โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

ทันหุ้น

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทันหุ้น – บล.ฟินันเซียไซรัส มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาดว่า SET Index อยู่ในช่วงชะลอความร้อนแรงและทดสอบแนวรับหลักระยะสั้นโซน 1,230-1,240 จุด ภาพรวมตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ที่ชัดเจน ขณะที่ความเสี่ยงที่ต้องติดตามในช่วงที่เหลือของเดือนนี้อยู่ที่การเมืองในประเทศ ทั้งการตัดสินคดี ม.112 คุณทักษิณของศาลวันที่ 22 ส.ค. และโดยเฉพาะคดีคลิปเสียงนายกฯ ซึ่งศาลฯ นัดวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองโดยเฉพาะกรณีพ้นจากตำแหน่งและต้องทำคณะรัฐมนตรีต้องหลุดทั้งคณะ

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ GDP 2Q25 ไทยแม้จะออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย (+0.6% q-q, +2.8% y-y) แต่ประมาณทั้งปีที่ +2% สะท้อนว่าการเติบโตใน 2H25 จะอยู่ที่เพียง 1-1.5% ซึ่งชะลอตัวค่อนข้างแรงจากครึ่งปีแรก นอกจากนี้คาดการให้ Outlook ผลประกอบการช่วง 2H25 จากผู้บริหารยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามว่าจะเชื่อมั่นหรือกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจ

อย่างไร และจะเห็นการปรับลดประมาณการ EPS ลงอีกเล็กน้อยหรือไม่ ด้านปัจจัยต่างประเทศการพบกันระหว่างทรัมป์ เซเลนสกี และผู้นำยุโรป โดยรวมมีความคืบหน้า โดยทรัมป์ระบุว่าปูติน เซเลนสกี และทรัมป์เตรียมจะพบกันในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งหากสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงหรือหยุดสงครามได้ จะเป็น Sentiment บวกต่อบรรยากาศการลงทุน ขณะที่ราคาน้ำมันมีโอกาสชะลอตัวลงต่อ ภาพรวมเรายังคงมุมมองว่าหุ้น Consumer Staple และ Defensive ที่ยัง Laggard ตลาด โดยกระทบจากภาษีทรัมป์รวมถึงการเมืองจำกัดคาดปรับตัวได้ดีกว่าตลาดระยะนี้

กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้นที่ยัง Laggard ตลาดและมีกำไร 2Q25 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : BDMS, CPALL, CPN, MTC, SCGP
FSSIA Portfolio : BA, BDMS, CENTEL, CPALL, KBANK, MTC, NSL, OSP, STECON

หุ้นเด่นวันนี้ : SYNEX
• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 13.76 บาท
• โมเมนตัมการเติบโต y-y ใน 2H25 คาดว่ายังใกล้เคียงกับ 1H25 ที่ +17% y-y หนุนจากการเปิดตัวสินค้า IT ต่อเนื่องทั้ง iOS และ Android ด้าน Nintendo Switch 2 อาจมีชะลอตัวบ้างในเดือน มิ.ย. แต่คาดกลับมาดีขึ้นหลังได้ Supply Lot ใหม่ใหม่ในเดือน ก.ย. และมียอดขายเกมส์มากขึ้น
• ยังคงมุมมองกำไร 3Q25 ยังทำ New High ได้ต่อเนื่อง และมีโอกาสกลับรายได้ Credit Loss ราว 10 ลบ.ในระยะถัดไปเนื่องจากลูกค้าคาดว่าจะได้รับเงินจาก End User ด้านราคาหุ้นปรับตัวลงแรง 12.5% จาก High ช่วงสัปดาห์ก่อน ทำให้ Upside เปิดกว้าง เป็นจังหวะในการเข้าลงทุนอีกครั้ง
• แนวรับ 11//10.50 บาท แนวต้าน 11.60-12 บาท

บล.ดาโอ คาดดัชนีฯ ผันผวน นักลงทุนรอดูความชัดเจนหลายตัวแปร จับตาจุดรับสำคัญ 1240 โดยตลาดหุ้นไทย ยังไม่สามารถนำตัวเองผ่าน 1280 จุด ขึ้นไปได้ ซึ่งอาจมาจากหลายเหตุผล อาทิ ส่งงบจบหมดแล้ว นักลงทุนถอยไปรอดู event สำคัญของการเมืองปลายสัปดาห์นี้ ต่างชาติขายหุ้นเอเซีย และการร่วงลงของหุ้น THAI เราประเมินเช้านี้อาจมีการ rebound ให้เห็น แต่หากน้ำหนักตัวแปร ยังเป็นลบมากกว่าบวก โอกาสที่ดัชนีฯ จะลงไปต่ำกว่า 1240 จุด จึงยังมีอยู่ โดยกลยุทธ์ลงทุนวันนี้ เน้นถอยไปตั้งรับ

ปัจจัยต่างประเทศ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง และพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพสำหรับยูเครน และสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ โดยบางส่วนหันไปรอการประชุม Jackson Hole …. นักวิเคราะห์เตือนให้ระมัดระวังต่อปัจจัยช็อกทางการเมืองที่ไม่คาดคิด ความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการค้าที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง
  • บริษัทในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลกำไรรายไตรมาสที่เพิ่มขึ้นดีกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่อัตรากำไรได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นต่อภาษีศุลกากรมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตามความเห็นของนักยุทธศาสตร์ของ Goldman Sachs
  • กระแส Fund Flow ยังไหลออกจากตลาด Asia ติดตาม 3 ตลาดหลักเริ่มมีแรงขายออก (เกาหลีใต้-ไทย-ไต้หวัน) ลุ้นไต้หวันจะยังคงมี Net Buy ต่อไปได้หรือไม่ ตลาดหุ้นไทยเป็นอีกหนึ่งตลาดที่จะได้รับผลกระทบจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างประเทศในภูมิภาคนี้ด้วย
  • ผลการประชุมสุดยอด ระหว่าง ประธานาธิบดี ทรัมป์ กับผู้นำยูเครน เซเลนสกี และผู้นำสหรัฐฯโทรคุย ออกมาในโทนบวก ….ทรัมป์เห็นด้วยกับคำขอสำคัญสองประการ ได้แก่ การเข้าร่วมในการค้ำประกันความปลอดภัยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพ แต่สงวนการหารือเรื่องการแลกเปลี่ยนดินแดนไว้สำหรับการเจรจาโดยตรงกับปูติน
  • ติดตามการประชุม PBOC (ธนาคารกลางจีน) 20 ส.ค.นี้ จะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่ พร้อมลุ้นจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งไทยอาจได้รับอานิสงส์ด้วย

ปัจจัยในประเทศ :

  • การเมือง กลับมาเป็นตัวแปรสำคัญของตลาดอีกครั้ง ศาลฎีกานัดตัดสินคดี ม.112 ของนายทักษิณในวันที่ 22 ส.ค. และการตัดสินคดีของนายกฯ โดยศาล รธน. ในวันที่ 29 ส.ค ซึ่งอาจทำให้ตลาดเผชิญแรงขายเพื่อลดความเสี่ยง ก่อนทราบคำ(ผล)ตัดสิน
  • รายงาน GDP ไตรมาส 2/68 ขยายตัว 2.8% (คาดการณ์ 2.7%; ครั้งก่อน 3.2%) และครึ่งปีแรก โต 3.0% โดยปัจจัยหลักที่ขยายตัว คือ ภาคการส่งออกและบริการ ส่วนภาคการบริโภคหดตัวลงต่อเนื่อง (contributions Q2/68 +1.3%; Q1/68 +1.4%) สะท้อนประชาชนระวังการใช้จ่าย และรัฐบาลที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นเพียงพอ ทั้งนี้ภาคการลงทุนโดยเฉพาะภาคเอกชนยังคงขยายตัวได้อยู่ สภาพัฒน์ให้ช่วงคาดการณ์ GDP ปีนี้ที่ 1.8-2.3%
  • บริษัทในตลาดหุ้น รายงานกำไรไตรมาส 2/68 จบไปแล้ว (กำไร SET จบที่ 3.38 แสนลบ. +31.6% yoy ; +22.7% qoq) …. หลังจากนี้ให้ติดตามบทวิเคราะห์หุ้นรายตัวว่าจะมีการ Upgrade หรือ Downgrade ตามงบที่ออกมาของหุ้นนั้นๆ
  • สัปดาห์นี้ คาดว่า ธนาคารต่างหลายแห่งจะทยอยประกาศเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นธนาคาร ถ้า เงินปันผลจ่ายรอบนี้ สูงหรือต่ำกว่าที่คาด ทั้งนี้ เงินปันผลระหว่างกาล หรือ Interim ปีก่อน (2567) SCB@2.00, BBL@2.00, KBANK@1.50, TTB@0.065
  • Event วันนี้ : การประชุม ครม. และ ธปท.แถลงผลการดำเนินงาน 2Q ของธนาคารพาณิชย์

Technical : BCH, KAMART

ขณะที่ บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,230 – 1,240 แนวต้าน 1,250 – 1,260 คาดดัชนีมีโอกาสทรงตัว ระหว่างผลการประชุม ธ.กลางที่แจ๊คสัน โฮล ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยหรือไม่ และรอคำวินิจฉัยคดี 112 ของคุณทักษิณ, คดีคลิปเสียงนายก ฯ ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่น GULF,GPSC,SAWAD,TIDLOR,TCAP ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง/ เก็งกำไร CENTEL,ERW,MINT,CRC หลัง ก.คลังเปิดโครงการ Tourist Digiplay ให้สิทธิต่างชาตินำสินทรัพย์ดิจิทัล แลกเงินบาทไม่เกิน 5 แสนบาท/เดือน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย

BPP* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.65 บาท) บริษัทรายงานกำไร 2Q68 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท -122%QoQ, +30%YoY มีปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้า HPC และ BLCP ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่มีหยุดซ่อมตามแผน ส่วนใน 3Q68 คาดกำไรยังอยู่ในเกณฑ์ดีแม้ผ่าน Peak season ของการใช้ไฟฟ้าในไทย แต่คาดว่าจะได้แรงหนุนจากโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนซึ่งในรัฐ ส่งผลบวกต่อปริมาณขายไฟฟ้าและค่าไฟฟ้าของ Temple I & II ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์กำไรในปี 68 ไว้ที่ 3.7 พันล้านบาท +117%YoY

ADVICE* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.40 บาท) กลุ่มสินค้าไอมี Demand จากการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(เช่น AI PC) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น ด้าน ADVICE* เองรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 75 ลบ.(+23%YoY, +18%QoQ) SSSG +21.84%YoY มีแรงหนุนจากกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟน ทั้งนี้ ทางผู้บริหารวางเป้ารายได้ปีนี้ +20%YoY ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสมาร์ทโฟนเป็น 50% ภายในปี70 (ปัจจุบัน 25%) ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ ADVICE* จะอยู่ที่ระดับ 268 ลบ.(+15%YoY) และ 311 ลบ.(+16%YoY)

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

KGI จัด 3 หุ้นเด่น แนะเก็งกำไร ตามปัจจัยพื้นฐาน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"เอเซีย พลัส" แนะสะสม 8 หุ้นช่วงตลาดย่อตัว-ชี้กำไรบจ.เติบโต

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

COM7 กำไรเกินคาด จับตา iPhone 17 หนุนโตต่อครึ่งปีหลัง

หุ้นวิชั่น

PRINC Group ผนึก รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เสริมแกร่ง “ท่าเรือ เอฟซี” ลุยศึกไทยลีก 2025/26

Share2Trade

TMI ได้รับคะแนนประเมิน “AGM CHECKLIST” 2568 ระดับ “ดีเยี่ยม”

Share2Trade

ผงาด! 7 หุ้นคึกคัก รับสัญญาณบวก Data Center

หุ้นวิชั่น

COM7 ท็อปฟอร์ม Q2/68 กำไรพุ่งกว่า 33% มองครึ่งปีหลังไฮซีซั่น พร้อมรุก Taxi EV - สินเชื่อ UFUND ประกัน iCare เสริมทัพ หนุนเป้ารายได้ทะลุ 8 หมื่นล้านบาท

Share2Trade

หลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินหุ้นไทยครึ่งหลังปี 2568 ผันผวน ลุ้นฟื้นตัวสู่เป้าหมาย 1,280 จุด

Share2Trade

XO โกลเบล็กแนะ “ถือ” ราคาเหมาะสม 18.60 บ.

หุ้นวิชั่น

JPARK ฟื้นตัวแรง โบรกฯให้เป้าสูงสุด 7.40 บาท Upside เพียบ มองครึ่งปีหลังโตทั้ง YOY และ QOQ

Share2Trade

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...