โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดรายละเอียด 13 ข้อผลการประชุม GBC ห้ามยิง-ห้ามยั่วยุ-ห้ามปล่อยเฟกนิวส์

PPTV HD 36

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว
เปิดรายงานบันทึกการประชุม GBC วันที่ 7 ส.ค. 68 ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน ห้ามยิง ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง ห้ามเสริมกำลัง ห้ามยั่วยุ ห้ามปล่อยข่าวปลอม ฯลฯ

วันที่ 7 ส.ค. เวลา 14.30 น. สิ้นสุดลงไปแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการเปิดแพร่เอกสาร บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกัมพูชาและไทย วันที่ 7 ส.ค. 2568 กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

มาดูกันว่า รายละเอียดการประชุมแต่ละข้อมีอะไรบ้าง โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การหยุดยิง กลไกสำหรับการดำเนินการหยุดยิง และเวลาและสถานที่สำหรับการประชุมครั้งต่อไป

I. การหยุดยิง

1. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ในการหยุดยิงด้วยอาวุธทุกชนิด ทั้งการโจมตีบุคคลพลเรือน วัตถุเป้าหมายทางพลเรือนและเป้าหมายทางทหารของแต่ละฝ่ายในทุกกรณีและทุกพื้นที่ ทั้งสองฝ่ายต้องหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ไม่ได้เกิดจากการยั่วยุต่อที่ตั้งหรือกำลังของอีกฝ่ายหนึ่ง โดยจะต้องไม่ละเมิดข้อตกลงนี้โดยเด็ดขาด

2. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ให้วางกำลังที่มีอยู่ในพื้นที่โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังที่ตั้งอยู่นับตั้งแต่เวลาหยุดยิงเมื่อ 24.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 28 ก.ค.68 โดยจะไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมทั้งการลาดตระเวนเข้าไปยังที่ตั้งของฝ่ายตรงข้าม

3. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันว่าจะไม่มีการเพิ่มกำลังเข้ามาตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งหากมีการเพิ่มเติมกำลังเข้าในพื้นที่แล้ว จะเป็นการเพิ่มบรรยากาศความตึงเครียดระหว่างกันมากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาในระยะยาว

4. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะละเว้นจากการดำเนินการยั่วยุใด ๆ ที่อาจนำไปสู่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นรวมถึงการปฏิบัติการทางทหารเพื่อรุกล้ำเขตน่านฟ้า เขตดินแดน หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย นับตั้งแต่เวลา 24.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 28 ก.ค.68 ซึ่งเป็นเวลาที่เริ่มหยุดยิงทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะละเว้นจากการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหารหรือการเสริมความมั่นคงของที่ตั้งทางทหารล้ำออกไปนอกเขตของฝ่ายตน

5. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ในการงดเว้นการใช้กำลังทุกประเภทต่อบุคคลพลเรือนและวัตถุเป้าหมายทางพลเรือนโดยเด็ดขาด ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนตามในพื้นที่ชายแดนแล้ว ยังเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในเวทีระหว่างประเทศของฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง

6. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันในการปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ในเรื่องการปฏิบัติต่อทหารที่อยู่ในความควบคุมของฝ่ายตรงข้าม ทั้งการดูแลในเรื่องความเป็นอยู่ ที่พักอาศัย อาหาร และ การรักษาพยาบาลในกรณีได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการนำทหารหรือพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งไม่ได้อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายเข้ามารักษาพยาบาล ฝ่ายที่จะรับรักษามีสิทธิในการพิจารณาตามความพร้อมของสถานพยาบาล เวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์ หรือจรรยาบรรณทางการแพทย์เป็นรายกรณี โดยทหารที่อยู่ในความควบคุมจะต้องได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศโดยทันทีหลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์เพื่อให้เป็นไปตามข้อ 118 แห่งของอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 3 ค.ศ. 1949 และกฎข้อ 128 (A) แห่งของกฎหมายจารีตประเพณีของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติและโดยเร็ว ณ สถานที่ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ โดยให้การเคารพอย่างเคร่งครัดต่อหลักการมนุษยธรรมและเขตอธิปไตยโดยไม่มีการข้ามพรมแดน และรับประกันว่าจะมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อระบุอัตลักษณ์และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและให้ความเคารพ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เสียชีวิตสูญหายหลังความตาย

7. กรณีมีความการขัดกันด้วยอาวุธทุกชนิด ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา ให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันหารือในระดับพื้นที่ผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งขยายตัวเป็นความขัดแย้งตลอดแนวชายแดน ซึ่งหากยืดเยื้อ จะทำให้กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและทหารของทั้งสองประเทศ และเป็นการสร้างความตึงเครียดระหว่างกันเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาร่วมกันมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

8. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะ:

8.1 ดำรงการสื่อสารตามปกติระหว่างภูมิภาคทหารและหน่วยต่าง ๆ ตามแนวชายแดนของทั้งสองฝ่าย และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาในทุกประเด็นด้วยสันติวิธีและหลีกเลี่ยงการปะทะกัน

8.2 จัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ภายในสองสัปดาห์หลังจากการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ตามระบบปกติในการหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ

8.3 ดำรงช่องทางการสื่อสารโดยตรงอย่างสม่ำเสมอในระดับรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสองประเทศ

9. ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะงดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข่าวปลอมเพื่อลดความตึงเครียด ลดความรู้สึกเชิงลบของสาธารณชน และส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาอย่างสันติ

II. กลไกสำหรับการดำเนินการหยุดยิง

10. ทั้งสองฝ่ายดำรงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมกันที่เกิดขึ้นในการประชุมพิเศษเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ซึ่งรวมถึงการหยุดยิงและการมีคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียนซึ่งนำโดยมาเลเซียเพื่อติดตามให้การหยุดยิงเกิดขึ้นในทางปฏิบัติ

11. ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะมอบหมายให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ในแต่ละพื้นที่ดำเนินการให้เกิดการหยุดยิงโดยมีคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียนนำโดยประเทศมาเลเซียประสานงานและสังเกตการณ์ ทั้งนี้ คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) จะประชุมกันอย่างสม่ำเสมอและส่งรายงานไปยังคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) ผ่านสายการบังคับบัญชาระดับชาติของแต่ละฝ่าย

12. ในระหว่างรอให้มีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ซึ่งนำโดยประเทศมาเลเซียตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน ณ เมืองปุตราจายา เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) ซึ่งประกอบด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำประเทศไทยหรือกัมพูชา และนำโดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารของประเทศมาเลเซีย จะถูกจัดตั้งขึ้นในแต่ละประเทศ คือ กัมพูชาและประเทศไทย เพื่อสังเกตการณ์การหยุดยิงของแต่ละฝ่ายอย่างสม่ำเสมอ โดยคณะ IOT ในแต่ละประเทศจะได้รับเชิญไปสังเกตการณ์จากประเทศเจ้าภาพโดยมีการหารือกับประเทศมาเลเซีย คณะ IOT จะสังเกตการณ์โดยไม่ข้ามพรมแดน และจะประสานงานและปรึกษาหารือกับคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) ของแต่ละประเทศอย่างใกล้ชิด

III. เวลาและสถานที่สำหรับการประชุมครั้งต่อไป

13. ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ครั้งถัดไปภายในหนึ่งเดือนนับจากวันที่ 7 สิงหาคม 2025 (จะหารือเพื่อกำหนดสถานที่ต่อไป) หากไม่เป็นเช่นนั้น ให้มีการเรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญโดยทันที โดยใช้รูปแบบเดียวกับการประชุม GBC สมัยวิสามัญในครั้งนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการหยุดยิง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกาะติดสถานการณ์เหตุปะทะไทย-กัมพูชา 6 ส.ค. 68 เจรจาแบบใดทำไมป่วนไม่พัก

มทภ.2 เมิน ฮุน เซน ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติหยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย

“ฮุนเซน” โต้ข่าวถูกไทยหมายหัวลอบสังหาร ลั่นยากที่จะเชื่ออย่างยิ่ง!

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เปิดรายละเอียด 13 ข้อผลการประชุม GBC ห้ามยิง-ห้ามยั่วยุ-ห้ามปล่อยเฟกนิวส์

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

- Website : https://www.pptvhd36.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PPTV HD 36

สภาพอากาศวันนี้ ไทยมีฝนมากขึ้น ภาคอีสาน-ตะวันออก-ใต้มีฝนตกหนัก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สัญญาณ 5 โรควิตกกังวลใกล้ตัวกว่าที่คิด วัยทำงานอย่าชะล่าใจ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สัญญาณ “เด็กหูตึง” ตรวจคัดกรองเร็ว พัฒนาการไม่สะดุด

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โภชนาการแก้เด็กเบื่ออาหาร แนะเมนูไม่น่าเบื่อ ช่วยเจริญอาหาร

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

เช็กผลโพล สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี 27.10% แนะ เปลี่ยนรัฐบาล

The Better

เผื่อเวลาเดินทาง วันนี้! มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นสนามสอบข้าราชการตำรวจ

สวพ.FM91

สรุปข่าวประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2568

AEC10NEWs

สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เปิดชื่อ 41 จังหวัด เตือนฝนถล่มหนัก น้ำท่วม

Khaosod

วันนี้กรุงเทพและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ60ของพื้นที่ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ2เมตร

สยามรัฐ

หลีกเลี่ยงเส้นทาง! ถนนรังสิต - นครนายก ผ่านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

สวพ.FM91

รัฐบาลไทยขอประณามกัมพูชา อย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล !!

TOJO NEWS

เช็ก 40 จังหวัดทั่วไทย มีฝนฟ้าคะนอง กทม.เจอ 40% ของพื้นที่

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ปมเบิกงบช่วยผู้อพยพชายแดนเพียง 55,000 บาท

PPTV HD 36

อึ้ง! ปะทะไทย-กัมพูชากว่า 2 สัปดาห์ อุบลฯเบิกเงินช่วยผู้อพยพแค่ 5.5 หมื่น

PPTV HD 36

ตร. รวบ "ไฮโซลูกนัท" พบปืน 20 กระบอก กระสุนพันนัด-โคเคน หลังบังคับหญิงให้เสพยา

PPTV HD 36
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...