โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

‘เทอิจิ โอมุระ’ แม่ทัพใหม่ ดองกิ(ประเทศไทย) แก้โจทย์ ‘ราคาสินค้า’ ให้แข่งขันได้

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ห้างค้าปลีก “ดอง ดอง ดองกิ” (DON DON DONKI) ทุนซามูไร เข้ามารุกขยายธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2562 เคลื่อนธุรกิจระยะเวลาราว 5 ปี ก็สามารถ “ทำกำไร” เป็นครั้งแรก

สังเวียนค้าปลีกไทยไม่ง่าย ขึ้นชื่อเป็น “ตลาดปราบเซียน” แต่ผู้เล่นใหม่ๆยังคงเข้ามาหาโอกาสเติบโตในน่านน้ำแดงเดือด(Red Ocean) ชูจุดเด่นที่แตกต่างคู่แข่งเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย

ท่ามกลางความท้าทาย“ดอง ดอง ดองกิ” มีการสับเปลี่ยน “แม่ทัพ” ขับเคลื่อนค้าปลีกในไทย ซึ่งล่าสุด เทอิจิ โอมุระ ประธานบริษัท ดองกิ(ประเทศไทย) จำกัด รับไม้ต่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ

“ผมเข้ามาขับเคลื่อน ดอง ดอง ดองกิในประเทศไทยยังไม่ถึงปี..ตลาดค้าปลีกในประเทศไทยถือว่ามีความท้าทาย” เทอิจิ โอมุระ ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนในงานสหกรุ๊ปแฟร์ครั้งที่ 29 หลังจากบริษัทร่วมกับเขตสุขภาพที่ 5 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน(MOU)เพื่อยกระดับและส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพจากชุมชนท้องถิ่น และผลักดันการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

การ MOU ดังกล่าว ยังสอดรับกับภารกิจ “โอมุระ” ที่ต้องการผลักดันให้ร้านดอง ดอง ดองกิ มีสินค้าต้นตำรับหรือ Original ที่เป็นแบรนด์ของร้าน(Private Brand)มากขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วนยังน้อย เมื่อเทียบกับในญี่ปุ่น ที่มีแบรนด์ “JONETZ” เป็น Private Brand ของร้านและ “ขายดีมาก”

สำหรับสินค้า Private Brand จะใช้ยี่ห้อเดียวกันกับประเทศญี่ปุ่น หรืออาจมีการพิจารณา “ปั้นแบรนด์ใหม่” ให้สอดคล้องกับแนวคิดหรือคอนเซปต์และตลาดประเทศไทยด้วย

ส่วนสินค้านำร่องจะเป็น “หมวดอาหาร” ระยะเวลาเปิดตัวยังไม่กำหนด เนื่องจากอยู่ระหว่างการร่วมมือกับพันธมิตรในการจ้างผลิต(โออีเอ็ม) หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมค้าปลีก และส่งเสริมการขยายตลาดสินค้า Private Brand ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศไทย สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้า และตอกย้ำการมีส่วนร่วมต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ

ตัวอย่างสินค้า Private Brand สาหร่าย ซุป ฯ ภายใต้ "JONETZ" ของร้านดอง ดอง ดองกิ

“สินค้า Private Brand ที่เป็น Original ของร้านดอง ดอง ดองกิ ที่ญี่ปุ่นใช้เวลานานราว 1 ปี จึงออกมาสู่ตลาดได้”

การมี Private Brand ยังทำให้ “ราคาสินค้าของร้านดอง ดอง ดองกิ แข่งขันได้ด้วย” เนื่องจากเปรียบเทียบกับสินค้านำเข้า ที่มีต้นทุน เช่น ภาษีนำเข้า ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ล้วนมีผลทำให้สินค้าค่อนข้างราคาสูงกว่า

“สินค้านำเข้ามีต้นทุนด้านภาษี หากผลิตสินค้า Original ในไทย และขายได้ ราคาก็จะปรับลดลงด้วย เป็นเป้าหมายของเราที่คนไทยได้ซื้อสินค้าในราคาย่อมเยา ที่สำคัญยังส่งออกได้ด้วย จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น”

กรุงเทพธุรกิจ ตั้งคำถามถึง Pain Point ด้านราคาสินค้าที่ค่อนข้างสูงหรือ”สินค้าราคาแพง” ยังเป็นเพราะสูตรการผลิต มาตรฐาน การผลิตที่ญี่ปุ่น ฯ มีผลต่อการตั้งราคาสินค้าทั้งสิ้น

“สินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นราคาแพงกว่าไทยแน่นอน เมื่อไทยมีบริษัทญี่ปุ่นในไทยจำนวนมาก ไทยมีฐานการผลิตสินค้าเองได้ มีโรงงาน เราจึงหารือกับผู้ผลิตในไทย เพื่อผลิตสินค้ามาจำหน่าย เพื่อให้แข่งขันได้ และจะไม่แพงกว่าที่อื่นแน่นอน”

จุดเด่นของสินค้า Private Brand คือการมี “ขายที่ร้านดอง ดอง ดองกิเท่านั้น” ไม่มีจำหน่ายที่อื่น ทั้งยังเลียนแบบไม่ได้ มิติทางธุรกิจคือทำให้ “กำไรดี” อีกด้วย

กลยุทธ์ด้านราคาสินค้า ผู้บริหารของดองกิ จะต้องอ่านหนังสือเดอะ ซอส ที่เหมือนคัมภีร์ธุรกิจภายในองค์กรเป็นเข็มทิศว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เช่น การตลาด จัดวางสินค้า ตั้งราคาที่เหมาะสม ฯ

“เป้าหมายเราอยากให้ลูกค้าได้ซื้อสินค้าราคาถูกลง ราคาที่เหมาะสม”

ด้านการขยายสาขาของร้านดอง ดอง ดองกิย้อนแผนเดิมจะเดินหน้าสู่เป้าหมาย 20-30 สาขาใน 5 ปี ทว่า นั่นต่างจากเป้าหมายของ “โอมุระ” แต่ปี 2568 บริษัทจะเปิดร้านใหม่ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต

ส่วนการปิดสาขาล่าสุดที่เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ตนไม่มีความเห็น เนื่องจากเพิ่งมารับบทแม่ทัพในเวลายังไม่ถึงปี

“การปิดสาขาเป็นการพิจารณาฝ่ายบริหาร” โอมุระ ตอบพร้อมยิ้มกว้าง

อย่างไรก็ตาม การเปิดร้านดอง ดอง ดองกิ บริษัทจะพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ทำเลที่ตั้ง สาขาเดิมกับสาขาใหม่ใกล้-ไกลกันแค่ไหน อัตราค่าเช่าพื้นที่ ผลลัพธ์ทางธุรกิจหรือสร้างกำไร ฯ ปัจจุบันร้านดอง ดอง ดองกิมีทั้งสิ้น 7 สาขา หนึ่งในสาขาที่ผลตอบรับดีคือที่ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เพราะมีกลุ่มเป้าหมาย นักช้อปเป็นนักท่องเที่ยวด้วย รวมถึงสาขาทองหล่อ ที่จับกลุ่มเป้าหมายกำลังซื้อสูง ส่วนเป้าหมายยอดขายต้องการผลักดันให้ยอดซื้อต่อบิลเฉลี่ยมากกว่า 500 บาท ขณะที่ทั่วโลกมีร้านดอง ดอง ดองกิประมาณ 700-800 สาขา

“แผนงานระยะยาวเป็นไปได้ที่จะเปิดสาขาจำนวนดังกล่าว ตอนนี้ยังระบุไม่ได้ รวมถึงขนาด หรือโมเดลใหม่ๆของร้าน ซึ่งเป้าหมายของผมและเป้าหมายของบริษัทมีความแตกต่างกัน เป้าหมายของผมไม่ใช่จะเปิดหลายสาขา แต่ต้องการทำให้คนไทยนิยมสินค้าญี่ปุ่นที่จำหน่ายในร้านดอง ดอง ดองกิ ทำให้พันธมิตร พนักงานมีความสุข ซึ่งความสุขของพนักงานแต่ละคนแตกต่างกัน อะไรที่แต่ละคนมีเป้าหมาย อยากทำ หากเราสามารถสนับสนุน หรือมาทำงานร่วมกับเรา แล้วทำให้สำเร็จได้ ก็อยากช่วยตรงนั้น”

ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานราว 660 ชีวิต แม้การเดินเกมธุรกิจมีความท้าทาย แต่ปี 2568 “โอมุระ” ต้องการผลักดันให้บริษัทเติบโต 10%

“นี่เป็นเป้าหมายของผมนะครับ”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

'มาม่า' พับแผนลงทุนเพิ่มฮังการี กังวลแรงงาน - ROI อาจใช้เวลาเกิน 7 ปี หันขยายผลิตไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ซัมเมอร์ ดาวอส”ที่จีน“หลี เค่อเฉียง” ถอดสมการศก.สู่จุดกำเนิดระเบียบโลกใหม่

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การปรับตัวรับกติกาโลกใหม่WEFแนะ เขียนกฎการค้าบนฐานความไว้วางใจ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ความไว้เนื้อเชื่อใจ (Trust) กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

'มาม่า' พับแผนลงทุนเพิ่มฮังการี กังวลแรงงาน - ROI อาจใช้เวลาเกิน 7 ปี หันขยายผลิตไทย

กรุงเทพธุรกิจ

“ซัมเมอร์ ดาวอส”ที่จีน“หลี เค่อเฉียง” ถอดสมการศก.สู่จุดกำเนิดระเบียบโลกใหม่

กรุงเทพธุรกิจ

“ดาวโจนส์” พุ่งกว่า 300 จุด คลายกังวลเทรดวอร์-เก็งเฟดหั่นดอกเบี้ย 3 ครั้งปีนี้

ข่าวหุ้นธุรกิจ

จีนคุมเข้ม! แบนพาวเวอร์แบงค์ไร้ “CCC” ขึ้นเครื่อง เริ่ม 28 มิ.ย.นี้

ข่าวหุ้นธุรกิจ

“ชูวิทย์” เปิดเกมแฉ! แผนสมคบคิด Entertainment Complex ชนวนทำ “ฮุนเซน” เดือด

ข่าวหุ้นธุรกิจ

การปรับตัวรับกติกาโลกใหม่WEFแนะ เขียนกฎการค้าบนฐานความไว้วางใจ

กรุงเทพธุรกิจ

ความไว้เนื้อเชื่อใจ (Trust) กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

กรุงเทพธุรกิจ

AOT แจง “คิง เพาเวอร์” ขอเลื่อนชำระเงิน ยันมีหลักประกัน-พร้อมจ่ายดอกเบี้ย

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...