GWM ดึงเทคโนโลยี AI พัฒนายานยนต์สมัยใหม่ เป้าหมาย Safety Efficiency Experience
ค่ายจีน GWM ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงาน Automotive Summit 2025 งานสัมนาวิชาการด้านยานยนต์ ที่จัดระหว่างวันที่ 18 - 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดย เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย บรรยายในหัวข้อ AI in Autonomous Driving - How AI work in ADAS/Autonomous Vehicle
นายเวย์น โจว ระบุว่า GWM เชื่อมั่นว่าอนาคตของการขับขี่จะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้งานอย่างแท้จริง เราจึงให้ความสำคัญสูงสุดกับการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ด้วยการผสาน AI เข้ากับระบบความปลอดภัยและการตัดสินใจของรถทั้งในรูปแบบของโมเดล SEE (Safety, Efficiency, Experience) และเทคโนโลยี ASL (Agent of Space & Language)
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงใช้ “สถาปัตยกรรมแบบ End-to-End เชิงโมดูลาร์” ซึ่งแบ่งกระบวนการทำงาน เช่น การรับรู้ ตัดสินใจ และควบคุม ออกเป็นส่วนๆ โดย AI จะเข้ามาช่วยในแต่ละขั้นตอน จุดเด่นคือความยืดหยุ่นและสามารถให้มนุษย์ควบคุมร่วมได้ แต่ข้อจำกัดคือแต่ละส่วนแยกกัน ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารภายในระบบ เพื่อแก้ปัญหานี้ GWM จึงเกิดแนวคิด “Full End-to-End” ที่รวมทุกกระบวนการไว้ในโมเดล AI เดียว
แม้จะทันสมัยและคิดตัดสินใจเองได้ทั้งหมด แต่ยังมีข้อท้าทายด้านความปลอดภัย และไม่สามารถควบคุมจากมนุษย์ได้ GWM จึงได้พัฒนาโมเดล SEE (Safety, Efficiency, Experience) โมเดลขนาดใหญ่ที่รวมข้อดีของทั้งสองระบบเข้าด้วยกัน โดยระบบจะรับรู้ วิเคราะห์ และควบคุมได้แม่นยำในหนึ่งเดียว พร้อมเปิดให้มนุษย์ควบคุมบางสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
GWM นำโมเดล SEE มาติดตั้งในรถ MPV ระดับเรือธงอย่าง GWM WEY 80 ในประเทศจีน โดย SEE ถูกพัฒนาให้ทำงานอยู่บนแพลตฟอร์ม Coffee Pilot Ultra ผสานเซ็นเซอร์อัจฉริยะ 27 ตัว และชิป NVIDIA Orin-X เพื่อประมวลผลข้อมูลรอบทิศทางอย่างแม่นยำ พร้อมรองรับการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ผ่านเทคโนโลยี End-to-End ที่สามารถรวมข้อมูลจากเสียง ภาพ ข้อความ และการสัมผัสเข้าด้วยกัน
ในส่วนเทคโนโลยี ASL (Agent of Space & Language) กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา เป็นโมเดล AI ที่ถูกออกแบบให้สามารถสื่อสารกับผู้ขับขี่ผ่านภาษามนุษย์โดยตรง พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลจากสามแหล่งสำคัญ ได้แก่ ภาพ 3 มิติจากกล้องรอบตัวรถ ระบบ LiDAR และเรดาร์ มีความสามารถในการเรียนรู้ วิเคราะห์ และปรับตัวได้อย่างแม่นยำ
“ปี 2025 จะเป็นหมุดหมายสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของ AI และในอนาคต ASL จะไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยี แต่จะกลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจผู้ขับขี่อย่างแท้จริง” นายเวย์น โจว กล่าว