อนาคต “อิ๊งค์” เดิมพันสุดท้าย “เพื่อไทย” ?
นับถอยหลัง เข้าสู่โหมดลุ้นระทึก ! เหลืออีกเพียง 2 วัน “คำวินิจฉัย” จากศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ว่า “การเมืองไทย” จะเดินหน้าต่อไปในทิศทางไหน “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม จะอยู่หรือไป !?
โดยในวันศุกร์ที่ 29 ส.ค.นี้ นายกฯแพทองธาร จะไปรอลุ้นคำวินิจฉัย ที่ทำเนียบรัฐบาล และจะส่ง “ตัวแทน” ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่ในส่วนของรัฐมนตรีและสส.ของพรรคเพื่อไทย จะตบเท้าเข้าทำเนียบฯเพื่อไปให้กำลังใจและรอลุ้นร่วมกัน
และไม่ว่า ผลจะออกมาอย่างไร หลังสิ้นคำวินิจฉัย จากศาลรัฐธรรมนูญ นายกฯแพทองธาร จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการด้วยตนเอง ที่ทำเนียบฯ หมายความว่า หากผลออกมาเป็นบวก นายกฯอิ๊งค์ จะได้กลับเข้าไปทำงานอีกครั้ง
แต่หากผลออกมาในทางที่เป็น ลบ การแถลงข่าวของนายกฯแพทองธาร ในวันที่ 29 ส.ค.นี้จะถือโอกาส “อำลา” ทำเนียบรัฐบาล
อย่างไรก็ดี บรรยากาศก่อนถึงวันพิพากษา คดีคลิปเสียง 29 ส.ค. นี้ ดูเหมือนว่าหลายฝ่าย “จับสัญญาณ” กันได้ว่า นายกฯแพทองธาร เองมีท่าทีผ่อนคลาย ไม่ได้เก็บตัวและเครียดหนัก โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าตัวเข้าไปทำงานที่กระทรวงวัฒนธรรม การประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
แน่นอนว่า หาก “นายกฯอิ๊งค์” รอด “พรรคเพื่อไทย” ก็ต้องรอดไปด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สภาพของพรรคเพื่อไทยทั้งในสภาฯ ที่เป็น “รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ” ต้องคอยลุ้นว่า สภาฯจะล่มเอาวันไหน
นอกจากนี้ยังพบว่า “กระแสความนิยม” ของพรรคลดลงต่ำต่อเนื่อง จนมีการประเมินกันว่า “ความเสียหาย” ของพรรคเพื่อไทย จากกรณีคลิปเสียง นายกฯอิ๊งค์ คุยกับ “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา นั้นประมาณการกันแทบไม่ได้
เมื่อพรรคเพื่อไทย อยู่ในสภาพที่เรียกว่า “ติดหล่ม” แต่ขณะเดียวกัน การยุบสภาฯเพื่อเลือกตั้งใหม่ ยังเกิดขึ้นไม่ได้ เนื่องจากจะใช้ “อำนาจ” ในมือของใคร ?
จะเป็นของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ที่นั่งรักษาการนายกฯจะทำได้อย่างนั้นหรือ เนื่องจากยังมีความเห็นที่แย้งกันอยู่ โดยเฉพาะหาก วันที่ 29 ส.ค.68 นี้ นายกฯแพทองธาร หลุดจากเก้าอี้นายกฯ และ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ต้องการให้เกมเดินหน้าไปต่อ
ช็อตต่อมาจะอยู่ที่ผลักดัน “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯคนสุดท้ายของพรรค เข้าไปรับไม้ต่อจากลูกสาว แต่ประเด็นปัญหาที่ชัยเกษม ต้องแบกรับ คือความคาดหวังจากประชาชน ไปพร้อมๆกับ ความไม่เชื่อมั่นคนของพรรคเพื่อไทยที่จะเข้ามาแก้ปัญหาใหญ่ “ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา” ที่กำลังหนักหนาและรุนแรง เหนือ “การเมือง”
สถานการณ์เช่นนี้จะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร เมื่อยุบสภาฯ เพื่อไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ก็ยังทำไม่ได้ ขณะเดียวกัน การบริหารประเทศต่อในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล บนความไม่เชื่อมั่น ที่มีเหนือกว่า “คำวินิจฉัย” ของศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อพรรคเพื่อไทย กำลังพารัฐบาลให้เข้าสู่แดนเสี่ยงสูง ทั้งก่อนและหลังวันพิพากษา “คดีคลิปเสียง” เช่นนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิด “ข่าวลือ” ในทางร้าย กระหน่ำไม่เว้นแต่ละวัน เพราะเกมการเมืองวันนี้อาจมองข้ามพรรคเพื่อไทยไปแล้ว !