“บล.กรุงศรี” แนะเก็บ BTS-BEM รับผลบวกตั๋ว 20 บาทสาย ดันดีมานด์พุ่ง
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) เป็นวิธีการหนึ่งที่จะใช้เพื่อซื้อคืนสัญญาสัมปทานทั้งหมดจากผู้ประกอบการ ได้แก่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS โดยระบุว่าจะมีสินทรัพย์ซึ่งก็คือโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้งหมดเข้ากองทุน และขนาดกองทุน จะอยู่ที่ประมาณ 300,000 ล้านบาท กองทุนนี้จะมีอายุ 30 ปี ผลตอบแทนของผู้ถือหน่วย ลงทุนจะมาจากหลายแหล่ง รวมถึงค่าธรรมเนียมที่จะเรียกเก็บจากรถยนต์ส่วนตัวที่ขับผ่าน พื้นที่การจราจรหนาแน่น
สำหรับมุมมองของนักวิเคราะห์นั้น อัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายสำหรับรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ จะถูกนำมาใช้ในระยะแรกโดยดำเนินการผ่านเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสำหรับส่วนต่างระหว่างค่าโดยสารเฉลี่ยที่ผู้ประกอบการได้รับ ทั้งนี้ รัฐบาลได้กล่าวถึงแหล่งเงินทุนสำหรับเงินอุดหนุนว่าจะมี หลายทางเลือก เช่น การแบ่งปันรายได้สำหรับสายสีน้ำเงิน (BEM) และการสนับสนุนอื่น ๆ จากภาครัฐและสำนักงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
ระยะที่สองและเป็น นโยบายที่ท้าทายที่สุดคือการซื้อคืนสัญญาสัมปทานจากผู้ประกอบการเอกชน งบประมาณ 500,000 ล้านบาทถูกกล่าวถึงก่อนหน้านี้ในระหว่างโครงการค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย เมื่อปีที่แล้ว การตรวจสอบช่องทางของนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่างบประมาณนี้มีไว้เพื่อซื้อคืนเฉพาะ สัญญางานโยธาและระบบเครื่องกลและไฟฟ้าเท่านั้น
ระยะที่ 2 เกี่ยวข้องกับการซื้อคืนสัมปทาน นักวิเคราะห์เชื่อว่า BTS จะได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้ เพราะคาดว่าสายสีชมพูและสายสีเหลืองจะขาดทุนจำนวนมากถึง 1,600 ล้านบาทในปีนี้ และการขายสัญญาสัมปทานเหล่านี้จะทำให้ BTS กลับมามีกำไรอีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงอย่างรุนแรงในปีนี้กลับมาฟื้นตัวได้
ทั้งนี้ ราคาหุ้น BTS ยังคงถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน โดยมี PBV อยู่ที่ 1.2 เท่า (-2SD ของค่าเฉลี่ย) โดย BEM จะไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว แต่อาจใช้เวลาในการประเมินและสรุปราคาซื้อคืนสัมปทานของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และการเจรจาที่ยึดเยื้ออาจสร้างปัจจัยกดดันตามมา
นักวิเคาระห์ยังคงมองโครงการค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย จะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง BEM และ BTS เนื่องจากค่าโดยสารที่ถูกลงจะกระตุ้นความต้องการในการใช้รถไฟฟ้า และการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการจากนโยบายนี้จะเป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อ BEM และ BTS โดย บล.กรุงศรี ให้ คำแนะนำ "ซื้อ" ทั้ง BEM ราคาเป้าหมาย 9.1 บาท และ BTS ราคาเป้าหมาย 6.49 บาท
บล. กรุงศรี ยังคงแนะ “ซื้อ" BTS มากกว่า BEM เนื่องจากได้รับประโยชน์จากนโยบายเงินอุดหนุน ต่อกำไรมากกว่า และมีราคาถูกกว่า โดย BTS มีปัจจัยลบจากการเลื่อนโครงการ Entertainment Complex โดยไม่มีกำหนดเวลา แต่เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงอย่าง รุนแรงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนข่าวร้ายนี้ไปแล้ว