ปิดดีลได้อีก 1 ! "ทรัมป์" ประกาศปิดดีลการค้าสหรัฐ–อินโดนีเซีย ได้สำเร็จ
ปิดดีลได้อีก 1 ! "ทรัมป์" ประกาศปิดดีลการค้าสหรัฐ–อินโดนีเซีย ได้สำเร็จ เตรียมเปิดเงื่อนไขภาษี–ศุลกากร หลังขู่เก็บภาษีสูงถึง 32% เริ่ม ส.ค.นี้
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่า สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียแล้ว ถือเป็นประเทศล่าสุดที่สามารถเจรจาตกลงการค้ากับสหรัฐได้ ในความพยายามที่จะลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐ
โดยทรัมป์ ระบุผ่านทาง “ทรูธ โซเชียล” ว่า “ข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับคนทุคน เพิ่งทำกับอินโดนีเซีย ผมได้ติดต่อโดยตรงกับท่านประธานาธิบดีที่เคารพนับถือของพวกเขา รายละเอียดจะตามมา”
ทั้งนี้ มูลค่าการค้ารวมของอินโดนีเซียกับสหรัฐ สูงถึงเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 แม้จะไม่ได้อยู่ในอันดับสูงสุด 15 อันดับแรก แต่ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการส่งออกของสหรัฐ ไปยังอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 3.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่การนำเข้าจากอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 4.8 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้าสินค้าเกือบ 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับหมวดหมู่สินค้านำเข้าหลักของสหรัฐ จากอินโดนีเซีย ตามข้อมูลของสหรัฐ ระบุว่า ได้แก่ น้ำมันปาล์ม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเราเตอร์ และสวิตช์ รองเท้า ยางรถยนต์ ยางธรรมชาติและกุ้งแช่แย็ง
ทั้งนี้ นายสุสีวีโนโน โมเอเกียร์โซ เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจ ของอินโดนีเซีย กล่าวกับรอยเตอร์ ผ่านทางข้อความว่า “เรากำลังเตรียมแถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐกับอินโดนีเซีย ซึ่งจะอธิบายขนาดของภาษีตอบโต้สำหรับอินโดนีเซีย รวมทั้งข้อตกลงด้านภาษีศุลกากร ข้อตกลงที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และข้อตกลงทางการค้า ซึ่งจะแจ้งให้สาธารณชนทราบในเร็วๆนี้
โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ส่งจดหมายไปยังกว่าสิบประเทศประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทย แจ้งถึงมาตรการภาษีใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ขณะที่อินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับจดหมายดังกล่าว และถูกระบุว่า จะโดนภาษีสูงถึง 32 เปอร์เซ็นต์