5 ดาวรุ่ง mai สุดเด็ด CHOW แรงเกินต้าน
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น – เปิดโผ 5 หุ้นเด่น mai โตแรงจัด! รายได้โตต่อเนื่อง 3 ปีติด แถม P/E ต่ำกว่า 15 เท่า ดึงดูดนักลงทุนสายเติบโต เน้นพื้นฐานแน่น CHOW นำทีม รายได้เฉลี่ยพุ่งสะท้าน 269.42% ส่วน BE8–BBIK–BC–TPS ขึ้นแท่นดาวรุ่งอนาคตไกล เติบโตแรง ราคาหุ้นยังน่าสะสม ชี้เป็นโอกาสทองเก็บของดีราคาถูก
ผู้สื่อข่าวรายงาน จากตลาดหลักทรัพย์ พบ 5 อันดับ บริษัทหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่มีรายได้เติบโตต่อเนื่อง 3 ปี (ปี 2565–2567) และ P/E น้อยกว่า 15 เท่า ได้แก่
- บริษัท เชาว์ ไบรท์ เวนเจอร์ส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW โดยมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 3 ปี ที่ 269.42% และ P/E อยู่ที่ 8.92 เท่า
- บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 โดยมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 3 ปี ที่ 105.93% และ P/E อยู่ที่ 10.55 เท่า
- บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK โดยมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 3 ปี ที่ 77.61% และ P/E อยู่ที่ 12.80 เท่า
- บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC โดยมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 3 ปี ที่ 56.62% และ P/E อยู่ที่ 5.31 เท่า
- บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS โดยมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 3 ปี ที่ 41.15% และ P/E อยู่ที่ 10.07 เท่า
โดยแสดงเป็นตาราง ได้ดังนี้
ที่มา SETSMART ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิ.ย.68
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง BBIK ว่า BBIK ถึงรอบการฟื้นตัวในช่วงสั้น รายได้ 1Q25 ที่เติบโตต่ำ ส่วนหนึ่งมาจากการปรับวิธีการบันทึกรายได้ โดยพนักงานบางส่วนที่ทำงานให้กับ JV ถูกโอนไปอยู่ภายใต้ JV โดยตรง หากตัดผลกระทบดังกล่าว รายได้หลักยังเติบโตได้ราว +3% YoY
รายได้ที่เติบโตต่ำยังมาจากผลของฤดูกาล แม้งานมีในระดับสูง แต่ยังไม่ถึงรอบการรับรู้รายได้ ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจที่ปรึกษา เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการต่อเนื่องตลอดปีจะถูกรับรู้ในช่วง 2H เป็นหลัก ตามความคืบหน้าของงาน
Backlog ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 1.06 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นของ BBIK 880 ล้านบาท และ Orbit (JV) ราว 183 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2024 ที่ 983 ล้านบาท แม้ Backlog ของ Orbit ยังไม่ได้เร่งตัวขึ้นมาก แต่ผู้บริหารได้ปรับเพิ่ม Guidance ว่าส่วนแบ่งกำไรจาก Orbit จะเติบโต YoY (จากเดิมคาดว่าจะทรงตัว) สะท้อนว่างานจาก JV Partner ยังแข็งแกร่ง คาดว่า Backlog ของ Orbit จะเร่งตัวขึ้นในช่วง 3Q25 ตามฤดูกาลของธุรกิจ
Guidance รายได้ไตรมาส 2/2568 เติบโตโดดเด่นทั้ง QoQ และ YoY หากบริษัทควบคุมค่าใช้จ่ายได้ตามปกติ คาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 1/2568 มีโอกาสเติบโตโดดเด่นระดับ +60–70% YoY จากฐานต่ำใน ไตรมาสช่วงเดียวกันกับปีก่อน
สำหรับครึ่งปีหลัง 2568 บริษัทประเมินว่าการเติบโตจะท้าทายมากขึ้นจากผลกระทบสงครามการค้า ที่ทำให้ลูกค้าหลักบางรายชะลอการลงทุน แต่บริษัทมีแผนรับมือ ได้แก่ เร่งเข้าไปทำงานกับลูกค้าหลัก (อาจใช้กลยุทธ์ลดราคาบางส่วน) เพื่อเพิ่มปริมาณงานระยะยาว บริษัทพยายามปิดโครงการภาครัฐขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มรายได้ การเร่งการเติบโตของ JV ลุ้นโอกาสรับงานจาก Virtual Bank เพิ่ม Utilization ของพนักงานจากปัจจุบันที่ระดับ >70% ให้ขึ้นถึง ~75%
Restructure ธุรกิจในต่างประเทศ เช่น ลดจำนวนพนักงานในต่างประเทศ, ย้ายงานมาทำในไทย และปรับสัญญาจ้างเป็นรายปีมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงด้านต้นทุน
แผนการทำ M&A ยังอยู่ในแผนงาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาหลายราย แต่ยังติดปัญหาเรื่องราคาและการจัดหาเงินทุน โดยบริษัทตั้งเป้าปิดดีลได้อย่างน้อย 1 รายภายในปี 2025
BBIK คงเป้ารายได้ปี 2568 เติบโต 20–30% YoY แม้จะประเมินว่าครึ่งหลังของปีจะท้าทายมากขึ้น แต่ยังเป็นระดับที่เป็นไปได้ ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าบริษัทจะปรับลดเป้าหมาย
Our Take:
ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคาดการณ์กำไรปกติปี 2025 ที่ 360 ล้านบาท (+20% YoY) และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ที่ 39.75 บาทต่อหุ้น อิง PER 22.0x เชิงกลยุทธ์ คาดว่าหุ้นกำลังเข้าสู่ รอบการฟื้นตัวช่วงสั้น จากแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 2/2568 ที่โดดเด่น ปัจจุบันหุ้นซื้อขายอยู่ที่ PER ปี 2568 เพียง 12.4x ซึ่งถือว่าต่ำ และมีโอกาสเกิดแรงฟื้นตัวระยะสั้นจากระดับราคาที่ปรับลงลึก