เพื่อไทย โต้ปมนายกฯชั่วคราว หวังผลการเมือง ชี้ไร้เหตุยุบสภา
นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่าช่วง 7 วันที่ผ่านมามี การตั้งคำถามถึงเสถียรภาพรัฐบาล และการปรับคณะรัฐมนตรีและการนำเสนอนายกฯ ชั่วคราวอย่างมีเงื่อนไข ซึ่งขอยืนยันว่า การปรับคณะรัฐมนตรี เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลมีสิทธิ์ในการเสนอชื่อรัฐมนตรีและเชื่อว่านายกรัฐมนตรีเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างดีผ่านประสบการณ์การทำงานในมุมมองที่หลากหลาย และเชื่อมั่นว่าทุกคนที่เข้าทำงาน ได้เดินทางไปมอบนโยบายในแต่ละกระทรวงแล้วเชื่อว่าจะขับเคลื่อนงานของรัฐบาลและนโยบายที่นายกรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภา ผลักดันให้เกิดความรูปธรรมมากที่สุด
สำหรับกรณีที่มีปัญหาสภาล่ม เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ค.ที่ผ่านมานั้น รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เป็นการเปิดสมัยประชุมวันแรก และสถานการณ์ในวันนั้นรัฐมนตรีหลายคนเพิ่งถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จและเพิ่งเดินทางเข้ามาทำเนียบรัฐบาล ขณะเดียวกันมีการประชุมกรรมาธิการงบประมาณฯและคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ
แต่ปรากฏว่ามีการเสนอนับองค์ประชุม จึงอยากถามว่าเจตนาคืออะไร ซึ่งมองว่าไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประชาชน เพราะในช่วงปิดสมัยประชุมสส.ไปลงพื้นที่เพื่อนำปัญหาของประชาชนมาสู่กลไกของสภา จึงเห็นว่าการที่เสนอนับองค์ประชุมเช่นนี้ เป็นเรื่องของการเมืองมากเกินไป
อย่างไรก็ตามเรื่อง การรักษาองค์ประชุมเป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลจะต่องร่วมมือกัน โดย ในส่วนของพรรคเพื่อไทยทางวิปรัฐบาล ก็ได้แจ้งไว้แล้วว่าต้องเข้าร่วมเป็นองค์ประชุม
ส่วนการเรียกร้องให้ยุบสภา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่มีเหตุให้ยุบสภา ขณะนี้สภาก็อยู่ในระเบียบวาระ และมีงานที่สำคัญคือ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 และยังมีกฎหมายนิรโทษกรรมและกฎหมายที่ทางพรรคเพื่อไทยต้องเร่งเสนอผลักดันให้เป็นรูปธรรม
ดังนั้นการเรียกร้องให้ยุบสภาเป็นการช่องชิงความได้เปรียบทางการเมืองมากเกินไปโดยไม่ได้สนใจว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 กว่าจะลงไปกระตุ้นศรษฐกิจอย่างไร เรายังมีกิจกรรมมากมายที่ต้องเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชน อีกทั้งเป็นที่ทราบดี ว่าการเลือกตั้งต้องใช้งบประมาณ 6,000 ล้านบาทและวันนี้ประเทศชาติยังไม่ได้สูญเสียอะไร จึงเชื่อว่า พวกเราจะกลับมาสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นความมั่นใจจากประชาชนได้แน่นอน
ส่วนการเสนอนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์ชั่วคราว รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่าปัจจุบันการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยต้องมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองที่เสนอไว้ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง แม้ว่าจะมีข้อเสนอจากบางคนที่บอกว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรีชั่วคราว แม้จะอยู่ในบัญชีของพรรคการเมืองโดยมีการวางเงื่อนไขว่าให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภา ตนคิดว่าดูเป็นการเร่งร้อน และอยู่ในเรื่องการชิงความได้เปรียบทางการเมืองมากเกินไป
รัฐบาลมีเวลาอีก 2 ปี ในการนำงบประมาณไปดูแลพี่น้องประชาชนและทำโครงการใหญ่ๆ อีกมาก จึงเชื่อว่า 2 ปี รัฐบาล ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นแม้ว่าขณะนี้จะเป็นช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ก็เชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในทางที่เป็นคุณกับนายก
รัฐมนตรีและขณะดียวกันรัฐมนตรีรักษาการก็มีอำนาจเต็มเหมือนนายกรัฐมนตรี จึงเชื่อว่าไม่มีอะไรสะดุดในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงขอยืนยันเสถียรภาพของ รัฐบาล นส.แพทองธาร ชินวัตร