โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

สนค. ผ่าโครงสร้างส่งออก ดัน “อิเล็กทรอนิกส์-ยานยนต์” พลิกโฉมเศรษฐกิจสู่ยุคใหม่

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดำเนินโครงการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างภาคการส่งออกเพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยในตลาดโลกให้เติบโตอย่างยั่งยืน

โดยโครงการศึกษาดังกล่าว เพื่อให้เห็นความสำคัญของการส่งออกต่อเศรษฐกิจไทยในฐานะเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาประเทศ แต่กำลังเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน อาทิ การต่อยอดในห่วงโซ่อุปทานของบริษัทข้ามชาติ การสร้างความเชื่อมโยงกับภาคเศรษฐกิจภายในประเทศทั้งเกษตรและอุตสาหกรรม และแรงกดดันจากการแข่งขัน รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ การเตรียมความพร้อมเพื่อปรับโครงสร้างการส่งออกจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ โดยต่อยอดศักยภาพการส่งออกที่มีอยู่เดิมพร้อมกับผลักดันสินค้าส่งออกศักยภาพใหม่ ๆ ที่มีโอกาสทางการตลาด นำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้แก่ภาคการส่งออกอย่างยั่งยืน

สำหรับผลการศึกษาวิเคราะห์โครงสร้างการส่งออกในภาพรวม พบว่า สินค้าอุตสาหกรรมยังคงเป็นหัวใจหลักของการส่งออกไทย สัดส่วน 80% โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และเครื่องจักร

ขณะที่สินค้าเกษตรและอาหารก็มีบทบาทเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในหมวดสินค้าแปรรูป เช่น ไก่ ปลา และผลไม้ (ทุเรียน มะพร้าว มังคุด) ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมที่ไทยมีความได้เปรียบในตลาดโลก คือ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ไม้ กระดาษ เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอากาศยาน

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า แม้ว่าหลายสินค้าไทยจะมีความสามารถหรือศักยภาพในการส่งออก แต่หากพิจารณามิติอื่น ๆ เช่น โครงสร้างตลาดส่งออกที่กระจุกตัวสูงจนเกินไป จะเป็นสิ่งที่ทอนศักยภาพการส่งออก

สำหรับแนวทางการปรับโครงสร้างการส่งออกในสินค้าเกษตรและอาหาร ควรให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบที่เกื้อหนุนกับในกลุ่มอาเซียน พร้อมกับการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์รูปแบบอื่น ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ควบคู่กับปัจจัยเกื้อหนุนอื่น ๆ เช่น โครงการซอฟต์พาวเวอร์ และกระแสรักษาสิ่งแวดล้อม

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

ด้านสินค้าอุตสาหกรรม ควรให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งแต่ละสินค้ามีพื้นที่การต่อยอดมูลค่าเพิ่มแตกต่างกันตามธรรมชาติของสินค้า ดังนั้นการส่งเสริมควรมุ่งอำนวยความสะดวก เช่น การใช้มาตรการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และการยกระดับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยเฉพาะการวิจัย พัฒนา ทดสอบ และรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ ที่ต้องคู่ขนานในลักษณะผสมผสานระหว่างการแปรรูปง่าย (Margin ต่ำแต่ได้ปริมาณ) กับการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ (Margin สูงกว่า แต่มีความไม่แน่นอน และใช้เวลาเพื่อให้สินค้าติดตลาด)

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า โครงการศึกษานี้ยังได้มีการศึกษาเชิงลึกเพื่อเป็นแนวทางในการยกระดับการส่งออกผ่านการผลักดัน 2 คลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการยกระดับภาคการส่งออก ได้แก่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ (NGEC) ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ที่มีศักยภาพขับเคลื่อนภาคการส่งออกของไทยในระยะปานกลาง 4-5 ปีข้างหน้า เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติ

โดยเป็นประเด็นสงครามการค้า-เทคโนโลยี และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งทำให้บริษัทข้ามชาติเพิ่มการลงทุนในไทย สะท้อนจากการย้ายฐานการลงทุน ทั้ง Front-end และ Back-end Wafer Fabrication และการขยายการลงทุนของหลายบริษัท ผลิตภัณฑ์ที่่มีศักยภาพสูง ได้แก่ Integrated Circuits ตัวขยายสัญญาณ และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ การผลักดันให้เกิดห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศจะเป็นกลยุทธ์สำคัญในการรักษาความสามารถการส่งออกอย่างยั่งยืน และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาการนำเข้าชิ้นส่วนจากจีน ควบคู่กับการมียุทธศาสตร์ระดับชาติและการสร้างพันธมิตรทางการค้าที่มี ASEAN เป็นศูนย์กลาง

ขณะที่การเพิ่มศักยภาพการผลิตและส่งออก ด้วยการสนับสนุนแหล่งเงินทุนระยะปานกลาง การกระตุ้นผ่านการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยรายย่อย และการเตรียมรับมือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด (Shock) เช่น ปัญหาการสวมสิทธิต่าง ๆ จะเป็นสิ่งที่ทำให้ไทยใช้ศักยภาพของ NGEC ได้เต็มที่

โดยหากมีการดำเนินมาตรการเหล่านี้จะมีส่วนช่วยผลักดันให้การส่งออกในระยะสั้นเพิ่มขึ้นระหว่าง 6,000 – 7,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อให้เกิดการลงทุนใหม่กว่า 70,000 ล้านบาทต่อปี

สำหรับคลัสเตอร์ยานยนต์แห่งอนาคต (NGMC) ไทยยังคงเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์รายใหญ่ของโลก โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ขนาดกลาง รวมถึงชิ้นส่วนจำพวกชิ้นส่วนพลาสติกและยาง ชิ้นส่วนอื่น ๆ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ดี ความต้องการในประเทศชะลอตัวลงจากการแข่งขันของ BEV นโยบายอุดหนุน และภาวะเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ การกระตุ้นการส่งออกจึงเป็นทางออกของ NGMC สำหรับการส่งเสริมการส่งออกรถยนต์ ไทยจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต การลดต้นทุนที่เกิดจากกฎระเบียบ และการสนับสนุนจากรัฐในด้านการตรวจสอบมาตรฐานและเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการไทย

ขณะที่กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ยังสามารถต่อยอดไปสู่ตลาดใหม่ เช่น REM (Replacement Market) และสร้างความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่น นอกจากนั้น สินค้าศักยภาพในอนาคตคือกลุ่ม Smart Auto Parts

ซึ่งเชื่อมโยงระหว่าง NGMC และ NGEC ถือเป็นพื้นที่ใหม่ที่ควรเร่งสนับสนุนทั้งเชิงเทคโนโลยี มาตรฐาน และการเข้าถึงแหล่งทุน

นอกจากนั้น การจัดหาแหล่งเงินทุนระยะปานกลางที่ให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานการผลิตในระยะยาวของประเทศประกอบการปล่อยสินเชื่อ โดยผลของมาตรการเหล่านี้จะทำให้การส่งออกในระยะสั้นเพิ่มขึ้นระหว่าง 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อให้เกิดการลงทุนใหม่กว่า 70,000 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ สนค. จะนำผลการศึกษาเชิงลึกและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาและยกระดับภาคการส่งออกของไทย ส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ นำไปร่วมขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรม และภาคเอกชนได้ใช้ประโยชน์ประกอบการตัดสินใจวางกลยุทธ์ในการเปลี่ยนผ่านการผลิตจากกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมศักยภาพมูลค่าสูงที่สอดคล้องกับความต้องการของโลกอนาคตต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

Conicle ผนึกกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดัน e-Learning พลิกวิกฤตแรงงาน

38 นาทีที่แล้ว

ดอกเบี้ยลดปัจจัยรอง! GDP-เรียลดีมานด์หนุนรับสร้างบ้านครึ่งปีหลัง

58 นาทีที่แล้ว

ยกเลิกใบอนุโมทนาบัตร ‘ทำบุญผ้าป่า-กฐิน’ ลดหย่อนภาษียังไง?

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ครม. ถกวาระลับ กลาโหม พ่วงชายแดนไทย-กัมพูชา แต่งตั้งโยกย้าย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

ดราม่าสนั่น! สตง. ร่อนเอกสารแจงยับ หลัง คว้าอันดับ 1 องค์กรอิสระโปร่งใสสูงสุด ปี 2568

THE ROOM 44 CHANNEL

ทำความรู้จัก "ฉัตรชัย บางชวด" เลขาฯ สมช.พยานปากเอก ในคดีคลิปเสียงนายกฯอิ๊งค์

THE ROOM 44 CHANNEL

"สตง." คว้าอันดับ 1 รางวัล ITA ปี 68 ประเภทองค์กรอิสระ

Thai PBS

พลทหารตาซ้ายสูญเสียการมองเห็นจากเหตุสู้รบภูมะเขือ กลับรักษาตัวบ้านเกิด

Thai PBS

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2568 กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่

สวพ.FM91

ยกเลิกใบอนุโมทนาบัตร ‘ทำบุญผ้าป่า-กฐิน’ ลดหย่อนภาษียังไง?

ฐานเศรษฐกิจ

ครม. ถกวาระลับ กลาโหม พ่วงชายแดนไทย-กัมพูชา แต่งตั้งโยกย้าย

ฐานเศรษฐกิจ

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 สิงหาคม 2568

สวพ.FM91

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...