โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

'บิ๊กคอร์ป' เชื่อมั่นไทย ลงทุน 5.5 แสนล้าน จ้างงาน 5.3 หมื่นคน

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

วานนี้ (6 ส.ค.68) ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการจัดงาน “Prime Minister Meets Investors: Confidence in Thailand’s Future - Prime Minister’s Dialogue with Global Investors” รัฐบาลได้เชิญผู้บริหารบริษัทเอกชนกว่า 30 บริษัททั้งไทย และต่างประเทศ ในสาขาที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง แผงวงจรพิมพ์ (PCB) ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ ดิจิทัล และอุตสาหกรรมอาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ มาประชุมร่วมกับรัฐบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และรับฟังข้อเสนอจากบริษัทเอกชนที่มีการลงทุนในประเทศไทย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานการหารือระดับสูงกับนักลงทุน ว่าการหารือกันในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเศรษฐกิจไทย และทิศทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาล

เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนในไทย เอื้อต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุน หรือขยายการลงทุนในไทย ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูง จากกลุ่มบริษัทชั้นนำของโลก ที่มีการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศไทย

โดยขณะนี้ประเด็นสำคัญคือ การรับมือกับความไม่แน่นอนจากอัตราภาษีสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของโลก อีกทั้งสหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีใหม่ ซึ่งประเทศไทยถูกเรียกเก็บที่19% รัฐบาลไทยตระหนักถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และกติกาการค้าโลก จึงมุ่งมั่นที่จะอาศัยโอกาสนี้ในการปรับปรุงกลไกต่างๆ เพื่อให้มั่นใจ ว่าธุรกิจที่ดำเนินการในประเทศสอดคล้องกับกติกาโลก และลดความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

ทั้งนี้รัฐบาลมีความจริงใจในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทางด้านกฎระเบียบ ที่เอื้อต่อการอำนวยการประกอบธุรกิจ การพัฒนาบุคลากรทักษะสูง การเตรียมพร้อมด้านพลังงานสะอาด และเดินหน้าเจรจาเปิดตลาดการค้ากับประเทศต่างๆ ทั่วโลก

เร่ง FTA เปิดตลาดใหม่เพิ่ม

ขณะเดียวกัน ไทยยังสร้างความสามารถในการเข้าถึงตลาดโลกให้กับภาคเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีความตกลงทางการค้า 17 ฉบับ กับ 24 ประเทศ และอยู่ระหว่างเร่งการเจรจาการค้าเพิ่มเติมกับอีกหลายประเทศ รวมถึงกลุ่มอียู เกาหลีใต้ และแคนาดา เพื่อช่วยเพิ่มความได้เปรียบของผู้ประกอบการในการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงการพัฒนากลไกพลังงานสะอาด เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG โดยมีบริษัทให้ความสนใจยื่นขอใช้บริการกว่า 40 ราย และปีนี้ตั้งเป้าจะเปิดให้บริการกลไกพลังงานสะอาดที่สามารถระบุแหล่งที่มา และมาจากแหล่งพลังงานใหม่

นอกจากนี้ รัฐบาลยังอยู่ระหว่างการเตรียมกลไก ที่ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถทำสัญญาซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตได้โดยตรง โดยจะเริ่มให้บริการพลังงานสะอาด 2,000 เมกะวัตต์ แก่กลุ่มธุรกิจดาต้าเซนเตอร์ หากการให้บริการล็อตแรกเป็นไปด้วยดี รัฐบาลพร้อมที่จะพิจารณาขยายกลไกดังกล่าวให้ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นๆ ต่อไป

จ้างงานเพิ่ม 3 พันตำแหน่ง

ภายหลังการหารือกับนักลงทุนทั้ง 30 บริษัท นายภูมิธรรม ได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และผู้ผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ชั้นนำระดับโลก 6 ราย มีเงินลงทุนรวมกว่า 51,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษาให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรม โดยความร่วมมือนี้จะก่อให้เกิดการจ้างงานทันที 1,880 อัตรา รวมกันไม่น้อยกว่า 3,000 อัตราภายใน 5 ปี เกิดการพัฒนาหลักสูตรร่วมกันระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษา และภาคอุตสาหกรรมลงทุนแล้วกว่า 5.5 แสนล้าน

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าบริษัทชั้นนำทั้ง 30 ราย ส่วนใหญ่เป็นบริษัทรายใหม่ที่ได้ตัดสินใจเข้ามาขยายการลงทุนขนาดใหญ่ในไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 550,000 ล้านบาท และได้ช่วยสร้างงานให้บุคลากรไทยกว่า 53,000 ตำแหน่ง อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 4 สาขาหลัก ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เช่น Infineon, Analog Devices, Sony Technology, Haier, Foxsemicon ยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ เช่น Changan, BYD, Sunwoda, Continental ดิจิทัล เช่น Google, Tiktok และ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ และอาหาร เช่น Mead Johnson, Nestle เป็นต้น

โดยการหารือระดับสูงระหว่างผู้นำรัฐบาล และผู้บริหารของบริษัทชั้นนำระดับโลกในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ภายหลังจากความสำเร็จของทีมไทยแลนด์ในการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา โดยรัฐบาลไทยต้องการสื่อสารให้นักลงทุนต่างชาติได้ทราบถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนนโยบายสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเป็นรูปธรรม เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางความท้าทายจากภูมิรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน

กกพ.เร่งเตรียมพร้อมไฟสะอาด

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนไฟฟ้าสะอาดสำหรับนักลงทุนที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสะอาด 100% (RE100) ถือเป็นกลไกอย่างหนึ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ และใช้ในการตัดสินในมาลงทุนในประเทศไทย

โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้สนับสนุนแนวทางนี้ให้กับนักลงทุนโดยกำหนดเกณฑ์ในการซื้อไฟฟ้าสะอาด (Utility Green Tariff) โดยในเฟสที่ 1 ได้มีการจำหน่ายไฟฟ้าในเงื่อนไขนี้ไปแล้วกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ส่วนในเฟสที่ 2 จะขยายเพิ่มเป็น 4,800 เมกะวัตต์ ภายในระยะเวลา 2 ปีเพื่อให้ทันกับความต้องการใช้ไฟฟ้า RE100 ของภาคเอกชนที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนจะเน้นในพื้นที่ใดสามารถที่จะสร้างแหล่งพลังงานสะอาด เช่น ลม แสงอาทิตย์ เป็นต้น

เอกชนมั่นใจศักยภาพไทย

ด้านนายลิม เหว่ย กอ รองประธานอาวุโส และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟินีออน เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการปรับตัว การเปิดรับความร่วมมือ และการเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างภาครัฐ และเอกชน ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทผู้นำในด้านนี้อย่างชัดเจน ผ่านความมุ่งมั่นต่อการสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ การปฏิรูปกฎระเบียบ และการขับเคลื่อนสู่ยุคดิจิทัล ด้วยวิสัยทัศน์ และนโยบายของรัฐบาลไทย

นายเอจิ โคอิซูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโซนี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในนามของนักลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ขอขอบคุณรัฐบาลไทยสำหรับการเจรจาต่อรองอัตราภาษีนำเข้ากับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ ซึ่งความสำเร็จนี้ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทย

นายอู๋ เสี่ยวคัง รองประธานบริหาร บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีส เอเชีย กล่าวว่า แม้ปัจจุบัน อุตสาหกรรมยังคงเผชิญกับความท้าทายหลากหลายประการ แต่เรายังคงเชื่อมั่นในอนาคตของประเทศไทย และบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค ฉางอานยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานตามโรดแมปที่ได้วางไว้ในการจัดตั้งศูนย์วิศวกรรมระดับภูมิภาค (Regional Adaptive Engineering Center) โดยมีเป้าหมายในการดึงดูดบุคลากรระดับโลกเข้ามาพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคนิคในประเทศไทยอย่างยั่งยืน

หนุนเพิ่ม RE100 ไฟฟ้าสะอาด

ขณะที่ นางสาวซู แอน ลิม ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ และนโยบายสาธารณะ Google Cloud APAC กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมดาต้าเซนเตอร์เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย และพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาคนไทยด้านดิจิทัล และ AI จำนวนกว่า 3.6 ล้านคน เพื่อยกระดับการพัฒนาระบบนิเวศด้านดิจิทัลอย่างจริงจัง เนื่องจากพลังงานสะอาดมีความสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมดาต้าเซนเตอร์อย่างมาก บริษัทจึงขอให้รัฐบาลไทยพิจารณาให้การสนับสนุนต่อไป

สอดคล้องกับนายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า ที่กล่าวว่า เนสท์เล่มีเป้าหมายที่จะใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ในโรงงานทุกแห่งในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2568

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

“OTOP ศิลปาชีพ ปี 68” ผ้าไทยสุดฮิต คนแห่ช้อปแน่น รับเทศกาลวันแม่

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘เปา ฝาน’ หวนคืนสู่สาธารณะ หลัง ‘หายตัวแบบลึกลับ’ กว่า 2 ปี แท้จริงเขาถูกทางการจีนคุมตัว

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

C asean ครบ 10 ปี 'ฐาปน' ปลุกพลังอาเซียน ร่วมเติบโตยั่งยืน ท่ามกลางโลกผันผวน

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กต.ประณาม ‘กัมพูชา’ ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ละเมิดอธิปไตยไทย และกฎหมายระหว่างประเทศ

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

“ประเสริฐ” ดันนโยบาย Thailand Zero Dropout สุราษฎร์ธานี หนุนเยาวชนเข้าระบบศึกษา 100%

ข่าวหุ้นธุรกิจ

“OTOP ศิลปาชีพ ปี 68” ผ้าไทยสุดฮิต คนแห่ช้อปแน่น รับเทศกาลวันแม่

กรุงเทพธุรกิจ

GISTDA ย่อส่วน แลปอวกาศ งาน อว.แฟร์ ปี 2 เปิดโลกภารกิจอวกาศไทยสู่สากล

MATICHON ONLINE

PANEL ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง 140% รับผลดีงานรับเหมา-ตกแต่งโดดเด่น Q4/68 เปิดโรงงานใหม่ หนุนรายได้ปีนี้โตทะลุ 40%

สยามรัฐ

หัวเว่ย เปิดตัว FusionCube HCI ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทย สู่ยุคอนาคตอัจฉริยะ

สยามรัฐ

SPRC รายงานผลประกอบการทางการเงินไตรมาสที่ 2 ปี 2568 พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.15 บาทต่อหุ้น

สยามรัฐ
วิดีโอ

MOeMAX นิตยสารรถ online E-Magazine | Shark Tank Thailand Season 5

Media Tank

“นิติศาสตร์จุฬา” เปิดเสรีแต่งกายเข้าชั้นเรียน “ชุดเครื่องแบบ-สุภาพ”

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...