หุ้นไทยวันนี้ ฟื้นตัวต่อในกรอบ 1,210-1,230 จุด คาดหวังไทยใกล้สรุปเจรจาสหรัฐ-Fund Flow ยังไหลเข้า
หุ้นไทยวันนี้ 24 ก.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,210-1,230 จุด ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากความคาดหวังว่าการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ จะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงกระแสเงินทุนต่างชาติ (Fund Inflow) ที่ยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดยังคงต้องจับตาปัจจัยสำคัญภายในประเทศ
24 กรกฎาคม 2568 บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดแกว่งตัวออกด้านข้าง/แกว่งตัวขึ้น มีแนวรับที่ 1,200/1,190 ไม่หลุดต่ำกว่ายังเป็นการแกว่งตัวขึ้น แนวต้านประเมินไว้ที่ 1,240/1,252 มองเงินทุนยังไหลเข้าเอเชีย โดยวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิใน SET 4.4 พันล้านบาท และซื้อสุทธิใน TFEX 4 พันสัญญา ประเมินว่าส่วนนึงมาจากคาดหวังการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะมีข้อสรุปกับประเทศต่างๆ ก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวน แม้มองบรรยากาศการลงทุนยังมีโมเมนตัมบวกจาก Fund Flow ที่ไหลเข้าใน EM และ ครม. แต่งตั้งผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ซึ่งคาดจะมีนโยบายการเงินผ่อนคลายขึ้น แต่ติดตามการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หลังไทยเสนอลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 0% หลายหมื่นรายการ ประเมิน SET ที่ระดับ 1,230-1,250 สะท้อนความคาดหวังไทยจะบรรลุข้อตกลงและทำให้อัตราภาษีใหม่ต่อไทยลดลงจาก 36% เป็น 20% หรือต่ำกว่า ทำให้ SET มีโอกาสชะลอปรับขึ้นหรือเริ่มมี Upside จำกัด ขณะที่กรณีไทยโดนภาษีศุลกากรที่สูงกว่า 20% จะเป็นความเสี่ยงต่อตลาด
อย่างไรก็ดี เราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1,100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้คาดยังฟื้นตัวได้ต่อ ภาพรวมของตลาดยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากความหวังว่ารัฐบาลไทยจะสามารถหาข้อสรุปการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ได้เร็ว ๆ นี้ และยังมีปัจจัยบวกจากกระแสเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ช่วงเช้าวันนี้ แนะติดตามการรายงานตัวเลขส่งออกของไทยเดือน มิ.ย.68 ที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 18.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงให้ติดตามที่ประชุมคณะอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจในการพิจารณาแนวทางจัดสรรงบที่เหลือ 4 หมื่นล้านบาทว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือเยียวยาผลกระทบจากนโนบายภาษีสหรัฐฯอย่างไรโดยให้กรอบแนวต้าน 1,230 จุด และแนวรับ 1,210 จุด
บล.พาย ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,210 - 1,230 บรรยากาศการลงทุนยังเป็นบวก (เช้านี้หุ้นญี่ปุ่น +1.2% เกาหลี +1.7%) นักลงทุนให้น้ำหนักเชิงบวกกับการทยอยประกาศ Deal การค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ
แต่อย่างไรก็ตามกับ SET การปรับขึ้นยังคงเฝ้าระวังเพราะในช่วงที่ปรับขึ้นมาเป็นผลจากกระแสเงินทุนทั้งจากสถาบันและต่างชาติ นักลงทุนต่างชาติซื้อสะสมสุทธิในช่วง 6 วันทำการที่ผ่านมาราว 1.12 หมื่นล้านบาท แต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานยังถือว่าไม่โดดเด่นเพราะยังไม่เห็นการปรับประมาณการขึ้นของเศรษฐกิจ และจำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุดในช่วง1 ม.ค. – 20 ก.ค. สะสมที่ 18.3 ล้านราย (-5.9%YoY)
ในขณะเดียวกันพบว่า Bloomberg Consensus ปรับลด SET EPS ปี 25 ลงมาที่ 89.8 บาท / หุ้น นับเป็นระดับที่ต่ำสุดของปี 25 ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนการปรับขึ้นของตลาดอาจมองเป็นจุดที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังและตลาดพร้อมปรับฐานแรง หากเกิดปัจจัยลบรุนแรง
แต่อย่างไรก็ตามระยะสั้นนักลงทุนรับความเสี่ยงได้สูงอาจ Trading ได้ แต่ก็เน้นที่หุ้นมีปัจจัยหนุนเฉพาะ แนะนำกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL CRC HMPRO) การเงิน (KTC SAWAD) ศูนย์การค้า (CPN) ปัจจัยหนุนราคาหุ้นยังไม่ค่อยแพง นิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA) คาดหวังเจรจาการค้าสหรัฐฯ - ไทย