“วิโรจน์” อัดรัฐบาลจัด ครม.ชุดใหม่ ไม่สะท้อนสถานการณ์ปัจจุบัน
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 5 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.27 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทรัฐสภา 5 ก.ค.-“วิโรจน์” อัดรัฐบาลจัด ครม.ชุดใหม่ ไม่สะท้อนสถานการณ์ปัจจุบัน โยน 8 เก้าอี้แบ่งสันปันพรรคร่วม ไม่ตั้ง รมว.กลาโหม อ้างเป็น “แท็กติก” เพื่อดีลผลประโยชน์ของตัวเอง ขออนุโมทนาหากกัมพูชายอมร่วมโต๊ะเจรจา GBC บอก “ฮุน เซน” คงดูอยู่ เราจะปราบอาชญากรรมทางไซเบอร์อย่างไร
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขณะนี้ไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาดูแลจัดการนั้น ว่า ประชาชนตั้งคำถามในระหว่างที่เกิดข้อพิพาทอยู่ในขณะนี้ กลไกสำคัญ คือ รัฐมนตรีที่ต้องถือธงนำในการแก้ปัญหา คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่การปรับ ครม. ปรากฏว่า ปล่อยให้ว่างเว้นตำแหน่งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าไม่ได้ยึดตามสถานการณ์ อยู่ที่บ้านเมืองกำลังเผชิญอยู่มาเป็นโจทย์ในการปรับ ครม. ไม่ได้เอาเรื่องที่ประชาชนใส่ใจหรือกังวลใจ มาอยู่ในสมการการปรับ ครม. เลย แสดงว่าเป็นการเอา 8 เก้าอี้ โยนลงไปเพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลได้แบ่งสันปันส่วน ให้ตนได้ครองอำนาจภายใต้ความไร้เสถียรภาพเท่านั้นเอง
“เป็นการประคองเรือที่กำลังจะล่มไม่ให้อับปาง แต่ท้ายที่สุดด้วยความไร้เสถียรภาพ ของรัฐนาวา ไม่ล่มวันนี้ ก็ล่มพรุ่งนี้ วันที่เปิดสภาวันแรก แค่ 13 นาทีก็เรียบร้อย เรียกได้ว่า รีดสูท ยังไม่ทันยับก็ต้องกลับบ้านแล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้อำนาจเต็ม แต่ยังตัดสินใจประเด็นใหญ่ไม่ได้ต้องนำมาเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า เห็นไหม ถ้ามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะต้องมีเงื่อนไขอะไรตรงนี้หรือไม่
เมื่อถามย้ำว่า อาจจะเป็นแท็กติกเรื่องโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ นายวิโรจน์ กล่าวว่า รัฐบาลคิดแต่เรื่องแท็กติก ตั้งแต่ตอนเข้ามาก็บอกว่าแท็กติกการหาเสียง โทรไปหา “อังเคิล” ก็บอกว่าเป็นแท็กติกการเจรจาต่อรอง นี่ยังว่าเป็นแท็กติกอะไร เอาง่ายๆ ทุกคนเดาได้คือเว้นว่างเอาไว้เพื่อดีล ขอรายชื่อจากคนที่ไปดีล จะได้ประคองรัฐนาวา เพื่อให้ได้ใบสั่ง หรือใบอนุญาตให้รัฐบาลนี้อยู่ต่อ รัฐบาลคิดอยู่เพียงแค่นี้ การดีล หรือการหยิบยื่นผลประโยชน์เพื่อให้ตัวเองครองอำนาจอยู่ โดยไม่คำนึงถึงโจทก์ที่ประเทศกำลังเผชิญไม่คำนึงถึงความกังวลใจของประชาชนที่กำลังถามว่าจะเอายังไงกับปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา สุดท้ายก็คิดแต่เรื่องของตัวเอง
ส่วนที่รัฐบาลบอกว่ามีสัญญาณที่ดีที่กัมพูชาจะเข้าสู่โต๊ะเจรจา (GBC) นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก็อนุโมทนาด้วย เพราะเรายืนยันอยู่แล้วว่า เราต้องการการเจรจาภายใต้เงื่อนไขและเหตุผล ที่ยึดและอ้างอิง MOU 43 แต่เรื่องนี้ก็ต้องติดตามต่อ
ส่วนที่ฝั่งกัมพูชายังคงยืนยันว่าประสาทตาเมือนเป็นของตนเองนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก็ปล่อยให้เขาพูดไป การเมืองในโลกยุคใหม่หรือการเมืองระหว่างประเทศ กลไกในการป้องกันการฟอกเงิน การโยกย้ายเงินทุน โดยเฉพาะเงินทุนที่มาจากการก่ออาชญากรรมทางการเงิน หรืออาชญากรรมทางไซเบอร์ สามารถสืบเส้นเงินได้อย่างแม่นยำมาก ตนคิดว่าวันนี้ “ฮุน เซน” ก็กำลังแอบเชื่อมสัญญาณดูว่า จะทำอะไรตนเองบ้าง
“เขาบอกว่า ไม่เคยมียุคไหนที่ประเทศไทยหวาดกลัวกัมพูชาขนาดนี้ แต่ผมว่า ไม่มีห้วงเวลาไหนแล้วที่กัมพูชาจะหวาดกลัวโลกขนาดวันนี้เหมือนกัน เพราะการป้องกันและการปราบปรามการฟอกเงินจากนานาอารยะประเทศ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการจัดการฐานที่มั่นอาชญากรรมทางไซเบอร์ และเราต้องยอมรับว่าฐานที่มั่นหนึ่งที่สำคัญในโลกเป็นแหล่งฟอกเงินคือกัมพูชา” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ ยังกล่าวต่อว่า และที่สำคัญไม่ใช่เรื่องของการแทรกแซงกิจการในประเทศของเขา เพราะการก่ออาชญากรรม ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ล้วนเกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยก็มีผู้เสียหายจำนวนมาก และผู้เสียหาย 1 ใน 5 เป็นผู้สูงอายุ ที่เก็บคืนเงินมาทั้งชีวิตและถูกปล้นเอาไป ดังนั้น เป็นอาชญากรรมที่ตนไม่สามารถให้อภัยกับคนเหล่านี้ได้ ไม่ว่าคนเหล่านี้จะเป็นคนเชื้อชาติใดสัญชาติใดก็ตาม.-315.-สำนักข่าวไทย