ไม่ปล่อย! ติดตามคดีฟอกเงินโยง 'เครือข่ายพนันออนไลน์'

จากการประชุมคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล เป็นประธาน พร้อมด้วย นายดนุพร ปุณณกันต์ และ นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ รองประธานกรรมาธิการ รวมถึงคณะกรรมาธิการ ที่ปรึกษา ผู้ชำนาญการ และนักวิชาการ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ CB 308 ชั้น 3 อาคารรัฐสภาที่ผ่านมา

ได้มีการพิจารณาติดตามความคืบหน้ากรณี การดำเนินคดีกับอดีตประธานสโมสรฟุตบอลนครศรียูไนเต็ด ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการพนันออนไลน์อันเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

‘พนันอุบัติใหม่’ซ่อนรูป! คนรู้ไม่ทัน ‘6G’หุ้มมิด การตลาดซับซ้อน

เยาวชนเสี่ยงติดพนันสูง โฆษณาให้เครดิตฟรี ’หลุมพราง’ เล่นออนไลน์

ติดตามคดีฟอกเงินโยงเครือข่ายพนันออนไลน์

ที่ประชุมได้เชิญ ตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะในประเด็นที่ยังมีความคลุมเครือเกี่ยวกับคำสั่ง “ไม่ฟ้อง” ของพนักงานอัยการในคดีดังกล่าว ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้อง และยังมีการตั้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน

ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ ได้ตั้งคำถามต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน อาทิ กระบวนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้อง ,การดำเนินการอายัดทรัพย์สินที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ,ความชัดเจนของพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวน และความจำเป็นในการพิจารณาคดีอย่างรอบคอบในชั้นอัยการสูงสุด เปรียบเทียบคดี "ลำพูน วอริเออร์" กับ "นครศรียูไนเต็ด" สะท้อนความเหลื่อมล้ำของการบังคับใช้กฎหมาย

โดยในรายงานของเจ้าหน้าที่ ปรากฏว่าคดีของอดีตประธานสโมสรฟุตบอลลำพูน วอริเออร์ มีการดำเนินการ ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 221 รายการ มูลค่ารวมกว่า 671 ล้านบาท ขณะที่คดีของอดีตประธานสโมสรฟุตบอลนครศรียูไนเต็ด แม้จะมีพฤติการณ์ใกล้เคียงกัน แต่กลับยังไม่มีการอายัดทรัพย์ หรือคำสั่งฟ้องอย่างเป็นรูปธรรม

ย้ำตรวจสอบสร้างสรรค์ ยึดประโยชน์ประชาชน

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวในที่ประชุมอย่างนุ่มนวลแต่ชัดเจนว่า ประชาชนจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเว็บพนันออนไลน์ ความชัดเจนในการดำเนินคดีและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม จึงมิใช่เพียงเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แต่คือการทวงคืนความเชื่อมั่นของสังคมในหลักนิติธรรมที่แท้จริง

นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่าเตรียมเชิญสำนักงานอัยการสูงสุดร่วมให้ข้อมูลในครั้งถัดไป เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนรอบด้าน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ เชิญตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมประชุมในครั้งต่อไป เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการพิจารณาคดี รวมถึงการใช้ดุลพินิจทางกฎหมายในกรณีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งอาจเป็นประเด็นสำคัญต่อความเข้าใจของสาธารณชน โดยยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง – กมธ.ปปง. จะเดินหน้าตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา

การประชุมครั้งนี้เป็นการยืนยันบทบาทของคณะกรรมาธิการฯ ในการตรวจสอบเชิงนโยบายอย่างสร้างสรรค์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะป้องกันและปราบปรามปัญหาการฟอกเงินที่เกี่ยวเนื่องกับการพนันออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดมั่นในความโปร่งใส ความเป็นธรรม และประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

“คดีนี้ไม่เพียงเป็นคดีหนึ่งในสารบบ แต่คือกระจกสะท้อนความเข้มแข็งของกระบวนการยุติธรรมไทยในสายตาประชาชน และคณะกรรมาธิการฯ จะไม่ปล่อยให้คำถามสำคัญในสังคมถูกปัดผ่านอย่างไร้คำตอบ”