เส้นทาง “NVIDIA” หุ้นมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ 4 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อ “AI” เปลี่ยนโลก
”NVIDIA” ขึ้นแท่นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นบริษัทแรก และบริษัทเดียว ณ ปัจจุบัน อะไรทำให้ NVIDIA ประสบความสำเร็จเหนือทุกบริษัทในโลก และการก้าวต่อไปจะเป็นอย่างไรเมื่อ AI กำลังเปลี่ยนโลก
เป็นเวลามากกว่า 30 ปีที่ “NVIDIA” บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีสัญชาติสหรัฐอเมริกา ได้ถูกก่อตั้งขึ้น ที่ซานตาคลาร่า แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 5 เมษายน 1993 โดย Jen-Hsun Huang ชาวไต้หวันที่เกิดในสหรัฐอเมริกา อดีตผู้อำนวยการฝ่าย Coreware ที่ LSI Logic และเคยเป็นนักออกแบบไมโครโปรเซสเซอร์ที่ AMD และ Chris Malachowsky รวมถึง Curtis Priem 2 อดีตวิศวกรไฟฟ้า และอดีตเจ้าหน้าที่วิศวกรอาวุโส และนักออกแบบชิปกราฟิกที่ซันไมโครซิสเต็มส์
ด้วยวิสัยทัศน์เริ่มแรกที่ต้องการนำกราฟิก 3 มิติสู่ตลาดเกม และมัลติมีเดีย และต่อมาในปี ต่อมาในปี 1999 ได้เริ่มคิดค้น GPU หรือหน่วยประมวลผลกราฟิกซึ่งวางรากฐานสำหรับการปฏิรูปอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ และในปี 2006 ได้พัฒนา CUDA แพลตฟอร์มการประมวลผลแบบขนาน และรูปแบบการเขียนโปรแกรมที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้พลังของ GPU ขนาดใหญ่ ที่มีหน่วยประมวลหลักร้อยถึงหลักพันหน่วย เพื่อเร่งงานประมวลผลต่างๆ นอกเหนือจากการแสดงผลกราฟิก
ก่อนที่จะถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในปี 2012 ด้วยการเปลี่ยนโลก จากการจุดประกายยุค AI สมัยใหม่ด้วยนวัตกรรมการขับเคลื่อนเครือข่ายประสาทเทียม หรือ AlexNet ที่ล้ำสมัย และในปี 2018 NVIDIA ก็ปฏิวัติวงการกราฟิกคอมพิวเตอร์อีกครั้งด้วยเทค NVIDIA RTX™ GPU ตัวแรกของโลกที่สามารจำลองโลกเสมือนจริง ด้วยการปรับปรุงล่าสุดด้าน AI การติดตามรังสี และสามารถออกแบบ 3 มิติได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน
และในปี 2022 NVDIA เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างเมตาเวิร์ส ด้วยแพลตฟอร์ม NVIDIA Omniverse™ แพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถบูรณาการเทคโนโลยีการเรนเดอร์ NVIDIA RTX™ และ AI รวมถึงสร้างสรรค์นวัตกรรมเข้ากับเครื่องมือซอฟต์แวร์เพื่อพัฒนาการใช้งานทางอุตสาหกรรม และหุ่นยนต์แห่งอนาคต
โดย NVIDIA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ในวันที่ 22 มกราคม 1999 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหุ้นว่า NVDA มีราคาเสนอขายที่หุ้นละ 12 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหลังจากนั้นหุ้น NVIDIA มีการแตกพาร์รวมแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง ซึ่งถ้าหากเราลงทุนในหุ้น NVDA ที่ราคา IPO จำนวน 1 หุ้น และยังไม่ขายออกไป ในปัจจุบันเราจะมีหุ้น NVDA ในมือทั้งหมด 480 หุ้น และเมื่อคำนวนเป็นมูลค่าหุ้นจะเท่ากับ 78,720 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากราคา IPO มากกว่า 600,000% โดยไม่นับรวมผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลที่ได้รับในแต่ละปี
โดยตลอดระยะเวลามากกว่า 30 ปีที่นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักพัฒนา และนักสร้างสรรค์ต่างใช้เทคโนโลยี NVIDIA เพื่อสร้างสิ่งมหัศจรรย์มากมาย โดยปัจจุบันมีนักพัฒนามากกว่า 3.8 ล้านคนสร้างแอปพลิเคชันสำหรับการประมวลผลแบบเร่งความเร็วมากกว่า 1,000 โปรแกรม มีบริษัทชั้นนำทั่วโลกมากกว่า 35,000 แห่งที่ใช้เทคโนโลยี AI ของ NVIDIA รวมถึงมีสตาร์ทอัพระดับโลกอีกมากกว่า 13,000 รายเข้าร่วมโครงการ NVIDIA Inception
แต่กว่าที่ NVIDIA จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปที่สูงที่สุดในโลก ด้วยมูลค่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นบริษัทแรก และบริษัทเดียวในโลก แซงหน้าทุกบริษัทในโลก และมีรายได้ในปี 2024 ที่มากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีกำไรสุทธิเกือบ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เส้นทางที่ผ่านมาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ด้วยการแข่งขันด้านการพัฒนาเทคโนโลยีที่สูงมาก ไม่ใช่เพียงแค่ในสหรัฐอเมริกา แต่เกิดการแข่งขันด้านการพัฒนาเทคโนโลยีทั่วโลก เกิดความท้าทายใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา NVIDIA ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมือง และสงครามด้านการกีดกันเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
ซึ่งหุ้น NVIDIA เคยผ่านสถานการณ์ที่มาร์เก็ตแคปลดลงเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์ภายในวันเดียวเมื่อวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2025 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากความวิตกกังวลในการเปิดตัวโมเดล AI ของบริษัทดีปซีค (DeepSeek) ซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ตอัพของจีน ที่ใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 2 เดือน ใช้ต้นทุนไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์ และใช้ชิป H800s ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพต่ำของ NVIDIA ส่งผลให้เกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้นในตลาด AI ทั่วโลก
แต่ NVIDIA ก็ยังคงสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความต้องการชิป AI ซึ่งใช้ในการสร้าง และใช้งานในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น แชตจีพีที (ChatGPT) ของบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น ไมโครซอฟท์, เมตา (Meta), กูเกิล (Google), อะเมซอน (Amazon), ออราเคิล (Oracle) และเอ็กซ์เอไอ (xAI) ต่างก็มีความต้องการซื้อชิปเร่งประมวลผล AI ของ NVIDIA เป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปสร้างคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ รองรับการพัฒนา AI ขั้นสูง
สำหรับประเทศไทยเองก็มีโอกาสที่จะได้เปิดรับการลงทุนจาก NVIDIA ด้วยเช่นเดียวกัน จากการมาเยือนไทยของ Jen-Hsun Huang เพื่อร่วมงาน AI Vision for Thailand ซึ่งมีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ที่ NVIDIA จะประกาศความร่วมมือการลงทุนด้าน AI และ Cloud หลักแสนล้านบาท แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ NVIDIA ได้ตัดสินใจในการลงทุนด้านศูนย์ออกแบบ และวิจัยพัฒนาในประเทศอื่นแทน ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจ และมันสมองของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
แต่เราก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตประเทศไทยจะได้รับโอกาสในการเป็นประเทศที่ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีระดับโลกให้ความสำคัญในการลงทุนในประเทศไทย เพื่อยกระดับเทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงยกระดับเศรษฐกิจไทยให้กาวสู่ยุค AI อย่างแท้จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “เครื่องสร้างภาพความฝัน” ขับเคลื่อนด้วย “AI” เล่นฝันดูซ้ำได้เมื่อตื่นนอน
- โบว์ เมลดา เดินหน้าฟ้องคนใช้ AI ตัดต่อภาพ คอมเมนต์แรง รับคำขอโทษเป็นเงินสด
- ต้นสังกัด โบว์ เมลดา เตรียมดำเนินคดี มือดีใช้ AI ตัดต่อภาพในทางไม่เหมาะสม
- สรุป “สินทรัพย์ลงทุน” ทั่วโลก ฝ่าด่านหิน "ภาษีสหรัฐฯ" หลังผ่านครึ่งปี 68
- หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 4 กรกฎาคม 2568 ปิดบวก 344 จุด รับแรงหนุนจ้างงานแกร่ง