โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สำรวจแนวคิดเบื้องหลังงาน ‘Rueben Wu’ ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะท่ามกลางธรรมชาติจากเทคโนโลยี

a day magazine

อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • a day magazine

อย่างที่ทุกคนเห็นในปัจจุบันว่า โลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ธรรมชาติที่เราเคยมองว่ามันสวยงาม ก็เริ่มทยอยเลือนหายไปทีละเล็กทีละน้อย ผู้คนมากมายต่างเฟ้นหาวิธีที่จะรักษาความงดงามเหล่านี้ให้คงอยู่ต่อไป ซึ่งบางสิ่งที่เรามองข้าม อย่าง ‘ศิลปะ’ ก็อาจมีบทบาทในการอนุรักษ์มากกว่าที่เราคิด

แล้วเราจะทำให้ผู้ที่เข้ามาชมงานศิลปะรับรู้หรือตระหนักต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติได้อย่างไร?

นี่ถือโจทย์สำคัญที่ทำให้ รูเบน วู (Ruenen Wu) ศิลปิน ช่างภาพ และนักดนตรีชาวอังกฤษ ลุกขึ้นมาใช้งานศิลปะ ในการทำให้ผู้คนเห็นถึงความสำคัญและความงดงามของธรรมชาติ ด้วยการผสานโลกของเทคโนโลยีและโลกของศิลปะ พร้อมใช้พวกมันเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องราวของธรรมชาติ

แม้ฟังดูแล้ว เทคโนโลยี ศิลปะ และธรรมชาติ จะเป็น 3 สิ่งที่ดูไม่ได้อยู่ในแวดวงใกล้กันสักเท่าไหร่ หากแต่สิ่งเหล่านี้กลับสามารถร้อยเรียงกันได้อย่างน่าสนใจในผลงานทุกชิ้นของรูเบน

อะไรคือแนวคิดเบื้องหลังสำคัญที่อยู่ภายในผลงานศิลปะของรูเบน วู แล้วการโคจรมาเจอกันของโลกเทคโนโลยีกับโลกศิลปะ มีส่วนต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติได้อย่างไรบ้าง?

ศิลปะของรูเบน วู

ถ้าจะเข้าใจผลงานทุกชิ้นของรูเบน วู อย่างลึกซึ้ง ก็คงต้องขอเริ่มกันที่เรื่องราวชีวิตของรูเบนกันเสียก่อน เพราะร้อยทั้งร้อยของงานศิลปะ ล้วนเป็นภาพสะท้อนเรื่องราวในชีวิตของศิลปินเองนี่แหละ

และจุดเริ่มต้นของศิลปินหลายคนก็มักเริ่มต้นมาจากช่วงชีวิตในวัยเด็ก รูเบนก็เช่นกัน เขาสนใจศิลปะมาตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความที่เป็นเด็กเก็บตัว แถมไม่เก่งกีฬา ทำให้เขาแทบจะเข้ากับใครในโรงเรียนไม่ได้เลย สิ่งเดียวที่ทำให้ชีวิตวัยเด็กของรูเบนผ่านไปได้ คือ ศิลปะ งานออกแบบ และดนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาและโอบรับตัวเขาในวัยเด็กเอาไว้

ความชอบเหล่านี้ของรูเบน กลายมาเป็นพื้นฐานสำคัญทางความคิดของเขาจวบจนโตเป็นผู้ใหญ่ ในวันที่เขาได้ทำงานอันต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มตัว เขามักตระหนักอยู่เสมอว่า การไม่เข้ากับใครเลย คือความโดดเด่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หลายคนต้องการ และเขามีมันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

นอกจากนี้ศิลปินจากยุคโรแมนติกอย่าง คาสปาร์ ดาวิด เฟรดริค (Caspar David Friedrich) ยังมีอิทธิพลทางความคิด ตลอดจนเป็นแรงบันดาลใจสำคัญต่อผลงานและภาพถ่ายของรูเบนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับภาพ 'Wanderer above the Sea of Fog' ซึ่งชวนให้เรามองออกไปยังผืนดินอันกว้างใหญ่ พร้อมสัมผัสความลึกลับของธรรมชาติในภาพวาด

ผลงานส่วนใหญ่ของรูเบนจึงคล้ายคลึงกับภาพดังกล่าวของคาสปาร์ โดยเน้นไปที่การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของการสำรวจธรรมชาติอันแสนยิ่งใหญ่ ทั้งจากโลกที่อยู่รอบตัวและในกระบวนการสร้างสรรค์ของตนเอง พร้อมด้วยคอนเซปต์การหลอมรวมระหว่างความเป็นจริงกับสิ่งที่เรายังไม่อาจล่วงรู้

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่รูเบนจะก้าวสู่เส้นทางช่างภาพและศิลปินอย่างเต็มตัว เขาเคยร่วมกับเพื่อนอีกสามคนในเมืองลิเวอร์พูล ก่อตั้งวงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ชื่อ ‘Ladytron’ เมื่อปี ค.ศ. 1999 โดยรับหน้าที่เล่นเครื่องซินธิไซเซอร์ (Synthesizer) ประจำวง

ในระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตกับวง เขามักเจียดเวลาออกมาถ่ายภาพเป็นกิจกรรมเสริม กระทั่งในปี 2011 รูเบนตัดสินใจออกเดินทางเพื่อไปถ่ายภาพเพียงอย่างเดียว โดยจองทริปสิบวันไปที่ สวาลบาร์ด (Svalbard) ดินแดนที่ใกล้ขั้วโลกเหนือที่สุด ตัวเขาได้พกกล้องฟิล์มเก่าไปหกตัว ออกสำรวจความเวิ้งว้างของอาร์กติก ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่เพิ่งกลับมาหลังจากห่างหายไปจากท้องฟ้ากว่าหลายเดือน ประสบการณ์ครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางในฐานะช่างภาพมืออาชีพ ที่ทำให้ตัวเขารู้ว่ามันคือสิ่งที่อยากทำไปตลอดชีวิต

จุดเปลี่ยนหนึ่งในชีวิตของรูเบน เกิดขึ้นในปี 2013 เมื่อเพื่อนสนิทของเขาคนหนึ่ง ได้ชวนให้มาถ่ายภาพกับโปรเจกต์ศิลปะเชิงพาณิช จากงานนั้น ทำให้ตัวเขาได้รู้จักช่างภาพคนหนึ่ง ซึ่งช่างภาพคนนั้นได้แนะนำให้เขาลองนำผลงานไปโชว์ในงานพบปะแลกเปลี่ยนเครือข่ายที่เรียกว่า ‘Portfolio Review’ และในงานนั้น รูเบนก็ได้พบกับผู้อำนวยการฝ่ายภาพถ่ายของ National Geographic

ในเวลาต่อมา ผู้อำนวยการฯ ก็ได้ชวนตัวของรูเบนไปประชุมประจำปีของ National Geographic ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และไม่นานหลังจากนั้น นิตยสารก็ได้มอบหมายภารกิจให้เขาออกไปถ่ายภาพสโตนเฮนจ์ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ ภาพนั้นได้ขึ้นปกนิตยสารประจำเดือนสิงหาคม 2022 ด้วย จึงกลายเป็นความสำเร็จในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่รูเบนเริ่มหันมาทำอาชีพช่างภาพอย่างจริงจัง

เทคนิคสำคัญที่ทำให้ภาพของรูเบนไม่ใช่เพียงภาพวิวทิวทัศน์ธรรมดา แต่กลายเป็นงานศิลปะจากภาพถ่าย นั่นคือ การใช้โดรนเลเซอร์ และเปิดรับแสงของกล้องให้นานกว่าปกติ เพื่อให้เกิดเป็นรูปร่างรูปทรงต่างๆ ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติ

รูเบนได้พัฒนาภาษาภาพถ่ายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสานการถ่ายภาพ งานออกแบบ และเทคโนโลยีเชิงสมมุติ (Speculative Technology) เข้าด้วยกัน อย่างในงาน Thin Places วูถ่ายทอดภาพภูมิทัศน์ที่ดูราวกับว่าแสงประดิษฐ์และพื้นที่ธรรมชาติมาบรรจบกันครึ่งทาง ภาพทั้งหมดถูกบันทึกในสถานที่จริงแบบช็อตเดียว (Single Exposure) โดยใช้โดรนและเลเซอร์วาดลวดลายเรขาคณิตชั่วขณะลงบนสภาพแวดล้อม

การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในงานถ่ายภาพทิวทัศน์ทั่วไป กลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างความงดงามของธรรมชาติกับจินตนาการของมนุษย์ ทำให้ภาพถ่ายไม่ได้เป็นเพียงการบันทึกสิ่งที่ตาเห็น หากแต่เป็นการสร้างประสบการณ์อีกรูปแบบให้แก่ผู้ชม ตลอดจนการตีความธรรมชาติในอีกรูปแบบหนึ่ง

เมื่อโลกเทคโนโลยีมาบรรจบโลกศิลปะเพื่องานอนุรักษ์

ลองนึกถึงภาพถ่ายของทะเลสาบอันแสนกว้างใหญ่ที่ถูกขีดเส้นเรืองแสงด้วยโดรนและเลเซอร์ ทุกคนคิดว่ามันเป็นศิลปะหรือไม่? แล้วมันมีความเป็นศิลปะมากแค่ไหนกัน?

สำหรับหลายคน อาจเกิดข้อโต้แย้งระหว่างเทคโนโลยีและศิลปะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยไปด้วยกันเท่าไหร่นัก เพราะสิ่งหนึ่งมีเป้าหมายเพื่อการก้าวหน้า ทว่าอีกสิ่งคือตัวแทนของความจรรโลงใจของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นข้อถกเถียงสำคัญในปัจจุบันถึงการร่วมกันของทั้งสององค์ความรู้ ตัวอย่างประเด็น เช่น เราสมควรใช้ AI ในงานศิลปะหรือเปล่า และศิลปะควรออกมาจากฝีมือมนุษย์ 100% มั้ย

แม้ข้อโต้แย้งเหล่านั้นจะชวนให้เราต้องตั้งโต๊ะโต้เถียงกันไม่หยุดหย่อน แถมมันยังชวนให้ถามต่ออีกว่า การสร้างงานด้วยเทคโนโลยีอย่างโดรน ไม่ใช่จากฝีมือมนุษย์ทั้งหมด อย่างงานของรูเบนนี้ มันจะยังคงเป็นศิลปะอยู่ไหม

หากมองให้ลึกลงไปมากขึ้นผ่านงานของรูเบน วู ตัวเขาไมได้ใช้เทคโนโลยีในการสร้างงานศิลปะ หากแต่ใช้มันในการเป็นเครื่องมือ สำหรับช่วยสร้างงานศิลปะ ซึ่งมันถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขยายความงดงามจากธรรมชาติ ตลอดจนสร้างมิติใหม่ให้ผู้ชมได้สัมผัส รับรู้ และตีความธรรมชาติในมุมที่ตาเปล่าอาจไม่เคยเห็น

อีกทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้ในงานศิลปะของรูเบน ยังมีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยเช่นกัน โดยมันช่วยดึงความสนใจของผู้คนให้กลับมามองเห็นคุณค่าและความเปราะบางของสิ่งแวดล้อม ผ่านภาพถ่ายที่ทั้งสวยงามและแฝงไปด้วยนัยสำคัญ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปกป้องโลกใบนี้

หนึ่งในนั้นคือซีรีส์ Aeroglyphs ซึ่งเป็นชุดรวมภาพถ่ายจากเดินทางไปสถานที่และภูมิประเทศอันแสนห่างไกลของโลก ตัวเขามีเป้าหมายคือการแบ่งปันความงดงามและความพิเศษของธรรมชาติให้ผู้คนได้เห็น ตลอดจนรู้สึกใกล้ชิดกับมันมากยิ่งขึ้น

“ถ้าผมสามารถเปลี่ยนมุมมองของคนต่อโลกใบนี้ จนพวกเขาช่วยกันรักษาสถานที่เหล่านี้ไว้ได้ ผมก็มีความสุขแล้ว”

ผลงานของรูเบน วู จึงตอกย้ำให้เราเห็นว่า หากเราหยิบเอาเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม โดยใช้มันเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยเหลือ ไม่ใช่แทนที่ เทคโนโลยีเหล่านั้นก็สามารถเป็นแรงสนับสนุนสำคัญ ที่สามารถช่วยเสริมสร้างและขยายขอบเขตของงานศิลปะให้กว้างมากขึ้นได้ อีกทั้งมันยังสามารถสร้างคุณูปการต่อด้านอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน

เมื่อเทคโนโลยียังคงพัฒนาไปข้างหน้าเรื่อยๆ และวงการศิลปะก็คงแผ่ขยายความสร้างสรรค์ไม่หยุดนิ่ง เราอาจต้องรอชมกันต่อไปว่า ในอนาคต เราจะได้เห็นความสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ จากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและศิลปะอีก แล้วมันจะมีบทบาทต่อโลกของเราในแง่ใดบ้าง

อ้างอิงจาก

worldwildlife.org

liverpoolmuseums.org.uk

designboom.com

reubenwu.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก a day magazine

‘ยิ่งเสพติดคอนเทนต์ ยิ่งอยากซื้อของ’ ชวนดูเหตุผลที่ทำให้เรามีลิสต์ของที่อยากได้เก็บไว้ในตะกร้าเพิ่มขึ้นไม่รู้จบ

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘Creative Spark’ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์จากผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าสู่ครีเอทิฟรุ่นใหม่

22 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

แม่ทัพเดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดโครงการ 'รักแผ่นดิน' รวมพลังคนไทยช่วยครอบครัวทหาร

ประชาชาติธุรกิจ

วันสารทจีน -วันไหว้พระจันทร์ 2568 ตรงกับวันไหน เช็กเลย

ฐานเศรษฐกิจ

“มูนเค้กในกล่องหกเหลี่ยมสง่างาม” จาก Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit

Gourmet & Cuisine

Lamborghini Fenomeno ขุมพลัง V12 แรงสุดในประวัติศาสตร์สายพันธุ์กระทิงดุ

Manager Online

LIVE ถ่ายทอดสดวอลเลย์บอลหญิง ไทย พบ จีน กระชับมิตร วันนี้ 19 ส.ค.68

PostToday

ปฏิทิน กันยายน 2568 มาเปลี่ยนวันทำงานให้เป็นวันสนุกกันเถอะ

Thai PBS

แมวห้ามกินอะไร? อาหารต้องห้าม! ที่ทาสแมวต้องรู้ ก่อนให้เจ้าเหมียวเสี่ยงตายโดยไม่รู้ตัว

sanook.com

ดาว ลภัสรดา CEO รพ.มาสเตอร์พีช ทำบุญวันเกิด

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘Creative Spark’ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์จากผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าสู่ครีเอทิฟรุ่นใหม่

a day magazine

‘เป็นผู้ใหญ่แต่ก็อยากได้ของเล่นอยู่ดี’ รู้จักเทรนด์ ‘Kidult’ เมื่อความสุขจากการสนใจของในวัยเด็กเป็นปรากฏการณ์ที่ตีความคำว่า ‘ผู้ใหญ่’ ในอีกแบบ

a day magazine

การกลับมาโคจรของดวงดาว ‘STOONDIO’ The Unseen Star’s Still Here ถึงจะมองไม่เห็น แต่ฉันยังอยู่ตรงนี้นะ!

a day magazine
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...