ร้านขายยาปัตตานีคุมเข้มการขายยาแก้ไอ หวั่นวัยรุ่นนำไปผสม 4คูณ100
ร้านขายยาปัตตานีคุมเข้มการขายยาแก้ไอ หวั่นวัยรุ่นนำไปผสม 4คูณ100 ยึดมั่นในจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด เบื้องต้นยังไม่พบว่าร้านเภสัชขายยาแก้ไอชนิดเดียวกับผสมน้ำท่อม
วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 หลังรัฐบาลปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด พบว่าการบริโภคกระท่อมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ เพิ่มสูงขึ้น ทั้งการเคี้ยวใบสดและจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการบริโภคพืชกระท่อมในรูปแบบดั้งเดิมจะไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป แต่สถานการณ์ที่น่ากังวลคือ การประยุกต์นำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมต้มใบกระท่อมผสมกับเครื่องดื่มน้ำโค้ก และยาแก้ไอ ซึ่งมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มคล้ายคนเมายา จนกลายเป็นเครื่องดื่มผิดกฎหมายที่รู้จักกันในชื่อ 4 คูณ 100
โดยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านขายยาหลายแห่งใน อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี พบว่าร้านขายยาส่วนใหญ่มีมาตรการเข้มในการจำหน่ายยาแก้ไอ อยู่แล้ว โดยเฉพาะในช่วงปฏิบัติการ 120 วัน ต่อต้านพืชกระท่อมใช้ในทางผิด โดยจะมีการตรวจสอบพฤติกรรมผู้ซื้ออย่างละเอียด หากพบว่ามีท่าทีผิดสังเกต หรือมีกลุ่มวัยรุ่นมาขอซื้อยาปริมาณมากโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน ทางร้านจะปฏิเสธการขายทันที
จากการสำรวจยังไม่พบร้านขายยาในพื้นที่ ที่มีการจำหน่ายยาแก้ไอชนิดที่ผสมกับน้ำกระท่อมหรือ 4 คูณ 100 แต่อย่างใด โดยเจ้าของร้านขายยาหลายรายต่างยืนยันว่าได้ตระหนักถึงปัญหานี้ดี และพร้อมร่วมมือกับเจ้าหน้าที่หากพบพฤติกรรมที่น่าสงสัย
ทั้งนี้ หน่วยงานในพื้นที่ ทั้งสาธารณสุขอำเภอและตำรวจท้องที่ ได้ประสานกับร้านขายยาอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมป้องกันไม่ให้ยาแก้ไอถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งถือเป็นอีกแนวทางสำคัญในการควบคุม และแก้ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ได้เป็อย่างดี
ด้านเภสัชกรหญิงรายหนึ่งในอำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ทางร้านมีมาตรการเฝ้าระวังการขายยาแก้ไออย่างเข้มงวด โดยจะพิจารณาจากพฤติกรรมและลักษณะของผู้มาซื้อ หากพบว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยก็จะไม่จำหน่ายให้ โดยเฉพาะเมื่อมีกลุ่มวันรุ่นที่ดูผิดสังเกตมาขอซื้อยาแก้ไอและยาแก้แพ้ ทางร้านไม่สนับสนุนพฤติกรรมเหล่านี้ พร้อมยึดมั่นในจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกันด้านนางมานีแย สาอิ ผู้ช่วยร้านขายยาในพื้นที่จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ร้านของตนไม่เคยจำหน่ายยาแก้ไอที่นิยมใช้ผสมน้ำกระท่อมอยู่แล้ว แม้จะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาสอบถามขอซื้อบ่อยครั้ง แต่ทางร้านก็ปฏิเสธและบอกว่าไม่มีขาย พร้อมทั้งให้คำแนะนำว่าเป็นพฤติกรรมที่อันตรายและควรหยุดก่อนที่จะสายเกินไป
นางมานีแยยังเตือนว่า การดื่มน้ำกระท่อมต่อเนื่องทุกวันส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ บางรายถึงขั้นติดจนเลิกไม่ได้ แต่ก็มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาขอซื้อยาเลิกน้ำกระท่อม แต่ปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้เลิกโดยตรง มีเพียงการรักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวดเมื่อย แก้ไอ หรือยาแก้ไข้เท่านั้น