ธ.กรุงศรี-MUFG ขยายพอร์ตสินเชื่อยั่งยืนแตะ 2.5 แสนล้าน หนุนเศรษฐกิจสีเขียวอาเซียน
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในเครือ MUFG ประเทศญี่ปุ่น ประกาศปรับบทบาทองค์กรสู่การเป็น ‘ธนาคารภูมิภาคผู้นำด้านความยั่งยืน’ เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี พร้อมจัดงานใหญ่ ‘Krungsri-MUFG Business Forum 2025: Thriving to a Sustainable Future’ เพื่อระดมผู้นำจากหลายภาคส่วนมาแลกเปลี่ยนมุมมองและวางกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก
ภายในงาน ธนาคารยังได้ประกาศเพิ่มเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อเพื่อสังคมและความยั่งยืน (Social and Sustainability Finance: SSF) จากเดิม 1 แสนล้านบาท เป็น 2.5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 เพื่อสนับสนุนโครงการพลังงานสะอาด การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
โดยปัจจุบันได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อสังคมและความยั่งยืนไปแล้วกว่า 9.5 หมื่นล้านบาท และครองส่วนแบ่งตลาดพันธบัตร ESG อยู่ที่ 19% นอกจากนี้ กรุงศรียังตั้งเป้าสนับสนุนลูกค้าทั้งในไทยและภูมิภาคให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2573 สำหรับกิจกรรมของธนาคาร และภายในปี 2593 สำหรับบริการทางการเงินทั้งหมด ควบคู่ไปกับการยุติการสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินภายในทศวรรษนี้อย่างเด็ดขาด
‘เคนอิจิ ยามาโตะ’ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยสำคัญหลายประการ ทั้งเงินทุน องค์ความรู้ เทคโนโลยี และความร่วมมือในวงกว้าง ซึ่งธนาคารพร้อมทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงปัจจัยเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน สอดคล้องกับพันธกิจของ MUFG ที่มุ่งผลักดันการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเชีย
ขณะที่ ‘คาเนทสุกุ มิเกะ’ ประธานกรรมการ MUFG ย้ำว่า ความยั่งยืนต้องถูกบูรณาการให้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจหลัก ไม่ใช่เป็นเพียงความรับผิดชอบต่อสังคมเท่านั้น โดยจะใช้เครือข่ายระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อสร้างการเติบโตที่สมดุล
พร้อมกันนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ยุคใหม่ ลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลกในด้านสินเชื่อสีเขียว ตราสารหนี้ยั่งยืน และโครงสร้างทางการเงินเพื่อการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการประกวดแผนธุรกิจ Krungsri ESG Awards: Minutes of Changes และโครงการ Krungsri ESG Academy ซึ่งเป็นเวทีที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องและส่งเสริมธุรกิจที่ริเริ่มแนวทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเปิดโอกาสให้ผู้นำจากอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและนำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย
“พลังจากความร่วมมือ นวัตกรรม และการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักความยั่งยืน คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านความซับซ้อนของโลกยุคใหม่ไปได้ ไม่เพียงแค่การอยู่รอด แต่จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนอย่างแท้จริง” ยามาโตะ กล่าวทิ้งท้าย