สองแม่ลูกกินไม่ได้นอนไม่หลับ ที่ดินถูกขายทอดตลาด ทั้งที่ชำระหนี้ธนาคารแล้ว!
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นางสาวธนัฏฐา สง่าเมือง วัย 57 ปี พร้อมด้วยลูกสาว ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี และเปิดเผยเรื่องราวต่อสื่อมวลชนด้วยน้ำตา หลังพบว่า โฉนดที่ดินเกือบ 5 ไร่ของตนเองถูกธนาคารแห่งหนึ่งยึดและนำออกขายทอดตลาดไปแล้ว ทั้งที่ได้ชำระหนี้ไปแล้วเป็นจำนวน 250,000 บาทตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
นางสาวณัฐพร ยอดศรี ลูกสาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนมีหลักฐานการชำระเงินที่ทำธุรกรรมผ่านธนาคารเมื่อวันที่ 25 เม.ย.68 อย่างครบถ้วน แต่กลับพบว่าทรัพย์สินดังกล่าวถูกขายทอดตลาดไปให้บุคคลที่สามในราคา 535,000 บาท เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.68 และมีการโอนกรรมสิทธิ์เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.68 ทำให้เกิดความเสียหายและความคลางแคลงใจอย่างหนักต่อการดำเนินงานของธนาคาร
นางสาวธนัฏฐา ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นชื่อของลูกสาว โดยได้นำไปจำนองกับธนาคาร ต่อมาเมื่อได้รับหนังสือจากกรมบังคับคดีแจ้งเรื่องหนี้สิน ตนได้ไปที่กรมบังคับคดีซึ่งแจ้งว่าต้องใช้เงิน 190,000 บาท แต่ไม่ได้เตรียมเงินไป จึงกลับไปคุยกับธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ โดยธนาคารแนะนำให้โอนเงินเข้าบัญชี 3,000 บาทเพื่อรอการปรับโครงสร้างหนี้ และจะติดต่อกลับไป
แต่หลังจากรอการติดต่ออยู่นานด้วยความร้อนใจ เพราะที่ดินมีหลายไร่ จึงได้นำเงินไปที่ธนาคารอีกครั้งเพื่อจะไถ่ถอนที่ดินคืน แต่ทางธนาคารแจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากได้ขายทรัพย์ให้กับบริษัทสินทรัพย์แห่งหนึ่งไปแล้ว โดยธนาคารได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของบริษัทสินทรัพย์นั้นมาจำนวนมาก ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 2 วันกว่าจะติดต่อได้สำเร็จ
นางสาวธนัฏฐา เล่าต่อว่า หลังจากคุยกับบริษัทฯ เพื่อขอไถ่ที่ดินคืนด้วยเงินสด ทางบริษัทฯ แจ้งยอด 290,000 บาท ตนจึงขอประนอมหนี้เนื่องจากมีเงินเพียง 150,000 บาท บริษัทฯ ตกลงประนอมหนี้ให้ในราคา 250,000 บาท และให้ลูกสาวเซ็นยินยอมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่นอกเหนือจากยอดนี้ทั้งหมด โดยบริษัทฯ ยืนยันว่าจะไม่โกง และให้เลือกชำระเงินที่ธนาคารสาขาใดก็ได้ ซึ่งตนเลือกชำระที่สาขาประจันตคามเมื่อวันที่ 25 เม.ย.68 โดยมีหลักฐานการชำระเงินจากธนาคาร ในตอนแรกไม่ได้สังเกตว่าผู้รับเงินคือบริษัทฯ
หลังโอนเงินครบ 250,000 บาท เจ้าหน้าที่แจ้งให้รอการติดต่อกลับเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินคืน และให้เตรียมเงินค่าธรรมเนียมไว้ 15,000-20,000 บาท แต่เมื่อรอการติดต่อและมีการพูดคุยทางไลน์ตลอด ทางตนเริ่มสงสัยว่าทำไมเรื่องเงียบไป จึงให้เพื่อนลูกสาวตรวจสอบในอินเทอร์เน็ต และพบว่าที่ดินแปลงนี้ถูกขายทอดตลาดไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.68 ทั้งที่ชำระหนี้ไปตั้งแต่ 25 เม.ย. ซึ่งห่างกันเกือบ 2 เดือน
เมื่อติดต่อผู้ที่ซื้อที่ดินไปก็ได้รับแจ้งว่าได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.68 จึงเกิดความสงสัยอย่างมากว่า เมื่อตนได้ชำระเงินไปแล้ว 250,000 บาท ทำไมถึงยังไม่ได้ที่ดินคืน และเงินก็ไม่ได้คืน ซึ่งเชื่อว่าจะถูกโกงและยังไม่แน่ใจว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ ระหว่างธนาคารกับบริษัทฯ
ก่อนหน้านี้เมื่อได้รับเอกสารแจ้งการขาย ตนได้ส่งหลักฐานการชำระเงินไปสอบถามทางไลน์ว่าเหตุใดจึงยังมีการขายที่ดินทั้งที่ได้ชำระหนี้แล้ว แต่ได้รับคำตอบว่าได้แจ้งไปยังบริษัทฯ แล้ว จึงตั้งคำถามว่า "ทำไมธนาคารถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้?"
นางสาวธนัฏฐา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนร้อนใจมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ และอยากได้ที่ดินคืน จึงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาให้ความกระจ่างและตรวจสอบกรณีนี้โดยด่วน