ระอุ!ทักษิณลงพื้นที่อุบลฯ เจอหญิงป่วนกลางศูนย์อพยพ จี้ถาม “สั่งเขมรยิงคนไทย?” หวิดวางมวยเดือด!
วันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยการสู้รบที่เทศบาลเมืองเดชอุดม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี จากนั้นได้ไปที่โรงครัว ทำข้าวผัดแจกผู้ประสบภัย ได้มีนางสง่า ฟินนี อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267 หมู่ที่ 4 ต.นาส่วง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ได้มาป่วนตะโกนส่งเสียงดัง ถามนายทักษิณ ว่าสั่งพวกเขมรยิงคนไทยได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวออกมาระงับสติอารมณ์ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นอดีตคนเสื้อแดง ไม่พอใจนางสง่า ฟินนี ได้ตรงเข้าทำร้ายหวิดวางมวย เจ้าหน้าที่ต้องกันตัวออกมา ต่อมานายทักษิณ ได้เดินทางไปพบปะชาวบ้านที่จุดอพยพ พร้อมมอบเงินส่วนตัวให้กับผู้อพยพ คนละ 1,000 บาท
นางสง่า ฟินนี อายุ 59 ปี กล่าวว่า ไม่ชอบนายทักษิณ ทุกอย่างที่เข้ามาในประเทศไทย อะไรก็เป็นของเขาหมด เขามาแบ่งส่วน ซึ่งอะไรที่เป็นของประเทศไทย เช่น น้ำมัน ปตท. ก็ยึดเป็นของเขา ดาวเทียมก็ของเขา พอมีเรื่องผิดกฎหมายก็หลบไปอยู่ประเทศกัมพูชา ทางกัมพูชาก็ต้อนรับ ร้องเพลงอย่างมีความสุขกัน ตั้งแต่นายทักษิณกลับเข้ามาที่ประเทศไทย ก็มีเหตุการณ์ฆ่าคน ทหารตายไปเท่าไหร่แล้ว นี่คือมูลเหตุที่ตนเองไม่พอใจ คนนี้คนเดียวที่เป็นปัญหาของประเทศของเรา เมื่อถูกถามว่าแล้วนายกฯ ของประเทศไทยที่ผ่านมาชอบใครมากที่สุด นางสง่า ระบุว่า ชอบนายชวน หลีกภัย เพราะใจดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ชอบ เพราะเป็นทหาร บ้านเมืองสงบ
หลังจากเยี่ยมศูนย์อพยพ จ.อุบลราชธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยมประชาชน ตั้งใจมาให้กำลังใจ เพราะเขาต้องอพยพออกมา ถือว่าต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนไทยต้องมีน้ำใจต่อกัน ต้องสนับสนุนเรื่องการอยู่การกิน ให้เขาอยู่แล้วไม่เดือดร้อน กินอิ่มนอนหลับ และอีกไม่กี่วันคงได้กลับบ้านกันแล้ว ขณะเดียวกัน วันเกิดก็เป็นอีกวันหนึ่งของชีวิต ไม่ได้มีอะไร คิดว่ามีหน้าที่ก็ต้องทำ เมื่อถามว่าขณะนี้สถานการณ์ยังตึงเครียดอยู่ นายทักษิณ บอกว่า ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตนได้คุยกับทางทหารแล้วบอกว่า ให้เดินตามยุทธการของเขาเลย เมื่อจบยุทธการแล้วอยากพูดคุย ค่อยพูดคุย แต่ยังไม่จบยุทธการ ก็ให้ทำให้จบก่อน
เมื่อถามถึงฝ่ายกัมพูชา ยื่นเรื่องถึง UNSC แล้ว นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะเขาเป็นคนเริ่มก่อน ตามกฎหมายระหว่างประเทศแล้ว ในเมื่อเราไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก เราก็จะขึ้นศาลโลก แต่ UNSC เป็นการร้องขอ ถ้าหากว่าเราเป็นฝ่ายรุกราน แต่บังเอิญว่า เราใช้ความอดทนอดกลั้น ประชาชนอาจจะหงุดหงิดว่าทำไมเราใจเย็น หากเราไม่ใจเย็น เราก็จะเข้าแผนเขา เราต้องใจเย็นอดกลั้น และฝั่งกัมพูชา ก็ยิงก่อน เมื่อเขายิงก่อนเราก็มีสิทธิ ซึ่งตรงนี้เราไม่เข้าข้อที่เรียกว่าเป็นการรุกรานก่อน ดังนั้นก็ไม่สามารถเอาเราขึ้นศาลโลกได้ ทั้งนี้ มองว่า UNSC ก็คงไม่แทรกแซงอะไร แต่คงอยากจะให้เหตุการณ์นี้ยุติโดยเร็ว ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากมีเรื่อง แต่เขาอยากหาเรื่อง เมื่ออยากหาเรื่อง ก็ต้องว่าตามกติกา เมื่อคุยกันว่าจะจบ ก็ต้องจบ แล้วเราจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันหรือไม่ เราอยู่ด้วยความไว้วางใจได้หรือไม่ ถ้าได้ก็อยู่ ถ้าไม่ได้จะทำอะไรก็ทำไป ไม่เป็นไร
เมื่อถามว่า ฝั่งไทยเองอยากให้กัมพูชากลับเข้ามาอยู่ในโต๊ะเจรจา นายทักษิณ บอกว่า เขาพยายามหลีกเลี่ยง เพื่อต้องการสร้างให้ตัวเองได้เปรียบ ทำนองว่า เอะอะอะไรก็จะขึ้นศาลโลก ซึ่งเราไม่ยอมรับศาลโลกอยู่แล้ว บางทีเราอดทนอดกลั้น ซึ่งบางทีประชาชนไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลใจเย็น แต่เราต้องอดทน เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว เราถือว่าเราได้ทำหน้าที่ของเราดีที่สุด ส่วนเงื่อนไขที่บอกว่าให้กัมพูชาหยุดยิงก่อนถึงจะเจรจานั้น เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขปลีกย่อยซึ่งทางทหารในพื้นที่ย่อมรู้ดี ให้ทำตามยุทธการให้จบ
เมื่อถามว่าขณะนี้มีหวังว่าฝั่งอาเซียน โดย นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย และประธานอาเซียน จะมาเป็นตัวกลางในการเจรจาหรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่อง Conflict ของ 2 ประเทศ มองว่าคุยกันเองก็ได้ ถ้าเขาอยากจะคุย แต่ถ้าไม่อยากคุย ก็จะคุยผ่านใครแล้วค่อยว่ากันอีกที แต่วันนี้เราถือว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้ง 2 ประเทศที่สามารถคุยกันก็ได้ เมื่อถามถึงบางส่วนมองว่าภาพลักษณ์ประเทศไทยไปรังแกก่อน ยืนยันว่าไม่มีเลย เขายิงมาและยิงเป้าหมายที่เป็นประชาชน อันนี้คือสิ่งที่แย่ที่สุดของโลก ซึ่งทั้งโลกประณามหมดแล้ว แต่เราโต้กลับเฉพาะพื้นที่ทหารเท่านั้น เราไม่ได้โต้กลับในพื้นที่พลเรือน
เมื่อถามอีกว่า บางฝ่ายมองว่าฝั่งไทยสื่อสารค่อนข้างช้าในระดับสากล นายทักษิณ บอกว่า เราสื่อสารไปเยอะพอสมควร แต่บางทีบางครั้ง ฝั่งกัมพูชาใช้หลัก Propaganda ความหมายประมาณว่า โกหกไปเรื่อยๆ และพยายามให้คนในประเทศตัวเองเข้าใจว่าตัวเองเก่ง แต่ความจริงแล้วเป็นการโกหก
จากนั้น นายทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งที่จุดอพยพอีกจุด ถึงการลงพื้นที่ในวันนี้ และจะนำไปแนะนำเกี่ยวกับการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วนอย่างไรบ้างนั้น ว่า วันนี้หลังจากมีการตั้งศูนย์พักพิง เราต้องทำให้ชาวบ้านมั่นใจว่าพวกเขามาอยู่แล้วจะต้องกินอิ่มนอนหลับ และเมื่อสถานการณ์ได้มีการยืนยันว่าปลอดภัยแล้ว พวกเขาก็จะได้กลับไปอยู่ที่พักอาศัยได้ตามปกติ เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในอีกไม่ช้า ส่วนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นที่ขาดแคลนอยู่ เราต้องคอยตรวจสอบดูอยู่ตลอดเวลา มีอะไรที่ยังต้องการอยู่ ก็ขอให้ประสานมา ทางรัฐบาลโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องดูว่ามีพื้นที่ไหนที่ได้รับความเดือดร้อนอีก รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข ที่ก็ต้องดูในเรื่องของสุขภาพของชาวบ้านด้วย เท่าที่ทราบในตอนนี้ ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ได้สั่งการให้รัฐมนตรีดูแลรับผิดชอบในจังหวัดต่างๆ แล้ว เท่าที่ลงพื้นที่มาดู ตอนนี้ศูนย์พักพิงต่างๆ ก็ถือว่าเรียบร้อยราบรื่นดี แต่หากกรณีที่สถานการณ์อาจจะยืดเยื้อออกไป ก็จะต้องมาดูที่พักอาศัยให้ดีขึ้น
นายทักษิณ บอกอีกว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็มีความห่วงใย และได้ฝากความห่วงใยมา ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็ต้องดูในส่วนที่พอจะทำได้ ไม่ขัดต่อคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมย้ำว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากตนในฐานะบิดา ที่เดินทางลงพื้นที่ในวันนี้ ให้นำข้อความบอกกับประชาชนว่าเป็นห่วงมากๆ แต่ยังทำหน้าที่ไม่ได้ จนกว่าจะสิ้นสุดกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยตัดสิน พร้อมย้ำว่าตัวเองจะทำให้เต็มที่ ในฐานะประชาชนคนแก่ทั่วไปคนหนึ่ง จากนั้นได้ขึ้นรถออกไปเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านที่ศูนย์พักพิงแห่งอื่นๆ เพิ่มเติมอีกในพื้นที่ใกล้เคียง