ชมงาน "SPLASH - Soft Power Forum 2025" จุดประกายไทยสู่ศูนย์กลางซอฟต์พาวเวอร์
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน SPLASH - Soft Power Forum 2025 โดยมี คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารภาครัฐ ภาคเอกชน คณะทูตานุทูตประจำประเทศไทย และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ เข้าร่วมงาน ณ เวที Visionary Stage Hall 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานแบ่งเป็น 6 โซนไฮไลต์บอกเล่าเรื่องราวเป้าหมายการทำงานของ THACCA รวมทั้งพื้นที่สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และเวิร์กช็อป สร้างทักษะใหม่ให้กับเยาวชน ผู้ประกอบการ เพื่อหวังจุดประกายสร้างโอกาสให้คนไทยและขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ระดับสากล
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซับซ้อน และไม่แน่นอน ประเทศไทยต้องปรับตัวจากการพึ่งพาอุตสาหกรรมแบบเดิม เช่น การเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ หรือ "ครัวของโลก" ไปสู่การใช้ "วัฒนธรรมสร้างสรรค์" เป็นพลังเศรษฐกิจใหม่ ผ่านการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ที่มีรากจากท้องถิ่น แต่สื่อสารได้อย่างสากล
รมว.วัฒนธรรมเน้นว่าซอฟต์พาวเวอร์ไม่ใช่เพียงวัฒนธรรมที่น่าภาคภูมิใจแต่คือเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่สร้างรายได้มหาศาลและประเทศไทยมีทุกองค์ประกอบที่โลกต้องการทั้งความคิดสร้างสรรค์ความหลากหลายความยั่งยืนและความเป็นของแท้โดยนโยบายในปีที่ผ่านมาเน้นการบูรณาการภาครัฐ-เอกชนและการเปลี่ยนบทบาทภาครัฐจากผู้ควบคุมเป็น"ผู้สนับสนุน" ที่เปิดทางให้เอกชนนำดังนั้นงานSPLASH - Soft Power Forum 2025 ไม่ใช่แค่เวทีแสดงศักยภาพแต่คือพื้นที่แห่งความร่วมมือแรงบันดาลใจและอนาคตของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย
โดยการจัดงาน "SPLASH - Soft Power Forum 2025" ในครั้งนี้ มีวิสัยทัศน์ในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางซอฟต์พาวเวอร์ในเวทีโลก ด้วยการบูรณาการวัฒนธรรมสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจใหม่ใน 14 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเชื่อม “ทุนวัฒนธรรม” กับ “โอกาสเศรษฐกิจใหม่” พร้อมยกระดับการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ให้เป็นรูปธรรม และให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมสร้างสรรค์ โอกาสเปล่งประกาย” ซึ่งนับเป็นครั้งแรก ที่ภาครัฐและเอกชนรวมพลังกันอย่างเต็มรูปแบบ
เพื่อต่อยอดเชิงยุทธศาสตร์พาซอฟต์พาวเวอร์ไทย สู่อนาคต ผ่านเวทีโชว์ศักยภาพทั้งในมิติของนโยบาย แรงบันดาลใจ และโอกาสทางเศรษฐกิจ พร้อมผสานพลังจาก 14 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ การออกแบบ กีฬา เกม ดนตรี ท่องเที่ยว เฟสติวัล แฟชั่น ภาพยนตร์,สารคดีและแอนิเมชันละครและซีรีส์ ศิลปะ หนังสือ และอาหาร รวมถึง 2 อุตสาหกรรมใหม่ในปีนี้ อันประกอบด้วย เวลเนส และศิลปะการแสดงสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของซอฟต์พาวเวอร์ไทยอย่างก้าวกระโดด
ภายในงาน SPLASH - Soft Power Forum 2025 ไม่ได้เป็นเพียงเวทีเสวนา แต่ SPLASH คือ ประสบการณ์ที่สะท้อนพลังสร้างสรรค์ของไทยผ่าน 6 โซนกิจกรรม ได้แก่
1.เวทีเสวนานานาชาติ (Visionary Stage) ระดมวิสัยทัศน์จากวิทยากรระดับโลก ผู้นำความคิดและนักสร้างสรรค์จากหลากหลายประเทศ มาร่วมแบ่งปันกลยุทธ์ แลกเปลี่ยนมุมมอง และโอกาสใหม่ๆเสริมพลังให้กับประเทศไทยไปสู่ตลาดโลก อาทิ เวทีเสวนา โดย คุณ James Fauntleroy, Co-Founder 1500 Sound Academy โปรดิวเซอร์เพลงรางวัลแกรมมีอวอร์ดจากอุตสาหกรรมเพลง ในหัวข้อ “Turning a Listener into a Supporter” อีกทั้งผู้เชี่ยวชาจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ คุณ Michael J. Young President of the New York Film Academy
รวมถึงเวทีเสวนาหัวข้อ "Art by teamLab* โดย คุณทาเคชิ ยามาดะ จากอุตสาหกรรมออกแบบ และเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจจากวิทยากรชื่อดังท่านอื่นๆ อีกมากมาย
2.หมู่บ้านวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Creative Culture Village) นิทรรศการจาก 14 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ นำเสนอศักยภาพของ
อุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟพร้อมการโชว์ผลงาน จากผู้ประกอบการทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่
3.นิทรรศการแสดงวิสัยทัศน์วัฒนธรรมสร้างสรรค์(THACCA Pavition) ศูนย์รวมองค์ความรู้ ยุทธศาสตร์และการเตรียมพร้อมสู่ตลาดโลกด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการสื่อสารกิศทางของนโยบาย สู่การปฏิบัตจริง
4.การสร้างเครือข่ายและโอกาสทางธุรกิจ (Glo-Cal Networking) พื้นที่เจรจาธุรกิจ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้จับคู่กับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างเครือข่ายการลงทุน และการขยายตลาดในระดับโลก
5.กิจกรรมพิเศษเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านซอฟต์พาวเวอร์ (Workshop Masterclass and Special Activities) เวิร์กช็อปอบรมพิเศษเพื่อการ Upskill/Reskill ทั้งเยาวชน ผู้ประกอบการ และชุมชน ผ่านโครงการ "One Family One Soft Power (OFOS)” และกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบนเวทีมินิสเตจอย่างใกล้ชิด อาทิ การสาธิตแต่งหน้า มวยไทย และการทำอาหาร เป็นต้น
6.โซนสร้างประสบการณ์ด้านซอฟต์พาวเวอร์ (Experiential Zone) พื้นที่แสดงเทคโนโลยีสร้างสรรค์แนวใหม่ภายได้ธีม "Multisensory Mindfulness Experience" ที่จะพาผู้เข้าร่วมงานสัมผัสกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ไฮไลต์จาก 14 อุตสาหกรรมในฐานะเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยที่จะมาจุดประกายแรงบันดาลใจของคนไทยทุกคนตลอด 4 วัน ประกอบด้วย
1.อุตสาหกรรมเฟสติวัล (Festival) สร้างแรงบันดาลใจจาก "งานวัดไทย" ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสัมผัสกับสีสันและความมีชีวิตชีวาของงานเทศกาลไทย ด้วย Iconic Landmark อย่างชิงช้าสวรรค์สุดอลังการ ซึ่งเป็นภาพจำ และเป็นสัญลักษณ์ของการนำเสนอแนวคิด The Country of Festival จุดหมายปลายทางระดับโลกแห่งการเฉลิมฉลองในทุกเทศกาล
2. อุตสาหกรรมศิลปะ (Art) นำเสนอผ่าน Art Gallery อันนำเอาศิลปะร่วมสมัยมาจัดแสดง ด้วยแนวคิด A-R-T Awaken สื่อถึงการปลุกพลังความคิดและจินตนาการ Reflection สื่อถึงการสะท้อนรากเหง้าศิลปะไทยและ Transform สื่อถึงการแสดงศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์สู่เวทีระดับโลก ซึ่งไม่เพียงแต่จัดแสดงเพื่อความสวยงาม แต่ยังใช้เพื่อสื่อสารและเชื่อมโยงผู้คนกับวัฒนธรรมดั้งเดิม และอนาคตของไทย
3.อุตสาหกรรมการออกแบบ (Design) ผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางการออกแบบแห่งภูมิภาค ด้วยการนำเสนอ “Front 100" โครงการรวบรวม 100 นักออกแบบไทยรุ่นใหม่ที่ได้ยกทัพไปโชว์ศักยภาพในงานระดับโลก รวมถึงเหล่า Masterpieces อาทิ คุณนิธี สถาปิตานนท์ สถาปนิกร่วมสมัย คุณสุวรรณ คงขุนเทียน นักออกแบบผสมผสานงานหัตถกรรมไทย และคุณไพโรจน์ ธีระประภา กราฟิกดีไซน์ชื่อดัง และผู้เชี่ยวชาญอีกมากมาย รวมไว้ในงานนี้ที่เดียว
4.อุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion) ด้วยมุมมอง “Fashion is Second Skin" หรือผิวหนังชั้นที่สองสะท้อนให้เห็นถึงการมองตัวตนที่มีเอกลักษณ์แต่ละบุคคล ทั้งเสื้อผ้า รอยสัก เครื่องประดับ ฯลฯ ผสานเข้ากับ "ความเชื่อ” หรือ "ศรัทธา” (Believe) นำไปสู่การจุดประกายการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและผลักดันแฟชั่นให้เป็น "Sacred Skin หรือความมงคลบนผิวหนัง" อัตลักษณ์ที่ทรงพลังและมีความหมายยิ่งกว่าความสวยงามภายนอก เช่นเดียวกับการออกแบบโครงสร้าง Fashion Pavition ที่สวยงามโดดเด่น อันมีแรงบันดาลใจมาจาก “กระชังหอยอ่างศิลา" นำเสนอความเรียบง่าย พร้อมกับความงามแบบไทยได้อย่างลงตัว
5.อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมเวลเนส (Tourism & Wellness) จากการรวมตัวกันของ 2 อุตสาหกรรมอย่างสอดคล้องประสานกัน นำไปสู่แนวคิด "Manifesto Your Travel" ผ่าน 3 โซนไฮไลด์ประกอบด้วย Create Inspirations สร้างแรงบันดาลใจผ่านกรณีศึกษาที่น่าสนใจในวงการท่องเกี่ยว Dream the Destination เกมตอบคำถามและสร้างภาพการท่องเที่ยวในฝันให้เป็นจริง รวมถึง Well Voyage Stage เอาฝันมาเล่าต่อผ่านเวทีแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวและสุขภาวะ
6.อุตสาหกรรมอาหาร (Food) พาทุกท่านก้าวสู่โลกที่รสชาติไทยไม่ได้แค่อร่อย แต่มีพลังสร้างเศรษฐกิจเปลี่ยนชีวิต ด้วยโซน Immersive Exhibition และการสาธิตทำอาหารจากเหล่าเชฟมากฝีมือ ด้วยแนวคิด Bridging Opportunity to the World ที่มอบหมายให้ “อาหาร" เป็นตัวกลางเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำ ตลอดจนปลายน้ำของวงการอาหารได้เติบโตอย่างยั่งยืนสู่ตลาดอาหารโลก
7.อุตสาหกรรมศิลปะการแสดง (Performing Art) นำเสนอศิลปะการแสดงที่ไม่ใช่เพียงแค่การแสดงบนเวทีแต่เป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ของสังคม อาทิ การแสดง Humans Co-Dancing with AI หรือ Thaituristic Drag Scene ด้วยการเชื่อมโยงศิลปะการแสดงร่วมสมัยกับชีวิตประจำวันของผู้คน ต่อยอดไปกับ อุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าศิลปะการแสดง สามารถผสานเข้ากับอุตสาหกรรมอาหาร แฟชั่น สุขภาพ หรือแม้กระทั่งนโยบายสาธารณะได้อย่างลงตัว
8.อุตสาหกรรมเกม (Game) มุ่งนำอุตสาหกรรมเกมให้เป็นประตูสู่อนาคตของเกม และอีสปอร์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลักดัน Digital Game, Board Game, และ Esports สำหรับงานนี้ เตรียมพบปะ ผู้เชี่ยวชาญจากวงการเกมกว่า 60 ท่าน อาทิ คุณจักรพล ป้อมปรานี หรือโค้ชป้อม ผู้ฝึกสอนทีมชาติเกม ROV คุณธีเดช ทรงสายสกุล นักกีฬาอีสปอร์ต ทีมชาติไทยดีกรีแชมป์เหรียญทอง ซีเกมส์และแชมป์เหรียญทอง
เอเชียนเกมส์ เกม EA FC Online หรือ ฟีฟ่าออนไลน์ ตลอดจนร่วมรับชม Show Match จากทีมอีสปอร์ตตลอด 4 วัน
9.อุตสาหกรรมดนตรี (Music) นอกจากเวทีการแสดงจากเหล่าคิลปินทั่วประเทศ งานนี้มีโซนกิจกรรมสำหรับผู้เข้าร่วมงานได้แสดงพลังเสียงกันอย่างเต็มที่อีกด้วย โดยมุ่งเน้นการผลักดันพันธกิจจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านดนตรี อาทิ Thai MuSic Wave ส่งนักดนตรีไทย ที่มีศักยภาพไปแสดงสดบนเวทีนานาชาติ อีกทั้ง Music Awards เชิดชูความสามารถและความสำเร็จในอุตสาหกรรมดนตรี
10.อุตสาหกรรมภาพยนตร์ สารคดี และแอนิเมชั่น (Film, Documentary, and Antmation) รวมถึงอุตสาหกรรมละครและซีรีส์ (Drama & Series) นำเสนอไฮไลด์ อาทิ อุโมงค์ Immersive Film Digital ที่ใหญ่ที่สุด พร้อมเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ ด้วยกิจกรรมที่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้มีส่วนร่วม กับเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งมีเป้าหมายตามแนวคิด “Transforming Asia's Film & Media Landscape" พัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตสื่อระดับโลก
11.อุตสาหกรรมหนังสือ (Book) ด้วยแนวคิด “จากแผงหนังสือถึงห้องสมุด” อุตสาหกรรมหนังสือ น้ำเสนอไฮไลด์ 5 โซน ได้แก่ พื้นที่เสวนาจากผู้เชี่ยวชาญในวงการหนังสือ อาทิ ตัวแทนจาก Dek-D, Meb และ Pantip เป็นต้น โซนพื้นที่นั่งพักผ่อนเรียนรู้ผ่านหนังสือ โซนแผงขายหนังสือ โซน Business Matching และโซน Exhibition
12.อุตสาหกรรมกีฬา (Sport) นำเสนอแนวคิด “The Masterpiece of Thai Power” ด้วยมวยไทย สะท้อน อัตลักษณ์ของไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในมิติ Sport Culture Exercise Lifestyle ผ่านกิจกรรมไฮไลด์ อาทิ Muaythai Performance, Muaythai Workout, และ Muaythai Class เป็นต้น
การจัดงาน SPLASH - Soft Power Forum 2025 จึงไม่ใช่เพียงแค่การรวมพลังของ อุดสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ไทยในวันนี้ แต่เป็นก้าวย่างสำคัญของประเทศไทยบนเส้นทางสู่การเป็น ศูนย์กลางซอฟด์พาวเวอร์ของภูมิภาคและของโลก งานนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า เมื่อทุนวัฒนธรรม ทักษะสร้างสรรค์ และนโยบายรวมพลังกันอย่างเป็นระบบ ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้อย่างแท้จริง
ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้ เพื่อร่วมกันผลักดันพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทย ให้เปล่งประกายบนเวทีโลกอย่างภาคภูมิ แล้วพบกันที่งาน SPLASH - Soft Power Forum 2025 ระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2568 ณ ฮอลล์ 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ (OSNCC) กรุงเทพมหานคร ร่วมสัมผัสพลังวีสร้างสรรค์ไทย ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งภูมิภาค และพาไทยไปไกลกว่าที่เคย(เมื่อวันที่ 8 ก.ค.68)
ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นับถอยหลัง “สมรสเท่าเทียม” เตรียมจดทะเบียนพร้อมกันทั่วประเทศ 1,000 คู่
- “เสริมศักดิ์” ยัน โอซีเอ ไม่แบนไทยร่วม เอเชียนเกมส์-ซีเกมส์ หลังเหตุยกเลิกการเป็นเจ้า เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6
- นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ “บวร ๑๐” ในหลวง ครบ 6 รอบ 72 พรรษา
- “จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์” กินกันไม่ลงครองแชมป์บอลสานสัมพันธ์ ร่วมกัน
- ไอคอนจัดใหญ่เทศสงกรานต์ ริมเจ้าพระยาขานรับเฟสติวัลระดับโลก