ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนัก หลังประกาศภาษีทรัมป์ต่อประเทศคู่ค้า
ดัชนี S&P 500 ร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่าสองเดือน โดยหนึ่งในปัจจัยที่กดดันตลาดอย่างมากคือ หุ้นของบริษัท Amazon.com ร่วงลงถึง 8.3% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่ไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังสูงในส่วนธุรกิจคลาวด์ Amazon Web Services ได้
ประกาศขึ้นภาษีใหม่โดยประธานาธิบดีทรัมป์
เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเส้นตายการบังคับใช้ภาษีในวันศุกร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ อาทิ แคนาดา บราซิล อินเดีย และไต้หวัน ซึ่งเป็นความพยายามรอบล่าสุดของรัฐบาลในการกดดันให้เกิดการเจรจาทางการค้าที่ดีกว่า
ข้อมูลแรงงานสร้างความกังวล
รายงานเศรษฐกิจล่าสุดเปิดเผยว่า การจ้างงานในเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ ขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ตัวเลขของเดือนก่อนหน้านั้นยังถูกปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอ ซึ่งอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม
จากสถานการณ์ดังกล่าว ความคาดหวังในตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการประชุมเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นเป็น 86.5% จากระดับ 37.7% ในวันก่อนหน้า (อ้างอิงจาก CME FedWatch Tool)
สรุปตัวเลขตลาดหลักทรัพย์
• ดัชนี Dow Jones ลดลง 542.40 จุด (-1.23%) ปิดที่ 43,588.58 จุด
• ดัชนี S&P 500 ลดลง 101.38 จุด (-1.60%) ปิดที่ 6,238.01 จุด
• ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 472.32 จุด (-2.24%) ปิดที่ 20,650.13 จุด
ตลาดพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบลดลงประมาณ 2.8% โดยได้รับผลกระทบจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอและความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กลุ่ม OPEC และพันธมิตรอาจเพิ่มกำลังการผลิต
• น้ำมันดิบสหรัฐฯ (WTI) ปิดตลาดที่ 67.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.93 ดอลลาร์ (-2.79%)
• น้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 69.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.03 ดอลลาร์ (-2.83%)
ในด้านทองคำ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ ท่ามกลางความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นหลังรายงานการจ้างงานที่อ่อนแอและข่าวภาษีใหม่ของสหรัฐฯ
• ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 1.78% ปิดที่ 3,348.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์