‘อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์’ ปิดดีลทุนมาเลย์ Mr.D.I.Y. 158 ไร่
ใครใคร่ค้า…ค้า ไม่หวั่นแม้ภาษีทรัมป์เปิดหน้าไพ่เก็บภาษีตอบโต้การนำเข้าสินค้าจากไทยที่อัตรา 36%
เพราะชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป
ข่าวล่ามาเร็วต้องบอกว่าเป็นข่าวดี อย่างน้อยก็ปลุกความเชื่อมั่นด้านการลงทุนในไทยได้ระดับหนึ่ง โดยนิคมอุตสาหกรรมน้องใหม่ แต่เจ้าของเป็นยักษ์ธุรกิจของตระกูลสิริวัฒนภักดี “โครงการอารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” ประกาศความสำเร็จลงนามซื้อขายที่ดินแปลงใหญ่ 158 ไร่ กับธุรกิจรีเทลวัสดุและของใช้ในบ้าน “มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.-MR.D.I.Y.” จากมาเลเซีย
MR.D.I.Y. ซื้อแปลงใหญ่ 158 ไร่
โดยเป็นการลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินในนามของ “อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์” ฝ่ายหนึ่ง กับ“มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย)” อีกฝ่ายหนึ่ง งานนี้ถือว่าวิน-วินเกม เพราะผู้ขายได้โชว์ศักยภาพที่แข็งแกร่งของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ขณะที่ผู้ซื้อได้ปักหมุดพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าครบวงจร
โดย “นางสาวกมลกาญจน์ คงคาทอง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ผู้พัฒนาระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรของไทย ภายใต้ชื่อ “ARAYA-The Eastern Gateway-โครงการอารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” ระบุว่า ไตรมาส 3/68 ความคืบหน้านิคมอุตสาหกรรม อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ ได้ร่วมกับ “ชิน กวานกุ้ย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ร่วมกันประกาศความสำเร็จในการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) สำหรับการขายที่ดินแปลงใหญ่ พื้นที่รวม 158 ไร่ ให้แก่ บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์
โดยที่ดินแปลงดังกล่าวทาง MR.D.I.Y. มีแผนในการพัฒนาเป็นศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า (Distribution Center & Warehouses) พร้อมติดตั้งระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติแห่งใหม่ของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ภายในนิคมอุตสาหกรรมอารยะฯ ซึ่งพื้นที่รวม 158 ไร่ เมื่อคำนวณออกมาจะเท่ากับ 252,800 ตารางเมตร
ทำเลยุทธศาสตร์โลจิสติกส์
ทั้งนี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ MR.D.I.Y. ตัดสินใจลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมอารยะฯ เป็นผลมาจากทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ที่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายระบบคมนาคมได้อย่างสะดวก ครอบคลุมทั้งถนนสายหลัก ทางด่วน ท่าเรือ และสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ธุรกิจสมัยใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และการกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและตลาดอาเซียน
การเข้ามาลงทุนของ MR.D.I.Y. จะช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retail Business) ที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านของโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ การกระจายสินค้า และเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ
แน่นอนว่าการจัดตั้งฐานปฏิบัติการของ MR.D.I.Y. ในนิคมแห่งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานในระดับภูมิภาค และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต
“การเซ็นสัญญากับ MR.D.I.Y. ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างการจ้างงานให้กับชุมชนท้องถิ่น และเป็นแรงผลักดันสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศอีกด้วย”
ทั้งนี้ โครงการนิคมอุตสาหกรรมอารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการลงทุน เพื่อยกระดับมาตรฐานภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องของอารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ ในการพัฒนาโครงการและบริการครบวงจร เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยุคใหม่ ควบคู่กับการดึงดูดนักลงทุนศักยภาพสูงเข้าสู่พื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่โครงการลงทุนบนที่ดินอุตสาหกรรมผืนใหญ่ 158 ไร่ ของกลุ่ม MR.D.I.Y. ตามแผนคาดว่าจะเริ่มการพัฒนาในไตรมาส 2/69 และเปิดดำเนินการภายในปี 2570
ปักหมุดประตูสู่ EEC 4,361 ไร่
สำหรับ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เจ้าของโครงการ อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ (ARAYA-The Eastern Gateway) เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้ง 3 บริษัทแนวหน้าในแวดวงอุตสาหกรรมของไทย ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) หรือ FPT, บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด หรือเอเชีย อินดัสเตรียล เอสเตท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ขณะที่โรจนะและเอเชีย อินดัสเตรียล เอสเตท ถือหุ้นคนละ 25% มีเนื้อที่รวม 4,631 ไร่ แต่แบ่งมาพัฒนาเฟสแรกก่อน 2,000 ไร่ มูลค่าเฟสแรกมากกว่า 20,000 ล้านบาท
โดยอารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ ทำเลตั้งอยู่บนประตูสู่ภาคตะวันออก ณ กิโลเมตรที่ 32 ของถนนบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ ทำเลทองของอุตสาหกรรมไทยใกล้กรุงเทพฯ เชื่อมต่อจากถนนบางนา-ตราด สู่ทางพิเศษกรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ (Motorway)
อีกทั้งเชื่อมต่อกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ และท่าเรือแหลมฉบังในเวลาเพียง 60 นาที เหมาะกับการเป็นศูนย์กลางธุรกิจ โลจิสติกส์ อุตสาหกรรม และการค้าระหว่างประเทศ มีจุดมุ่งหมายในการสร้างระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่ ผ่านการผสมผสานรูปแบบพื้นที่อุตสาหกรรมร่วมกับความเป็นเมือง เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และโครงสร้างพื้นฐานระดับเวิลด์คลาส
เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์การทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าไปสู่ความยั่งยืน และยังเป็นการร่วมผลักดันเศรษฐกิจเมืองไทยให้เจริญก้าวหน้าอีกต่างหาก
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์’ ปิดดีลทุนมาเลย์ Mr.D.I.Y. 158 ไร่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net