รวมผลกระทบล่าสุดของน้ำท่วมภาคเหนือ เมื่อระดับน้ำยังน่าเป็นห่วง หลายพื้นที่ยังเข้าช่วยเหลือได้ยาก
ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ระดับของน้ำที่ท่วมในภาคเหนือเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น และสถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วงในหลายพื้นที่ จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน อย่าง ‘พายุวิภา’
ตั้งแต่เย็นของวันที่ 23 กรกฎาคม ที่แม่น้ำน่านถึงจุดวิกฤต ทำให้ชุมชนริมแม่น้ำน่าน และพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของตัวเมืองถูกน้ำไหลท่วมเต็มพื้นที่ การสัญจรสามารถใช้ได้เพียงเรือเท่านั้น ขณะที่มีหลายพื้นที่น้ำไหลเชี่ยวท่วมถนนและถนนขาดบางสาย เสียงชาวบ้านบ้างส่วนชี้ ‘เป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดที่เคยเจอมา’
ล่าสุด วันนี้ (25 กรกฎาคม 2568) ในด้านแม่น้ำโขง จังหวัดเลย และจังหวัดหนองคาย ยังคงมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในจังหวัดน่าน แม้มีรายงานระดับน้ำลดลงเล็กน้อย แต่บนผิวถนนที่เป็นถนนเส้นหลักเพื่อเข้าสู่เทศบาลเมืองน่าน รถเล็กไม่สามารถใช้สัญจรได้ ต้องใช้รถบรรทุกและเรือเท่านั้น
นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือครั้งนี้ ผลกระทบได้เกิดต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะเมื่อการเข้าถึงพื้นที่มีข้อจำกัด ส่งผลต่อการลำเลียงความช่วยเหลือ และยังมีรายงานว่าประชาชนจำนวนมากยังคงติดค้างอยู่ในบ้านเรือน
ผู้ประสบภัยที่ติดค้างหรืออพยพมายังศูนย์พักพิงยังคงต้องการอาหารและน้ำดื่มสะอาดจำนวนมากอย่างเร่งด่วน และยังรวมถึงยาประจำตัว หรือยาสำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยจากน้ำท่วม เช่น อาการคัน หรืออาการป่วยอื่นๆ
ด้านโรงพยาบาลน่านได้รับผลกระทบหนัก ต้องอพยพผู้ป่วยและย้ายบริการฉุกเฉิน กระทบระบบการดูแลผู้ป่วย จนโรงพยาบาลประกาศหยุดให้บริการชั่วคราวกับผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยนัดหมายทุกแผนกที่ไม่ใช่การผ่าตัดฉุกเฉิน
อีกประเด็นสำคัญ คือปัญหาการสื่อสาร เนื่องจากสัญญาณเข้าไม่ถึงและขาดไฟฟ้า ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับรู้ข่าวสารสถานการณ์ปริมาณน้ำ จะต้องอาศัยการบอกต่อจากผู้นำชุมชนหรือในกลุ่มชุมชนเอง
ไม่เพียงเท่านั้น ยังรวมไปถึงผลกระทบกับสถานที่ทางความเชื่อและศิลปะ เช่น วัดภูมินทร์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวและโบราณสถานสำคัญของชาติ ที่น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่โดยรอบวัด ไหลเข้าสู่ลานพระอุโบสถและฐานเจดีย์บางส่วน แต่ยังไม่ถึงระดับของภาพจิตรกรรมฝาผนังภายใน ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สุดที่เก็บรักษาภาพเขียนโบราณ รวมถึงภาพกระซิบรักบันลือโลก อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของจังหวัดน่าน
แม้ในบางพื้นที่ที่มีรายงานว่าน้ำลดจนสามารถเข้าพื้นที่ได้แล้ว พบว่ามีความเสียหายต่อบ้านเรือนและทรัพย์สินอยู่ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะดินโคลนเต็มพื้นถนน ทำให้ถนนลื่นและอาจเกิดอันตรายในการสัญจร รวมถึงประชาชนยังต้องทำความสะอาดบ้านเรือนและสิ่งของที่เปรอะเปื้อนโคน รวมถึงฟื้นฟูและซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย
อ้างอิงจาก