อภินิหารพระราชสมภพพระเจ้าตาก : “ 4 ส่วน” ยาวเสมอกัน-ฟ้าผ่ากลางเรือน-งูเหลือมขดล้อม
พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตั้งแต่เสด็จพระราชสมภพถึงก่อนเป็นพระเจ้ากรุงธนบุรี ทั้งเลือนลางและเต็มไปด้วยนิทานเชิงอภินิหารมากมาย ในบรรดาหลักฐานประวัติศาสตร์ที่เล่าพระราชประวัติของพระองค์ อภินิหารบรรพบุรุษน่าจะเป็นฉบับที่บรรยายได้พิสดารที่สุด
เนื้อหาหลักของอภินิหารบรรพบุรุษคือการเล่าพระราชประวัติ “ก่อนเสวยราชย์” ของพระมหากษัตริย์สยาม 2 พระองค์ คือ พระเจ้ากรุงธนบุรี และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ (รัชกาลที่ 1) ทั้งยังมีเรื่องย่อยเป็นพระราชประวัติรัชกาลที่ 2 รัชกาลที่ 3 และ “วังหน้า” ในแต่ละรัชกาลด้วย
อภินิหารพระราชสมภพพระเจ้าตาก
นอกจากจะเล่า “วัยเด็ก” ของพระเจ้ากรุงธนบุรีเมื่อปลายกรุงศรีอยุธยาแล้ว หนังสือเล่มดังกล่าวยังมีลักษณะเป็นนิทานเชิงอภินิหาร เต็มไปด้วยเรื่องอัศจรรย์ เพื่อจะบอกว่า “ฟ้ากำหนด” ให้พระองค์เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ดังความว่า [ปรับย่อหน้าและเน้นคำเพิ่มเติมโดยกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม]
“…ในกาลครั้งโน้นนั้น จีนมีชื่อไหยฮองเป็นขุนพัฒน์นายอากรบ่อนเบี้ย แลกอบด้วยภรรยาทาษชายหญิงแลทรัพย์สมบัติโดยสมบูรณ์ จึ่งเข้าไปพึ่งบารมีอาไศรยที่อยู่น่าบ้านท่านเจ้าพระยาจักรีมาช้านาน จนภรรยาตั้งครรภ์กำหนดได้ ๑๐ เดือน ก็คลอดบุตรชาย ๑ คนในจุลศักราช ๑๐๙๖ ปีขาลฉอศก
กุมารบุตรจีนไหยฮองขุนพัฒน์นั้น มีศิริรูปประพรรณ์สัณฐานงามยิ่งนัก โดยลักษณะกุมารนั้นเปนจัตุรัศกาย คือ อธิบายว่า วัดตั้งแต่เท้าถึงสูญสะดือเป็นมัชฌิมะกายได้ส่วนหนึ่ง แลวัดตั้งแต่สูญสะดือถึงผมตกแห่งหน้าผากเปนส่วนหนึ่ง แลวัดตั้งแต่สูญอุระราวถันออกไปถึงปลายนิ้วมือข้างซ้ายเปนส่วนหนึ่ง ข้างขวาเปนส่วนหนึ่ง ทั้ง ๔ ส่วนนั้นยาวเสมอเท่ากัน ไม่ก้ำเกิน
ที่สะดือนั้นเป็นหลุมลึกลงไป พอจุผลหมากลงทั้งเปลือก ผิดกับสามัญชนทั้งหลาย จึ่งว่าเปนลักษณะจัตุรัศกาย คือรูปศิริกายเปนส่วนสี่เหลี่ยมดุจดังพระพุทธลักษณแห่งองค์สมเด็จพระสมณโคดม”
กล่าวคือ พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงมีลักษณะ “จัตุรัศกาย”อันเป็นพุทธลักษณะอย่างองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่เสด็จพระราชสมภพนั่นเอง
อภินิหารบรรพบุรุษยังพรรณนาถึงเหตุการณ์เสด็จพระราชสมภพอีกว่า มีเหตุอัศจรรย์บันดาลอสุนีบาตฟาดลงเสาเรือน ที่ “นางนกเอี้ยง” พระราชมารดาอยู่คลอด แต่ไม่เกิดอันตรายใด ๆ เลย หลังจากนั้นไม่กี่วัน มีงูเหลือมมาขดรอบตัวทารก ทำให้บิดาชาวจีนเห็นเป็นเรื่องไม่มงคล คิดเอาบุตรไปทิ้ง แต่พอเจ้าพระยาจักรีทราบก็เกิดเวทนา ขอรับทารกมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ให้นามว่า “สิน” เนื้อความในเหตุการณ์ดังกล่าวมีดังนี้
“ขณะกุมารนั้นคลอดออกมานั้น อากาศก็ปราศจากเมฆหมอกไม่มีฝน แต่ขณะนั้นบังเกิดอะสุนีบาทว์ ผ่าลงมาที่ตรงเสาดั้งเรือนแห่งห้องกุมารนั้นคลอด แต่กุมารนั้นหาเปนอันตรายไม่ ด้วยเดชะบารมีบรมโพธิสมภารของกุมาร… ครั้นกุมารคลอดได้สามวันมีงูเหลือมใหญ่เข้าไปขดเปนทักษิณาวัต อยู่ในกระด้งโดยรอบกายกุมาร
ฝ่ายบิดามารดาของกุมารได้เห็นงูใหญ่เข้าไปขดในกระด้งของบุตรนั้น ก็มีความวิตกกลัวไภยอันตรายต่าง ๆ หนึ่งธรรมเนียมจีนมีเหตุร้ายบังเกิดขึ้นเช่นนี้แล้ว ฝ่ายบิดามารดาเขาย่อมนำเอาบุตร ซึ่งบังเกิดระหว่างเหตุร้ายนั้นไปฝังเสียทั้งเปน ก็การซึ่งบังเกิดขึ้นในเมืองไทยนี้ จีนไหยฮองนี้จะทำดุจธรรมเนียมเมืองจีนนั้นไม่ได้ เพราะด้วยเหตุเกรงพระราชอาญาพระเจ้าแผ่นดินไทย แต่จะต้องนำเอาบุตรนั้นไปทิ้งเสียให้พ้นบ้าน จึ่งจะสิ้นเหตุร้ายไภยอันตราย
ครั้นเวลาเช้าท่านเจ้าพระยาจักรีลงมาถวายอาหารบิณฑบาตรแก่พระสงฆ์ที่น่าบ้านท่าน ท่านจึงได้ทราบความตามเหตุซึ่งมีกับบุตรจีนไหยฮอง ฝ่ายท่านเจ้าพระยาจักรีจึ่งมีจิตรคิดสังเวชกรุณากับกุมารซึ่งจะถึงกาลอันตรายด้วยมรณะไภย ท่านจึงขอกุมานนั้นกับจีนไหยฮอง ๆ ก็ไม่อาจจะขัดได้ต้องจำเปนจำอนุญาตยอมยกกุมารให้แก่ท่านเจ้าพระยาจักรี
…เจ้าพระยาจักรีได้รับบุตรจีนไหยฮองมาเลี้ยงเปนบุตรบุญธรรมจนเจริญ ก็ได้ลาภแลทรัพย์สินสมบัติเปนอันมาก เจ้าพระยาจักรีจึ่งตั้งชื่อกุมารนั้นว่านายสิน”
นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักประวัติศาสตร์ผู้ล่วงลับ เคยวิเคราะห์เรื่องนี้ไว้ใน การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี(มติชน : 2550) ว่า นี่เป็นการเล่าเชิงอภินิหารที่แต่งขึ้นในสมัยหลัง ราว ๆ สมัยรัชกาลที่ 4 ทั้งนี้เพื่อเชิดชูพระเจ้ากรุงธนบุรีให้เหนือมนุษย์สามัญ แต่จริง ๆ แล้วงูไม่ใช่สัญลักษณ์ของเรื่องอัปมงคลในจารีตจีน หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง “จีนไหยฮอง” พระราชบิดาซึ่งเป็นจีนควรจะยินดีด้วยซ้ำไป
นอกจากนี้ เรื่องงูขดรอบทารกมีบุญยังเป็นอภินิหารพิเศษเฉพาะพระเจ้ากรุงธนบุรีเท่านั้น เพราะแทบไม่พบตำนานลักษณะเดียวกันเลย จะมีคล้ายก็แต่ประวัติสมเด็จเจ้าพระรามเมืองพัทลุง ซึ่งเล่าว่า เมื่อยังท่านเป็นทารกได้มีงูบองหลาจงอางมาขดพันอยู่บนเปล
ด้านปรามินทร์ เครือทอง ผู้เชี่ยวชาญพระราชประวัติพระเจ้าตาก เผยว่า ต้นฉบับหนังสืออภินิหารบรรพบุรุษเป็นสมบัติของหม่อมเจ้าปิยภักดีนารถ สุประดิษฐ์ “นักเลงหนังสือเก่า” ลำดับต้นของไทย โดยสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงพระนิพนธ์ไว้ในคำนำว่า ต้นฉบับเป็นสมุดไทย ซึ่งปัจจุบันหายสาบสูญไปแล้ว เหลือเพียงสำเนาพิมพ์ดีด ที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงมีรับสั่งให้คัดลอกไว้
ปรามินทร์ ยังให้ความเห็นว่า หลักฐานนี้อยู่ในกลุ่ม “ต้องอ่านอย่างระมัดระวังเป็นที่สุด”เพราะมีการตั้งข้อสังเกตถึงเนื้อความที่อาจถูกปลอมปน
เรื่องนี้จึงควรรับรู้ไว้ในฐานะ “ตำนาน-นิทาน” ตามขนบ เพื่อส่งเสริมพระราชอำนาจและบุญญาบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตเป็นหลัก มากกว่าข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
อ่านเพิ่มเติม :
- “โพธิญาณ” สงครามกับการแสดงบุญบารมีของพระเจ้าตาก ณ ศึกนางแก้ว
- สืบหาพระญาติวงศ์สมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราชผู้ “ไร้ญาติขาดมิตร” ?
- สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระราชสมภพ 17 เมษายน พ.ศ. 2277 หรือวันใด เดือนใด?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
อภินิหารบรรพบุรุษ. (2473). กรุงเทพฯ : โสภณพิพรรฒธนากร. อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมเจ้าปิยภักดีนารถ สุประดิษฐ์ พ.ศ. 2473.
นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2550). การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี.พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ : มติชน.
ปรามินทร์ เครือทอง. อภินิหารบรรพบุรุษ หนังสือยอพระเกียรติหรือเสียดสีราชวงศ์.วารสารอ่าน ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-กันยายน 2551.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 สิงหาคม 2568
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อภินิหารพระราชสมภพพระเจ้าตาก : “ 4 ส่วน” ยาวเสมอกัน-ฟ้าผ่ากลางเรือน-งูเหลือมขดล้อม
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com