สหรัฐฯ จับผู้อพยพได้มากกว่า 286,000 คน
คริสตี โนม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมว่า มีผู้อพยพถูกจับกุมแล้วมากกว่า 286,000 คน นับแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2 พร้อมประกาศกำลังเจรจากับรัฐต่าง ๆ รวม 5 รัฐที่ปกครองโดยพรรครีพับลิกัน เพื่อสร้างศูนย์กักกันแบบเดียวกับศูนย์กักกันที่รัฐฟลอริดาที่ถูกเรียกกันว่า “เรือนจำอัลคาทราซจระเข้” โดยเรียกชื่อตามอดีตเรือนจำอัลคาทราซที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำในรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากสร้างขึ้นในเขตเอเวอร์เกลดส์ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ชุ่มน้ำกึ่งเขตร้อนขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยจระเข้ตีนเป็ด จระเข้ และงูเหลือม ห่างจากเมืองไมอามีประมาณ 60 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ระบุว่า สถานที่สร้างเหมาะสมเพราะมีแนวป้องกันทางธรรมชาติและใช้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยน้อย
อย่างไรก็ตาม คริสตี โนม ไม่ได้เปิดเผยว่ามีรัฐอะไรบ้าง โดยจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้ พร้อมกันนี้ ยังได้อธิบายศูนย์กักกันที่รัฐฟลอริดาว่าเป็นทรัพยากรที่ยอดเยี่ยมและสร้างขึ้นตรงกับหรือเกินกว่ามาตรฐานของส่วนกลาง หลังถูกวิจารณ์หลายกรณีรวมทั้งเรื่องความแออัด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ยังกล่าวถึงการบังคับใช้กฏหมายเมื่อไม่นานมานี้ของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิรวมทั้งการจับผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย 600 คนและการจับสมาชิกแก๊ง เทรน เดอ อารากัว องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติจากเวเนซุเอลาอีกมากกว่า 2,700 คน พร้อมยึดอาวุธปืนและยาเสพติดได้จำนวนหนึ่ง เธอกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำให้ยาเสพติดเหล่านี้จะไม่มีวันได้ทำลายครอบครัวของชาวอเมริกัน และจะไม่ได้อยู่ตามถนนได้อีกต่อไป
ด้านกลุ่มสส.พรรคเดโมแครตจากรัฐฟลอริดา แถลงข่าวหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์กักกัน เรือนจำอัลคาทราซจระเข้ ในรัฐฟลอริดา วิจารณ์สภาพความเป็นอยู่ของผู้ถูกคุมขังที่อยู่อย่างขาดสุขอนามัย และเห็นว่าจำเป็นต้องปิดศูนย์กักกันแห่งนี้ หลังได้พบเห็นสภาพความเป็นอยู่ กลุ่มผู้อพยพที่ถูกจับมา จะให้รวมอยู่ในกรงเดียวกัน 32 คน แต่ละกรง มีเตียง 2 ชั้น และ ห้องน้ำ 3 ห้องที่ใช้เป็นแหล่งน้ำดื่มด้วย แต่หลายครั้งพบว่าห้องน้ำใช้ได้เพียงห้องเดียว ทำให้มีสิ่งปฏิกูลกระจายทั่วพื้น และยังพบอาหารสำหรับผู้ถูกคุมขังของที่นี่มีปริมาณน้อยกว่าสถานกักกันผู้อพยพอื่น ๆ ที่เคยไปตรวจสอบมา และระหว่างเข้าตรวจสอบยังไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยสอบถามผู้ถูกคุมขังเป็นการเฉพาะตัว และไม่อนุญาตให้เดินผ่านประตูที่เหล่าผู้อพยพถูกคุมขังอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง