AI จีนจุดกระแส ‘ฮิวแมนนอยด์‘ หุ้นหุ่นยนต์พุ่ง 75% ความหวังใหม่นักลงทุน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นหุ่นยนต์ของ “จีน” กำลังดึงดูดความสนใจจากตลาดใหม่ เนื่องจากนักลงทุนมองหาความหวังใหม่จากความก้าวหน้าด้าน AI ของ Deepseek ในประเทศจีน
กระแส AI จุดกระแส ‘หุ้นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์'
ดัชนีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ของ Solactive China พุ่งสูงขึ้นประมาณ 75% ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้น 4 เท่าจากดัชนี CSI 300 จากการแสดงผลงาน อันน่าทึ่งของหุ่นยนต์ในงาน AI Summit ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และการเปิดตัวหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ราคาต่ำกว่า 6,000 ดอลลาร์หรือราว 198,000 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งกระแสตอบรับที่ดี
รวมทั้ง UBTech Robotics Corp. ซึ่งเป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ชื่อดัง มีราคาหุ้นในฮ่องกงพุ่งสูงขึ้นกว่า 60% ในปีนี้ และราคาหุ้นในประเทศของ Swancor Advanced Materials Co.เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทผู้สร้างหุ่นยนต์ AgiBot เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่
นอกจากนี้ ตลาดทุนกำลังให้ความสนใจกับข่าวการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ของบริษัท Unitree Robotics ซึ่งเป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ในราคาไม่ถึง 6,000 ดอลลาร์ และได้รับการสนับสนุนจาก Alibaba Group Holding Ltd.
ขณะเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอย่าง Lens Technology Co. และ Zhejiang Sanhua Intelligent Controls Co. ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย จนราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทในฮ่องกงได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
‘ฮิวแมนนอยด์‘ ตลาดใหม่ที่กำลังกลายเป็น Red Ocean
ตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยจะมีมูลค่าสูงกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2050
ปัจจุบัน ประเทศจีนเป็นผู้นำในการพัฒนาด้านนี้ ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาล นอกจากนี้ รายงานของ Morgan Stanley เมื่อเดือนพ.ค.ยังชี้ให้เห็นว่า จุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งของจีนคือ ราคาที่เข้าถึงง่าย ซึ่งเป็นปัจจัยเดียวกับที่ทำให้เทคโนโลยีอย่าง DeepSeek ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
เหวย ซุน นักวิเคราะห์จาก Counterpoint Research กล่าวว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในจีนจะเติบโตอย่างรวดเร็วและมีอิทธิพลสูงขึ้น เนื่องจากมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย แต่เมื่อตลาดใหญ่ขึ้น การแข่งขันก็จะยิ่งดุเดือดมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
บริษัทหุ่นยนต์ในจีนมีการแข่งขันสูงมาก เดวิด โชอา ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก BNP Paribas บอกว่าตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าบริษัทไหนจะอยู่รอด เพราะบริษัทใหม่ๆ เกิดขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว
“เรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในคลื่นลูกแรก”
ระวังหุ้นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ 'ฟองสบู่'
เอดิสัน ลี นักวิเคราะห์จาก Jefferies Hong Kong ได้ออกมาเตือนว่าหุ้นของบริษัทผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะฟองสบู่ เนื่องจากเทคโนโลยียังมีข้อจำกัด, ต้นทุนการผลิตสูง, และการใช้งานยังไม่แพร่หลาย และแนะนำว่าแทนที่จะลงทุนในบริษัทหุ่นยนต์โดยตรง ควรจะ ซื้อหุ้นในบริษัทที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน หรือบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ จะดีกว่า
เอดิสัน ลี กล่าวว่า “บริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนจะได้รับประโยชน์ก่อน จากนั้นบริษัทพัฒนาหุ่นยนต์จะมีการรวมตัวกัน และในท้ายที่สุด ผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ดีที่สุดจะยังคงอยู่รอดและได้ทำงานร่วมกับบริษัทหุ่นยนต์ที่ประสบความสำเร็จ”
UBTech Robotics เหมือนกับบริษัทเทคโนโลยีเกิดใหม่ทั่วไป เพราะยังคงประสบภาวะขาดทุน แกาเนื่องจากการทำกำไรต้องใช้เวลา
เดวิด โชอา จาก BNP Paribas Asset Management เห็นด้วยว่า บริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนและซัพพลายเออร์ต่างๆ น่าจะเป็นผู้ชนะก่อน เพราะสามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าได้หลายราย และในระยะยาว เมื่อหุ่นยนต์มีราคาถูกลง จะทำให้คนใช้งานมากขึ้น และส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมโดยรวม