กกต.แจงยังไม่ถึงขั้นตอนสรุปฟ้อง สว.ฮั้ว
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 13 กรกฎาคม 2568 เวลา 5.09 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทสำนักงาน กกต. 12 ก.ค. – กกต.แจงยังไม่ถึงขั้นตอนสรุปฟ้อง สว.ฮั้ว ยังอยู่ในขั้นที่ 1 แถมอนุฯ 26 ขอขยายเวลาพิจารณาถึง 17 ก.ค. อย่าสร้างกระแส มีอีก 4 ขั้นตอน เลิกปล่อยข่าวลือ อีกนานกว่าจะถึงมือ กกต.ชุดใหญ่
วันนี้ (12 ก.ค.) กกต.ออกเอกสารชี้แจง หลังมีข่าวคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 เตรียมเสนอสำนวนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหญ่ เพื่อฟ้องผู้เกี่ยวข้องกับคดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 229 ราย ในวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยสำนวนดังกล่าวขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ชั้นคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 ที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และระยะเวลาที่ขยาย ซึ่งจะครบกำหนดการขอขยายระยะเวลาในวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 สำนวนดังกล่าวจึงยังไม่ได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
การพิจารณาสำนวนตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566 มีขั้นตอนการพิจารณาออกเป็น 4 ชั้น ดังนี้
ชั้นที่ 1 เมื่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ได้รับสำนวนแล้ว ให้ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวนและจัดทำความเห็น เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ให้จัดส่งสำนวนไปยังสำนักงาน กกต.ส่วนกลางโดยเร็ว
ชั้นที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ส่วนกลาง) ได้รับสำนวนแล้ว ให้พนักงานสืบสวนและไต่สวนผู้รับผิดชอบสำนวนดำเนินการวิเคราะห์สำนวนและจัดทำความเห็นเสนอผ่านผู้อำนวยการฝ่าย รองผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสำนัก และเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (รองเลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ได้รับมอบหมาย)
ชั้นที่ 3 คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งได้พิจารณาแล้วจะทำความเห็น และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอสำนวน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา
ชั้นที่ 4 คณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับสำนวนจากคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งแล้ว ต้องพิจารณาชี้ขาดหรือสั่งการโดยเร็ว
ทั้งนี้ เมื่อคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว ต้องเสนอสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อดำเนินการต่อไป คือ ชั้นที่ 2 สำนักงาน กกต. ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ก่อนเผยแพร่ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อป้องกันความสับสนของประชาชน.-314-สำนักข่าวไทย