มส.ถกด่วนจ่อรื้อกม.สงฆ์ เรียก5พระชั้นผู้ใหญ่แจง
สมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาให้ประชุม มส.วาระพิเศษ มีพระดำริกฎหมายคณะสงฆ์บังคับใช้มากว่า 50 ปี อาจล้าสมัย มติ มส.มอบเจ้าคณะใหญ่เรียก 5 พระชั้นผู้ใหญ่ชื่อพันสีกากอล์ฟรายงานตัวด่วน ไม่มามีโทษ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.2568 ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) วาระพิเศษ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ในกรณีพระผู้ใหญ่ 11 รูป เอี่ยวสีกากอล์ฟ โดยภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม แถลงว่า การประชุมในครั้งนี้ สมเด็จพระสังฆราชมีพระดำริให้ประชุม เพื่อหามาตรการแก้ไขโดยเร่งด่วน พร้อมทั้งมีพระดำริว่า กฎหมายคณะสงฆ์บังคับใช้มากว่า 50 ปีแล้ว อาจจะล้าสมัย ไม่ทันกับสภาพปัจจุบัน จึงมีพระนโยบาย และ มส.เห็นชอบให้เจ้าคณะผู้ปกครองทุกระดับตรวจตราพระสงฆ์ หากพบละเมิดพระวินัย ให้สอบสวนตามกฎ มส.โดยเร่งด่วน หากพบว่ามีความผิดครุกาบัติ ซึ่งเป็นโทษหนัก (ปาราชิก หรือสังฆาทิเสส) หากมีมูลให้เจ้าคณะผู้ปกครองออกคำสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน และนำหลักฐานของการผิดพระธรรมวินัยถวายเจ้าคณะใหญ่พิจารณาได้ทันที
“มส.ไม่มีนโยบายปกปิด ช่วยเหลือ แต่ต้องดำเนินการตามกฎหมายพระธรรมวินัย พร้อมทั้งยังมีมติเร่งปรับกลไกการทำงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้รัดกุม หาก พศ.ยังบกพร่อง มส.ขอบิณฑบาตรัฐบาลวิเคราะห์ปัญหา และกำหนดแนวทางการปรับโครงสร้างให้สอดรับกับภารกิจในการคุ้มครองพระพุทธศาสนาด้วย” รศ.ดร.ชัชพลกล่าว และว่า ส่วนกรณีที่ยังไม่มีคำพิพากษาหรือการลงโทษตามกระบวนการนิคหกรรม หรือหลักฐานยืนยันความผิดอย่างชัดเจน ให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลสื่อมวลชนและสาธารณชนจนกว่าจะต้องคำพิพากษาหรือคำตัดสินว่ากระทำความผิด
ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ พศ. กล่าวว่า ที่ประชุมได้นำรายชื่อที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้มอบให้ ในการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการ มส. เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ประธานสมัชชามหาคณิสสรเข้าหารือ ซึ่งมีจำนวน 11 รายชื่อ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ลาสิกขาไปแล้ว คือ อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ, อดีตพระครูปลัดสุรพล อิทธิเตโช อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมเกษร ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก, อดีตพระเทพวชิรธีราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี, อดีตพระเทพวชิรธีรคุณ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ กรุงเทพฯ, อดีตพระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ วัดใหม่ยายแป้น กรุงเทพฯ และอดีตพระครูสิริวิริยธาดา วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา
2.ยังไม่ยืนยันสถานะ ติดต่อไม่ได้ คือ พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และพระปริยัติธาดา วัดกัลยาณมิตร ซึ่งไม่ได้อยู่ที่วัดแล้วทั้งสองรูป แต่การจะยืนยันสถานะได้นั้นต้องมีหลักฐานเป็นรูปภาพหรือหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร โดย มส.มีมติให้เจ้าคณะใหญ่หนเหนือและเจ้าคณะใหญ่หนกลางเรียกมาชี้แจงข้อเท็จจริง หากไม่มาจะถือว่ามีโทษ 3.กลุ่มที่ยังมีสถานะพระภิกษุ คือ พระเทพปวรเมธี วัดประยุรวงศาวาส และพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่ง มส.มีมติให้ขอความร่วมมือเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ส่งข้อมูลให้เจ้าคณะใหญ่หนเหนือและเจ้าคณะใหญ่หนกลางโดยตรง และ 4.ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว คือ พระเทพพัชราภรณ์ วัดชูจิตธรรมาราม
“มส.มีมติมอบหมายเจ้าคณะใหญ่แต่ละหน เรียกตัวพระที่มีรายชื่อมาชี้แจงขอเท็จจริงต่อเจ้าคณะผู้ปกครอง หากไม่มาถือว่าละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ อาจถูกปลดถอดถอนจากตำแหน่งได้ และอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหลักฐานส่งให้เจ้าคณะใหญ่ด้วย จะได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยพระสงฆ์ที่ยังไม่ยืนยันสถานะ 5 รูปนั้น จะแจ้งให้มารายงานตัวโดยด่วน โดยหนังสือที่จะเรียกตัวพระสงฆ์นั้น เจ้าคณะใหญ่จะเป็นผู้ทำหนังสือแจ้ง จะมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน หากไม่มาจะมีโทษ ทั้งพักหน้าที่ ถอดถอนจากตำแหน่ง เพราะถือว่าทำให้เกิดความเสียหาต่อคณะสงฆ์อย่างร้ายแรง” นายอินทพรกล่าว.