จับตามติบอร์ดกสทช.รับรองผลประมูลคลื่นมือถือ กังขา “ฮั้วประมูล”
ยังคงถูกจับตาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผลการประมูลคลื่นมือถือรอบใหม่เสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา โดย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้คลื่นไป 2 คลื่น ได้แก่ คลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz ราคา 4,653,960,168 ล้านบาท และคลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz ราคา 21,770,000,168 บาท ขณะที่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ชนะการประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz จำนวน 3 ชุด รวม 30 MHz ใน ราคา 14,850 ล้านบาท
ทั้งนี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.จะมีการประชุมรับรองผลการประมูลวันที่ 2 ก.ค.2568 มีกระแสข่าวว่าการลงมติอาจไม่เป็นเอกฉันท์เนื่องจากบอร์ดบางท่านมีข้อสงสัยว่าการประมูลไม่มีการแข่งขันโดยเป็นการแบ่งคลื่นกันอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังตั้งข้อสังเกตว่าราคาเริ่มต้นประมูลน้อยเกินไป อีกทั้งในวันประมูลก็ยังมีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที เดินทางมาประท้วงที่บริเวณประตูทางเข้าสำนักงานกสทช.อีกด้วย
ทันทีที่ประมูลเสร็จ นางสาวพิรงรอง รามสูต กรรมการกสทช.ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุข้อความส่วนหนึ่งว่า
“ก่อนที่ตัวแทนของสำนักงานกสทช.จะได้รายงานผลการประมูลต่อที่ประชุม ดิฉันได้ขอให้เพิ่มเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตในเรื่องการกำหนดค่าปรับในกรณีผู้ชนะการประมูล (ผู้รับใบอนุญาต) ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการจัดให้มีโครงข่ายโทรคมนาคมตามที่ กสทช. กำหนดได้ โดยต้องชำระค่าปรับรายวันในอัตราร้อยละ 0.05 ของราคาประมูลสูงสุดของผู้รับใบอนุญาตตลอดระยะเวลาที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขภายในระยะเวลาที่ กสทช. กำหนด
ซึ่งที่ประชุม กสทช. วันนี้มีฉันทามติร่วมกันที่จะเพิ่มเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตดังกล่าว เพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการให้สามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุมจำนวนประชากรในแต่ละตำบลตามที่กำหนด ทั้งนี้ กสทช.มีมติตั้งแต่ครั้งการประชุมที่ 11/2568 (ต่อเนื่อง)ว่า ผู้รับใบอนุญาตจะต้องจัดให้มีโครงข่ายโทรคมนาคม (Network roll-out) ครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนประชากรในแต่ละตำบล ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต
เป็นที่น่าสังเกตว่า ประกาศ กสทช.เกี่ยวกับการประมูลคลื่นในย่านต่างๆ ในอดีตที่ผ่านมาทุกฉบับ ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงการประมูลครั้งก่อนหน้านี้ คือ ประกาศฯในปี 2562 มีการกำหนดค่าปรับรายวันในอัตราร้อยละ 0.05 ของราคาประมูลสูงสุดของผู้รับใบอนุญาต หากไม่สามารถดำเนินการ roll-out ได้ภายในเวลาที่กำหนด แต่ประกาศฯฉบับปี 2568 นี้กลับไม่มีข้อกำหนดในส่วนค่าปรับไว้เหมือนประกาศประมูลคลื่นทุกฉบับที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในข้อ 15 ของประกาศฉบับปัจจุบันได้เปิดช่องให้สามารถกำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตได้ และผู้รับใบอนุญาตจะต้องปฏิบัติตาม
ในการประชุมและรับรองผลการประมูลในวันพุธที่ 2 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ดิฉันเชื่อว่า น่าจะได้มีการหยิบยกประเด็นต่าง ๆ ที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับกระบวนการประมูลมาอภิปรายเพิ่มเติม รวมถึงประเด็นที่ดิฉันได้กล่าวมาแล้วนี้ด้วย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน เอไอเอสมีคลื่นรวม 1,460 MHz ขณะที่ทรูฯมีคลื่นรวม 1,350 MHz
เอไอเอสมีคลื่นรวม 1,460 MHz ประกอบด้วย
700 MHz = 2x20 = 40 MHz
900 MHz = 2x10 = 20 MHz
1800 MHz = 2x20 = 40 MHz
2100 MHz = 2x30 = 60 MHz
2600 MHz = 100 MHz
26 GHz = 1,200 MHz
ทรูฯมีคลื่นรวม 1,350 MHz ประกอบด้วย
700 MHz = 2x20 = 40 MHz
900 Mhz = 2x15 = 30 MHz
1500 Mhz = 20 MHz
1800 MHz = 2x20 = 40 MHz
2100 MHz = 2x30 = 60 MHz
2300 Mhz = 70 MHz
2600 Mhz = 90 MHz
26 GHz = 1,000 MHz