‘Tesla จะเผชิญไตรมาสย่ำแย่ต่อ’ มัสก์เตือนถึงนักลงทุน หลังเงินรัฐหนุนอีวีหดหาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “อีลอน มัสก์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Tesla เตือนว่า ปีข้างหน้าจะเป็น “ปีที่ยากลำบาก” สำหรับบริษัทเทสลา ซึ่งยิ่งทำให้สถานการณ์ของบริษัทเลวร้ายลง หลังจากที่เพิ่งรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ย่ำแย่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบ 10 ปี
มัสก์ได้ชี้ถึง“สองปัจจัยหลัก” ที่ทำให้สถานการณ์ของเทสลาไม่สดใส ได้แก่ ข้อแรก สิทธิประโยชน์จากรัฐบาลสหรัฐสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ากำลังจะหมดลง ซึ่งจะทำให้ราคารถแพงขึ้นสำหรับผู้บริโภค และอาจกระทบยอดขาย
ส่วนข้อสอง คือ การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับยังต้องใช้เวลาอีกนาน มากกว่าที่เคยคาดไว้ และมัสก์ประเมินว่า บริษัทอาจต้องรอถึง “ปลายปี 2026” กว่าที่เทสลาจะกลับมามี “ผลตอบแทนที่น่าดึงดูด” อีกครั้ง
“นั่นหมายความว่า เราอาจต้องเผชิญกับไตรมาสที่ยากลำบากอยู่ใช่ไหม?” มัสก์กล่าวระหว่างการประชุมสรุปผลประกอบการของเทสลา “ใช่ เราก็อาจจะต้องเจอกับไตรมาสที่ยากลำบากอยู่บ้างจริง ๆ”
ขณะที่เขากำลังพูด ราคาหุ้นของเทสลาก็ร่วงลง โดยลดลงมากถึง 5.3% ในการซื้อขายหลังตลาดปิดวันพุธที่นิวยอร์ก โดยก่อนหน้านั้น หุ้นเทสลาร่วงลงไปแล้ว 18% ตั้งแต่ต้นปี แม้ว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาบ้างจากจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมและเมษายนก็ตาม
ทั้งนี้ บริษัทรายงานผล “กำไรต่อหุ้น” ที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 40 เซนต์ ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของวอลล์สตรีทที่ปรับลดลงมาก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วน “รายได้” ลดลง 12% เหลือ 22,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ ซึ่งมาจากยอดส่งมอบรถยนต์ที่ลดลง และราคาขายเฉลี่ยของรถที่ลดลงด้วย
นอกจากนี้ Tesla ยังรายงานว่า ยอดขายจากธุรกิจผลิตและกักเก็บพลังงานลดลง และระบุว่าต้นทุนจากภาษีนำเข้าสูงขึ้นราว 300 ล้านดอลลาร์ โดยคาดว่า ผลกระทบจากภาษีเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสถัด ๆ ไป
“นี่จะมีช่วงเวลาที่ยุ่งยากอยู่บ้าง” มัสก์กล่าว ขณะบริษัทกำลังลงทุนในเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบขับขี่อัตโนมัติ
มัสก์ย้ำความต้องการของเขาที่จะขยายสัดส่วนการถือหุ้นใน Tesla เพิ่มขึ้น โดยชี้ว่า ควรเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันการถูกขับไล่โดยนักลงทุนเชิงรุก
“ผมคิดว่า การควบคุมของผมเหนือ Tesla ควรจะมากพอที่จะทำให้บริษัทดำเนินไปในทิศทางที่ดี แต่ก็ไม่มากเกินไปจนผมไม่สามารถถูกปลดออกได้ ถ้าผมเสียสติไป” มัสก์กล่าว
ที่ผ่านมา “แบรนด์ Tesla” ได้กลายเป็นที่แบรนด์แห่งการถกเถียงและแบ่งขั้วมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากมัสก์สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ให้ชนะเลือกตั้ง มีบทบาทปลดพนักงานรัฐจำนวนมาก เพื่อลดการใช้จ่ายภาครัฐ จนสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้บริโภค Tesla ที่มีแนวคิดซ้ายนิยมจำนวนมาก
ไม่เพียงเท่านั้น จากร่างกฎหมายลดภาษีครั้งใหญ่ของทรัมป์ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบไป ไวบาฟ ทาเนจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) เตือนว่า นี่จะส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อ รายได้จากเครดิตรถอีวี ซึ่งเป็นส่วนแหล่งรายได้สำคัญของบริษัท “ลดลงมากกว่า 26%” เหลือ 439 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สอง ซึ่งลดลงจาก 595 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก และ 890 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
เป็นที่คาดการณ์ว่า รายได้ดังกล่าวจะลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรัฐบาลทรัมป์จะ “ยกเลิกการลงโทษ” ผู้ผลิตรถยนต์ที่ไม่สามารถทำตามมาตรฐานประหยัดน้ำมันของรัฐบาลกลางได้
อย่างไรก็ตาม Tesla ยังมีเครื่องยนต์อื่นในการช่วยเรื่องเติบโต ไม่ว่ารถยนต์ไร้คนขับและหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการวิจัยพัฒนา
จีน มันสเตอร์ หุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัท Deepwater Asset Management กล่าวว่า เทสลาให้ความเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับบางด้าน เช่น โปรแกรมช่วยขับขี่รถอัตโนมัติ และบริการโรโบแท็กซี่ (รถแท็กซี่ไร้คนขับ) แต่เขาเน้นว่า นักลงทุนต้องการข้อมูลเชิงรูปธรรมมากกว่านี้ในระยะใกล้เกี่ยวกับเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ เช่น บริษัทจะขยายจำนวนรถในระบบอย่างไร
อ้างอิง: bloomberg