 ล้านบาท ตาม EBITDA ที่ลดลงตามกล่าวข้างต้น ประกอบกับใน 2Q2568 มีการรับรูร้ายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นกำไรประมาณ 4,200 ล้านบาท โดยหลักจากบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมจากการซื้อกิจการในราคาต่ำกว่ามูลค่า ยุติธรรมของการเข้าซื้อหุ้นและควบรวมโรงกลั่นน้ำมันของกลุ่มเชลล์ในสิงคโปร์
ขณะที่ใน 2Q2567 มีกำไรประมาณ 5,400 ล้านบาท โดยหลักจากกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้บริษัท พีอีแอลเอ็นจี จำกัด (PE LNG) ของ บริษัท พีทีทีแอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) และกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ของบริษัท พีทีทีโกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) และ TOP