เลือกหุ้นอย่างไรให้มีโอกาสได้กำไร เมื่อตลาดเริ่มฟื้นตัว?
#ทันหุ้น – วันนี้จะมาเจาะลึกกันว่า เมื่อเราเห็นแล้วว่าตลาดหุ้นกำลังจะฟื้นตัว แล้วเราจะ เลือกหุ้นแบบไหนให้เหมาะสม กับภาวะตลาดแบบนี้
หัวใจสำคัญของการเลือกหุ้นเมื่อตลาดกำลังจะกลับตัวเป็นขาขึ้นคือการ เน้นหุ้นที่มีการเติบโตสูง และมี โมเมนตัมที่ดี ซึ่งจะต้องวิเคราะห์ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคควบคู่กันไป และอย่าลืมเรื่องการบริหารความเสี่ยงด้วย
.
.
ประเด็นแรก ให้มองหาหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มักจะนำตลาดในช่วงแรกของการฟื้นตัว เช่น กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มโรงพยาบาล สุขภาพ หรือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย เพราะกลุ่มเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีรายได้และกำไรเติบโตได้ดีกว่ากลุ่มอื่นๆ
ประเด็นที่สอง นอกจากกลุ่มอุตสาหกรรมแล้ว ให้มองหาหุ้นที่ราคาวิ่งได้ดีกว่าตลาดโดยรวม หรือมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นที่สาม การใช้ ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค ควบคู่กันก็สำคัญไม่แพ้กัน
- ด้านเทคนิค ดูจากกราฟ โดยให้เลือกหุ้นที่ราคาสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญๆ ได้ เช่น เส้น EMA 50 วัน หรือ 200 วัน หรือมีสัญญาณที่เรียกว่า Breakout คือราคาเบรกทะลุแนวต้านสำคัญขึ้นไป
- ด้านพื้นฐาน จะดูที่ผลประกอบการ โดยให้เลือกหุ้นที่มีผลกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง และมียอดขายที่ดีอย่างสม่ำเสมอ
ประเด็นสุดท้าย อย่าลืมกระจายความเสี่ยง หากลงทุนในหลายๆ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว ก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้ และอย่าลืมติดตามด้วยว่ากลุ่มไหนกำลังจะกลายเป็นผู้นำตลาดในช่วงนั้นๆ
เทคนิคการเข้าซื้อและบริหารความเสี่ยง
เมื่อเลือกหุ้นได้แล้ว การวางแผนการลงทุนก็สำคัญไม่แพ้กัน
.
- ถ้าเรามั่นใจในพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นจริงๆ ก็สามารถ ซื้อแล้วถือยาว ได้เลย เพื่อให้ราคาได้วิ่งไปตามแนวโน้มขาขึ้นอย่างเต็มที่
- หรือหากหุ้นที่เราเล็งไว้มีจังหวะที่ราคาปรับฐานลงมา ก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะ ทยอยซื้อเพิ่ม เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การบริหารความเสี่ยง
- ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นตัวไหน ก็ควร ตั้งจุด Stop Loss หรือจุดตัดขาดทุนไว้เสมอ เพื่อป้องกันพอร์ตของเราเสียหายหนัก หากหุ้นเกิดปรับฐานแรงๆ
- และอย่าลืม กระจายพอร์ต ไม่ควรนำเงินทั้งหมดไปลงกับหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงเพียงแค่ไม่กี่ตัว
ปัจจัยพื้นฐาน VS กราฟเทคนิค อะไรสำคัญกว่ากัน?
คำถามยอดฮิตว่าในตลาดขาขึ้น เราควรเน้นปัจจัยพื้นฐานหรือกราฟเทคนิคมากกว่ากัน? คำตอบคือ ควรใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กัน
.
.
- ปัจจัยพื้นฐาน จะเป็นตัวช่วยให้เรา คัดเลือกหุ้นดีๆ ที่มีกิจการแข็งแกร่ง กำไรเติบโต และมีโมเดลธุรกิจที่มั่นคง
- ส่วน กราฟเทคนิค จะช่วยให้เรา จับจังหวะการเข้าซื้อและขาย ได้อย่างแม่นยำขึ้น เพราะบางครั้งหุ้นพื้นฐานดีก็จริง แต่ราคาอาจจะขึ้นมาสูงเกินไปแล้ว การดูเทคนิคจะช่วยให้เราเลี่ยงการซื้อในจุดที่แพงเกินไปได้
.
สำหรับนักลงทุนรายย่อยอย่างเรา ๆ ควรใช้ปัจจัยพื้นฐานคัดกรองหุ้นดีๆ ที่เราอยากถือยาวเอาไว้ในลิสต์ก่อน แล้วจึงค่อยใช้ กราฟเทคนิคช่วยหาจังหวะเข้าซื้อที่ปลอดภัย และตั้งจุดขายทำกำไรหรือตัดขาดทุนได้อย่างชัดเจน
.