โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

‘พลังแห่งความสงสัย‘ เปิดประตูโลกกราฟิก ปั้นนักออกแบบทักษะรอบด้าน

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดงานแสดงผลงานนักศึกษาภาคพิเศษ เสาร์ อาทิตย์ รุ่นที่ 4 จำนวน 36 โครงการ ณ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีอาจารย์กอบกิจ ประดิษฐผลพานิช Head of Corporate Communication และ Head of Academic Group 2 ของ DPU เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กมลศิริ วงศ์หมึก คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์และคณาจารย์ในคณะ ร่วมแสดงความยินดีและให้กำลังใจนักศึกษา ในวันที่ทุกคนได้ถ่ายทอดศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ที่หล่อหลอมตลอดระยะเวลาการเรียน

โดยงานนิทรรศการประกอบด้วยผลงานหลากหลายที่นักศึกษาใช้เวลากว่า 6 เดือนในการพัฒนา ทั้งงานด้าน Packaging, UX/UI, การออกแบบสภาพแวดล้อม, การสร้าง character และการออกแบบแบรนด์ส่วนตัว ทุกชิ้นไม่เพียงแค่มีความสวยงามในเชิงกราฟิก แต่ยังสะท้อนกระบวนการคิดเชิงนามธรรมที่เชื่อมโยงกับชีวิต สังคม และผู้ใช้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

'CIBA DPU' ดึงเกมเสริมทักษะรอบด้าน ปั้นคนรุ่นใหม่สู่ธุรกิจโลจิสติกส์

เซียน DPU ชี้ชัด! 'รสชาติ-ใครซื้อ?' กุญแจรวยธุรกิจอาหาร

ความอยู่รอดของแบรนด์ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงสินค้า

ชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ได้กล่าวบนเวทีเปิดงานนิทรรศการว่า งานนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ได้นำผลงานที่เราอุตส่าห์คิด อุตส่าห์จินตนาการ แล้วนำเสนอออกมาเป็นรูปธรรม เพื่อให้นักศึกษาได้นำผลงานไปจัดแสดงและเผชิญกับโลกภายนอก

ชินาพัฒน์ ยังให้คำแนะนำที่สำคัญแก่นักศึกษา โดยย้ำว่า หลายๆ ความฝันนั้นอาจไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และเมื่อต้องออกไปเผชิญกับโลกภายนอกแล้ว ควรใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับผู้เยี่ยมชมงาน เพื่อสอบถามความคิดเห็น ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาสามารถเติมเต็มความคิดของตนเองได้ เนื่องจาก ทุกๆ อย่าง เวลาเราทำ เวลาเราคิดนั้นง่าย แต่ของจริงคือมันไม่ได้ง่ายเลย

นอกจากนี้ ในฐานะผู้มีประสบการณ์ ชินาพัฒน์ ได้เน้นย้ำถึงปัจจัยสำคัญต่อความอยู่รอดของแบรนด์ โดยยกตัวอย่างแบรนด์เสื้อผ้าที่เกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา แต่มีเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้นที่สามารถอยู่รอดได้ โดยกล่าวว่า ความอยู่รอดของแบรนด์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงแค่ตัวสินค้า สไตล์ หรือความพึงพอใจส่วนตัวเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ความต้องการของผู้บริโภค" ดังนั้น สิ่งที่นักศึกษาและผู้ประกอบการควรทำคือ ค้นหาตัวเองให้พบ ค้นหาความต้องการของลูกค้าให้ได้ แล้วจึงสร้างสินค้าให้ตรงกับความต้องการนั้น เราก็จะอยู่รอดได้

ด้าน อาจารย์กิรติ ศรีสุชาติ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ DPU เปิดเผยว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องรู้จักนำเสนอหรือขายตัวเองให้เป็น งานนิทรรศการนี้จึงเป็นเหมือนกระบวนการฝึกที่สอนให้นักศึกษารู้จักการนำเสนอ บริหารจัดการอีเวนต์ ติดต่อประสานงานกับผู้จัด และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในระดับจริง พร้อมระบุว่าการจัดงานมีปัญหาเกิดขึ้นทุกวัน เหมือนง่ายแต่ไม่ได้ง่าย

มีผลงานของนักศึกษาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผลงานที่จะนำไปจัดแสดงในระดับประเทศที่ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งเป็นโชว์เคสใหญ่ของประเทศไทย และบางผลงานก็ถูก "เลือกไปจัดแสดง" ในโอกาสสำคัญ รวมถึงบางคนที่ได้รับการจ้างงานแล้ว

สำหรับผลงานที่ส่งไปเข้าร่วมงานแสดงในระดับประเทศนี้คือ “Loei-Loei Go” ของ น.ส.กาญจนา สงวนชาติชาย ซึ่งเป็นการออกแบบแบรนด์เชิงวัฒนธรรมที่ตีความ ตุ๊กตาอับเฉา สมัยรัชกาลที่ 3 ในฐานะนักเดินทางข้ามกาลเวลา สู่แนวคิด “Live to Wander” เพื่อปลุกชีวิตให้ประติมากรรมหินที่เคยใช้ถ่วงเรือเหล่านี้กลับมา "เดินทาง" ในโลกปัจจุบันและเป็นที่รู้จักในหมู่คนรุ่นใหม่

นอกจากนี้ ยังมีผลงาน “Infinizweed” โดย น.ส.ปริยาภัทร สายบัวต่อ ซึ่งสะท้อนการออกแบบสื่อสร้างสรรค์ที่ผสานอารมณ์และความทรงจำเกี่ยวกับวง Zweed n’ Roll ที่ประกาศพักวง นำไปสู่แนวคิด “Wave of Reverie” เพื่อรักษาความรู้สึกของเสียงดนตรีให้คงอยู่ในใจผู้ฟัง ซึ่งได้รับคำชมจากทางวงดนตรีชื่อดังอีกด้วย

อีกหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของนิทรรศการนี้คือ "ป้ายและแอปพลิเคชันบอกตำแหน่งในสวน" ผลงานของ นภาวรรณ รัตนสุขสมบูรณ์ วัย 28 ปี ผู้เป็นทั้งนักศึกษาและผู้ที่ทำงานด้านการเงิน เธอได้เล่าถึง “จุดเริ่มต้น” ของโครงการว่า เมื่อได้เข้าชมสวนเบญจกิติ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 450 ไร่ ผู้ที่ไปครั้งแรกมักจะสับสนในการค้นหาจุดต่างๆ เช่น ห้องน้ำ หรือลานกิจกรรม จากปัญหานี้เอง นภาวรรณจึงเล็งเห็นความจำเป็นในการบอกตำแหน่งและค้นหากิจกรรมภายในสวน

ด้วยเหตุนี้ นภาวรรณจึงได้ริเริ่มพัฒนาโครงการนี้ขึ้น โดยพบว่ายังไม่มีใครทำโครงการลักษณะนี้มาก่อน เธอได้พัฒนาระบบที่สามารถอัปเดตกิจกรรมแบบเรียลไทม์และระบุตำแหน่งผ่านแผนที่ ด้วยความเชื่อมั่นว่าการมีแอปพลิเคชันจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเป็นประโยชน์จริง เพราะแอปสามารถอัปเดตกิจกรรมแบบเรียลไทม์ได้ ณ วันนั้น นอกจากนี้ นภาวรรณยังได้ออกแบบกราฟิกให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อสร้างความประทับใจคล้ายแบรนด์ระดับโลกอย่าง Amazon หรือ Starbucks

แม้ปัจจุบัน นภาวรรณทำงานด้านการเงิน แต่ความชื่นชอบในงานกราฟิกเป็นแรงผลักดันให้เธอตัดสินใจศึกษาต่อในสาขานี้ โดยมองว่าสาขากราฟิกสามารถต่อยอดไปสู่งานด้าน UX/UI และการออกแบบผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เรียนที่มีพื้นฐานที่แตกต่างกัน นภาวรรณยังมองว่าหลักสูตรการเรียน "ค่อนข้างเข้มข้น" และสามารถเป็น "จุด start ได้ดี" ในการต่อยอดสายงานนี้ ซึ่งเตรียมความพร้อมสำหรับสายงานอย่าง UX/UI ที่บางครั้งต้องเรียนรู้การเขียนโปรแกรมเพิ่มเติม

นภาวรรณ ยังกล่าวชื่นชมบทบาทของคณาจารย์ของคณะศิลปกรรมฯ ว่า "อาจารย์ทำหน้าที่เป็น‘เมนทอร์’ ที่ให้คำแนะนำและชี้แนะแนวทาง แต่นักศึกษาเองต้องเป็นผู้เลือกเส้นทางและลงมือปฏิบัติจริง" ยิ่งไปกว่านั้น บทเรียนจากการจัดนิทรรศการครั้งนี้ทำให้เธอได้เรียนรู้การทำงานจริงแบบองค์กร โดยนภาวรรณเล่าว่า"ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน" และเปรียบการบริหารโครงการนี้กับการได้ "ลองชิมลาง" การทำงานในสภาพแวดล้อมจริง ซึ่งรวมถึงการจัดการทีม เนื้อหา งบประมาณ และการแก้ไขรายละเอียดที่ซับซ้อน เช่น การจัดการบัตรจอดรถ ถือเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่อยู่นอกเหนือจากเนื้อหาทางวิชาการ ประสบการณ์เหล่านี้ช่วยเพิ่มความ "มั่นใจ" ให้กับเธอเป็นอย่างมาก ทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน เพราะเธอได้เรียนรู้การแก้ไขปัญหาและการจัดการรายละเอียดเล็กน้อยที่กลายเป็นบทเรียนสำคัญในการพัฒนาตนเอง

ขณะที่ ดร.สเตฟานนี่ ไพลีน ทีล อาจารย์ที่ปรึกษานิทรรศการดังกล่าว เปิดเผยว่า หลักสูตรของคณะศิลปกรรมฯ ไม่ได้จำกัดความคิดของนักศึกษาให้อยู่ในกรอบ แต่เน้นการกระตุ้นให้ทุกคนสำรวจตัวเองและตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว โดยเปรียบตนเองเป็น “ไฟฉาย” ที่ส่องนำทางเท่านั้น ส่วนหน้าที่ในการเลือกเส้นทางและลงมือทำต้องเป็นของนักศึกษาเอง

ดร.สเตฟานนี่ ย้ำว่า “งานกราฟิกไม่ได้มีเป้าหมายแค่ความสวยงาม” แต่คือการรวมศาสตร์หลากหลายแขนง ทั้งจิตวิทยา แบรนดิง ประเด็นสังคม หรือแม้แต่งานวิจัย ผลงานของนักศึกษาจึงมักสะท้อนความเข้าใจโลกในมิติที่ลึกขึ้น และแสดงให้เห็นว่ากราฟิกสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงเพื่อแก้ปัญหาและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้

แนวทางการดูแลนักศึกษาแต่ละคนจึงไม่ใช่การสอนเหมารวม แต่คือการพูดคุยรายกรณี เพื่อเข้าใจทั้งพื้นเพ เป้าหมาย และข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา งบประมาณ หรือแรงบันดาลใจ เพราะเป้าหมายของคณะไม่ใช่เพียงให้เรียนจบ แต่คือการ "เห็นก่อน แล้วจึงเกิดความชอบ" ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์จริง

ดร.สเตฟานนี่ ยังให้ความสำคัญกับบทบาทของมนุษย์ในยุค AI โดยเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการยังเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีไม่สามารถแทนที่ได้ AI คำนวณจากสิ่งที่มนุษย์เคยทำ แต่ความสงสัยและการตั้งคำถามคือสิ่งที่ทำให้เราสร้างสิ่งใหม่ได้เสมอ

“ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมาก หากอยากเรียนกราฟิก” ดร.สเตฟานนี่ กล่าวทิ้งท้ายแค่เตรียมใจ และความสงสัยให้พร้อมก็พอ เพราะสิ่งนี้คือเชื้อไฟของความคิดสร้างสรรค์ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของทุกอย่าง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

Co-payment และนวัตกรรมการแพทย์ โอกาสทองธุรกิจบริการการแพทย์

18 นาทีที่แล้ว

หุ้นไทยวันนี้ 7 ส.ค.68 ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าชิป 100%

28 นาทีที่แล้ว

ราคาน้ำมันดิบไหลลงต่อ นักลงทุนมองข้ามสหรัฐจะคว่ำบาตรรัสเซีย

29 นาทีที่แล้ว

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 7 ส.ค.68 ‘แข็งค่า‘ ตลาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย

41 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

Co-payment และนวัตกรรมการแพทย์ โอกาสทองธุรกิจบริการการแพทย์

กรุงเทพธุรกิจ

รพ.จุฬาฯ ถ่ายทอดเทคโนโลยี รักษามะเร็งไปสหรัฐอเมริกา ดันงานวิจัยสู่สากล

ฐานเศรษฐกิจ

ตลาดความงามมาแรง BLC ลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต-เปิดตัวสินค้าใหม่

ฐานเศรษฐกิจ

รู้จัก"ไข้มาลาเรีย" โรคร้ายที่มาจากยุงก้นปล่อง ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งปลอดภัย

TNN ช่อง16

Import of poultry from Cambodia suspended over bird flu concerns

Thai PBS World

สธ. หนุนข้าว กข. 43 "คาร์บคุณภาพ" ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ลดเสี่ยง NCDs

ฐานเศรษฐกิจ

กองทุนบัตรทอง ปี 69 งบกว่า 2.65 แสนล้าน บอร์ดสปสช.ไฟเขียวเกณฑ์จ่าย

กรุงเทพธุรกิจ

เกินคาด! 8 ประโยชน์ "แตงโม" ไม่ใช่แค่ดับร้อน แต่ดีต่อสุขภาพกว่าที่คิด

Amarin TV

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...