เด้งฟ้าผ่า ผวจ.อุบลฯ
ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี “มท.อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้สั่งย้ายว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) อุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท จะย้ายชั่วคราวหรือถาวรจะพิจารณาอีกครั้ง
เรื่องย้าย ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้เซ็นเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ได้มีกรอบระยะเวลาในการช่วยราชการ เปิดทางให้รอง ผวจ.คนที่หนึ่ง สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างเต็มที่ และให้ผู้ตรวจราชการเขต 14 ซึ่งดูแลจังหวัดเหล่านี้ ไปกำกับดูแลด้วย “มท.อิ่ม” น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ก็โทรศัพท์สอบถาม ผวจ.อุบลราชธานีก็ยืนยันกลางสภาว่าไม่มีปัญหา แต่ผลออกมา ทำให้แปลกใจว่าผมขยายเงินให้ 100 ล้านบาท ทำไมตัวเลขเบิกจ่ายถึงออกมาน้อย ไม่เข้าใจเหตุผลของ ผวจ.อุบลราชธานี จึงดึงกลับมาช่วยราชการก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ ชี้แจงว่าได้ใช้เงินบริจาคไปก่อนถือว่าฟังขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ใช้ไปก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เงินที่มีทั่วถึงทำไมถึงไม่ให้ จะเก็บเอาไว้ทำไม ก็ไม่เข้าใจ
ว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผวจ.อุบลราชธานี ได้เดินทางเข้ามาร่วมการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทยด้วย โดยได้เดินเข้าห้องประชุมพร้อมกับคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา ขณะเดียวกันมีสีหน้าที่ดูเคร่งเครียด ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องคำสั่งย้าย แต่เจ้าตัวยกมือปฏิเสธจะตอบ
ในวาระประชุมกระทู้ถามสด “มท.อิ่ม” ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดของ “สส.ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ตั้งกระทู้ถามเรื่องปัญหาการที่ จ.อุบลราชธานี เบิกจ่ายงบทดรองจ่ายฉุกเฉิน 100 ล้านบาท เพียงแค่ 55,600 บาท ว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์สอบถาม ผวจ.อุบลราชธานี เพื่อให้ทราบปัญหาและแก้ไข ซึ่งคำตอบที่ได้รับคือเบิกได้ทั้งหมด เมื่อตรวจสอบพบว่า ใช้เงินบริจาค จำนวน 5.5 ล้านบาท ถือว่าบกพร่อง เพราะในการจัดประชุมใช้จ่ายเงินทดรองราชการที่เพิ่มเติมขอให้ใช้จ่ายเงินดังกล่าวทันที เป็นความผิดพลาดของจังหวัดไม่ใช่รัฐบาล เมื่อได้ข้อมูลที่ถูกต้องขอให้ประชาชนมั่นใจกับรัฐบาลที่สื่อสารข้อมูลจริง ข้อมูลเดียว
จากกรณีเวนคืนที่เขากระโดง ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ตัวแทนประชาชน จ.บุรีรัมย์ ผู้ประกอบการธุรกิจ และนิติบุคคล ที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ร่วมจัดงานแถลงข่าว เพื่อตอบโต้ และชี้แจงกรณีการเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินกว่า 5,083 ไร่ ซึ่งมีผู้ถือครองมากถึง 995 ราย นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความผู้รับผิดชอบคดีเขากระโดง กล่าวว่า สิทธิในที่ดินของประชาชนยังคงชอบด้วยกฎหมาย แม้จะมีคำพิพากษาศาลฎีกา และศาลอุทธรณ์บางคดีที่ รฟท. นำมาอ้าง แต่ภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคสอง คำพิพากษาดังกล่าวผูกพันเฉพาะคู่ความ และที่ดินพิพาทในคดีเท่านั้น ไม่อาจยกขึ้นยันกับราษฎรผู้ถือเอกสารสิทธิตามกฎหมายในที่ดินแปลงอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว
จนถึงปัจจุบันไม่ปรากฏว่ามีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต และจัดซื้อที่ดิน พร้อมแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษา รับรองให้ รฟท. ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บนที่ดินบริเวณเขากระโดงตาม พ.ร.บ.จัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. 2464 หรือกฎหมายอื่นใด
ที่ดินพิพาทจึงไม่ตกเป็นที่ดินรถไฟตามนิยามใน พ.ร.บ.ดังกล่าว แผนที่สำรวจ (Exploitation Plan) จัดทำขึ้นเพื่อรองรับการขนย้ายหินบริเวณเขากระโดงชั่วคราว โดยอาศัย พ.ร.บ.จัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 มาตรา 45 ซึ่งไม่ใช่ทางรถไฟเพื่อใช้ในการเดินรถตามมาตรา 3 (3) ของ พ.ร.บ.เดียวกัน และไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาที่ผ่านกระบวนการพระราชทานโปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย ราษฎรผู้ถือครองเอกสารสิทธิโดยสุจริตยังคงมีสิทธิครอบครอง และใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเขากระโดง
“คดีที่ยังอยู่ในศาล เพราะ รฟท.ไปยื่นร้องศาลปกครองให้พิจารณาว่า อธิบดีกรมที่ดิน ตั้งคณะกรรมการตามกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 (พิจารณาเรื่องเพิกถอนที่ดิน) โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่บังเอิญมาถูกซ้อนทางการเมือง รมว.มหาดไทยไปตั้งคณะกรรมการ (พิจารณาว่า ที่ไม่เพิกถอนที่ดินถูกต้องหรือไม่) ซึ่งอยู่นอกกฎหมาย แล้วมาบอกว่าคณะกรรมการ มาตรา 61 มิชอบ คณะกรรมการ มาตรา 61 ใช้เวลา 1 ปี 8 เดือน กว่าจะตัดสินใจว่ารับฟังพยานรอบด้านหมดแล้ว มีความเห็นไม่เพิกถอน แต่คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยรมว.มหาดไทย ใช้เวลาแค่ 8 วันก็สรุป ถ้ามีการดำเนินการเพิกถอนที่ดิน ก็พร้อมต่อสู้ถึงที่สุดทุกวิธีการ”
ด้าน “มท.อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวว่า หากประชาชนรู้สึกว่าถูกลิดรอนสิทธิก็สามารถร้องขอกระบวนการยุติธรรมได้ แต่ศาลฎีกายืนยันว่าเป็นที่ดินของรัฐ และเป็นมาตั้งแต่ต้น เราก็ปฏิบัติตาม การเวนคืน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตัวอธิบดีกรมที่ดิน ก็ต้องรออธิบดีคนใหม่เข้ามาดำเนินการ เมื่อมีคำสั่งศาล หากไม่ปฏิบัติก็จะโดน ป.อาญา ม.157
รายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า คณะพนักงานสืบสวนเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ตรวจสอบนิติบุคคลและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการถือครองโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง รวมกว่า 5,083 ไร่ พบว่ามีผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่ของ รฟท. เป็นนิติบุคคลเพียงรายเดียวที่ครอบครองที่ดินเนื้อที่มากกว่า 400 ไร่เศษ หากพบว่าผู้ครอบครองรายใดกระทำผิดทางอาญาที่เกี่ยวกับออกเอกสารสิทธิในที่ดิน อาจเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงินในหมวดความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม
พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ รฟท. ฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน เพื่อประสานข้อมูลที่ดินรถไฟเขากระโดง ในวันที่ 7 ส.ค. เวลา 13.30 น.
ที่รัฐสภา นายธณัชญ์พงศ์ วงศ์มุลาลี สว. กล่าวว่า ได้ลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางโพ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. หลังจากที่มีการตรวจสอบในเอกสารซึ่ง สว.กลุ่มหนึ่ง ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ถอดถอน 136 สว. และพบว่ามีชื่อของตนปรากฏในเอกสาร ทั้งที่ไม่ทราบเรื่อง ไม่ทราบว่า ใครนำชื่อไปแอบอ้างในกรณียื่นถอดถอน ทราบว่ามีคนที่โดนเหมือนกัน มีคนไปลงบันทึกประจำวันแล้ว 2 คน
การลงลายมือชื่อในเอกสารคำร้องมีคนสนับสนุนไม่ถึง 20 คน ส่วนตัวเห็นว่าไม่ใช่หน้าที่ของ สว.ที่จะสั่งให้ใครหยุดทำหน้าที่หรือไปก้าวก่ายการทำงานของ กกต. ถ้าจะรวบรวมรายชื่อควรให้เซ็นต่อหน้า และบอกว่ามีคนเซ็น 21 คน ไม่ใช่ 30 คน ตนเป็น สว.สำรองและเข้ามาทำหน้าที่ 3 เดือน ไม่ใช่คนที่จะมายื่นถอดถอนใคร
สำหรับการเลือกรองประธานสภา คนที่ 1 นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเสนอ นายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภา คนที่ 1 ไม่มีผู้ใดเสนอชื่อแข่ง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานในที่ประชุม แจ้งว่า จะได้นำรายชื่อรองประธานสภา คนที่ 1 นำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไปและได้สั่งปิดประชุมทันที ในเวลา 15.20 น.