โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

โลกร้อนคร่านกเขตร้อน หายไป 38% ใน 70 ปี

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
งานวิจัยพบว่าคลื่นความร้อนรุนแรงทำให้ประชากรนกเขตร้อนลดลงประมาณ 25–38% ตั้งแต่ปี 1950 และเป็นผลกระทบสะสมระยะยาว นกในเขตร้อนมีขีดจำกัดความทนร้อนต่ำ จึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิตและลดความสำเร็จในการสืบพันธุ์

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์กำลังคุกคามสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด รวมถึงนกด้วย งานวิจัยส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเน้นศึกษาผลกระทบจากแนวโน้มสภาพภูมิอากาศในระยะยาว เช่น การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยทีละน้อย หรือการเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำฝน แต่เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วกลับเกิดบ่อยและรุนแรงขึ้น จึงควรได้รับความสนใจมากขึ้นเช่นกัน

งานวิจัยล่าสุดพบว่า คลื่นความร้อนมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชากรนกในเขตร้อน โดยการได้รับความร้อนจัดบ่อยครั้งทำให้ประชากรนกในพื้นที่เขตร้อนลดลง 25–38% ตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา และนี่ไม่ใช่เพียงการลดลงชั่วคราว แต่เป็นผลกระทบสะสมระยะยาวที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามการร้อนขึ้นของโลก การค้นพบนี้ช่วยอธิบายได้ว่าทำไมนกจึงลดจำนวนลงแม้ในพื้นที่ป่าปกป้องห่างไกลที่แทบไม่ได้รับผลกระทบจากมนุษย์โดยตรง และยังเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพที่เหลืออยู่

นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการติดตามประชากรนกว่า 3,000 กลุ่มทั่วโลกในช่วงปี 1950–2020 รวมกว่า 90,000 การบันทึกทางวิทยาศาสตร์ แม้ว่าข้อมูลจะมีช่องว่างอยู่บ้าง แต่ก็ครอบคลุมทุกทวีป โดยมีข้อมูลบางภูมิภาค เช่น ยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือที่ละเอียดกว่าพื้นที่อื่น จากนั้นจึงนำข้อมูลนกมาจับคู่กับข้อมูลสภาพอากาศรายวันทั่วโลกตั้งแต่ปี 1940 เพื่อศึกษาว่าประชากรนกตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและฝน รวมถึงเหตุการณ์ร้อนจัดอย่างไร พร้อมทั้งนำข้อมูลด้านกิจกรรมอุตสาหกรรมและความหนาแน่นประชากรมนุษย์มาวิเคราะห์ร่วมกัน

ผลการวิเคราะห์ยืนยันสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศเคยพบว่า เหตุการณ์ร้อนจัดเพิ่มขึ้นอย่างมากในรอบ 70 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ปัจจุบันนกในเขตร้อนเผชิญกับวันที่ร้อนอันตรายบ่อยกว่าที่เคยถึงสิบเท่า

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเฉลี่ยและปริมาณฝนจะมีผลต่อประชากรนก แต่สิ่งที่กระทบมากที่สุดคือการเพิ่มขึ้นของวันที่ร้อนจัด โดยเฉพาะในเขตร้อน เนื่องจากนกในพื้นที่เหล่านี้มักมีพื้นที่หากินจำกัด มีความเฉพาะตัวสูงด้านถิ่นอาศัยและสภาพอากาศที่อยู่ได้ อีกทั้งมีขอบเขตความทนทานต่อความร้อนแคบมาก เมื่ออุณหภูมิสูงเกินขีดจำกัด ร่างกายนกจะเข้าสู่ภาวะร้อนเกินหรือไฮเปอร์เทอร์เมีย ทำให้ต้องกางปีก หอบ อ้าปาก ระบายความร้อน และกลายเป็นอ่อนแรงหรือสับสน ในกรณีรุนแรงอาจเสียการทรงตัว ร่วงจากกิ่งไม้ หรือหมดสติ และแม้รอดชีวิตก็อาจได้รับความเสียหายระยะยาวต่ออวัยวะภายในและความสามารถในการสืบพันธุ์

ความร้อนจัดยังลดความสำเร็จในการผสมพันธุ์ เพราะทำให้พ่อนกแม่นกลดการหาอาหาร และต้องหลบแดดในช่วงร้อนที่สุด อีกทั้งทำให้ไข่และลูกนกเผชิญภาวะเครียดจากความร้อนจนเสียชีวิตได้ หรือพ่อแม่นกอาจทิ้งรังเพื่อเอาตัวรอด ความร้อนยังเพิ่มความต้องการน้ำของนก เนื่องจากแม้ไม่มีต่อมเหงื่อ แต่นกสูญเสียน้ำมากจากการระบายความร้อนผ่านการหอบ การสั่นผิวลำคอเพื่อเพิ่มการไหลเวียนอากาศ หรือการระเหยผ่านผิวหนัง ซึ่งเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น กระบวนการเหล่านี้ยิ่งเกิดเร็วและเสี่ยงต่อการขาดน้ำ

งานวิจัยนี้ยังชี้ว่าผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อประชากรนกในเขตร้อนในปัจจุบันอาจรุนแรงกว่าผลกระทบจากกิจกรรมมนุษย์โดยตรง เช่น การตัดไม้ ทำเหมือง หรือทำการเกษตร แม้ว่าการทำลายถิ่นอาศัยจะยังเป็นภัยคุกคามสำคัญ แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้กลายเป็นปัจจัยเร่งที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง

นี่คือคำเตือนที่ชัดเจนว่าการมุ่งเน้นเพียงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเฉลี่ยไม่เพียงพออีกต่อไป เหตุการณ์คลื่นความร้อนไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นนาน ๆ ครั้ง แต่ได้กลายเป็นเรื่องปกติของหลายพื้นที่ หากปล่อยให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศดำเนินต่อไปโดยไม่ควบคุม นกในเขตร้อนและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อาจเผชิญภัยที่รุนแรงเกินจะปรับตัวได้ และเมื่อเขตร้อนเป็นที่อยู่อาศัยของความหลากหลายทางชีวภาพจำนวนมาก รวมถึงเกือบครึ่งหนึ่งของนกทั้งหมดของโลก ผลกระทบก็จะลุกลามเป็นวงกว้าง

ยุทธศาสตร์อนุรักษ์จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยนี้ การปกป้องถิ่นอาศัยจากการพัฒนาอุตสาหกรรมยังคงสำคัญ แต่ไม่เพียงพออีกต่อไป ต้องมีการดำเนินการเชิงรุกเพื่อช่วยให้สิ่งมีชีวิตปรับตัวต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในเขตร้อน และที่สำคัญที่สุดคือการชะลอและย้อนกลับภาวะโลกร้อน ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดึงคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศ และสนับสนุนนโยบายที่ลดผลกระทบต่อโลก อนาคตของนกในเขตร้อนและสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนขึ้นอยู่กับการลงมือทำในวันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

“เทย ไทบ้านเดอะซีรีส์” จัดงานกาล่าพรมแดง เตรียมหัวเราะให้สุดเสียง12 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

7 นาทีที่แล้ว

ไก่สามอย่าง คืออะไร เมนูที่ไม่มีไก่ แต่ทำไมเรียกไก่สามอย่าง?

10 นาทีที่แล้ว

เตือนภัย! แค่ชาร์จมือถือในที่สาธารณะ อาจโดนขโมยข้อมูลโดยไม่รู้ตัว

14 นาทีที่แล้ว

“ญี่ปุ่น” ยกเลิกเตือนภัยฝนตกหนักระดับสูงสุด เตือนประชาชนเฝ้าระวังดินถล่ม

18 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ครูถูกนักเรียนทำร้าย จิตใจดีขึ้นมาก หลังกำลังใจล้นหลาม

ข่าวช่องวัน 31

Nvidia-AMD ยอมจ่ายส่วนแบ่ง 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ แลกใบอนุญาตขายชิป AI ให้จีน ผู้เชี่ยวชาญมอง ความมั่นคงชาติมีไว้ขายหรือ?

THE STANDARD

“เศรษฐา” แนะ เจรจากัมพูชาใหม่ ปมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เหตุคนวางเท่านั้นที่จะรู้ว่าไปกู้ตรงไหน

The Better

เตือนภัย! แค่ชาร์จมือถือในที่สาธารณะ อาจโดนขโมยข้อมูลโดยไม่รู้ตัว

TNN ช่อง16
วิดีโอ

กองทัพฮึ่ม ทหารเหรียบระเบิดอีก อาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ป้องกันตนเองตามหลักสากล

สวพ.FM91

ย้ำจุดยืนปศุสัตว์ไทยไร้สารเร่งเนื้อแดง

สำนักข่าวไทย Online

“ญี่ปุ่น” ยกเลิกเตือนภัยฝนตกหนักระดับสูงสุด เตือนประชาชนเฝ้าระวังดินถล่ม

TNN ช่อง16

หลายชาติรวมทั้งไทยจะส่งคณะไปเมียนมาเรื่องโรฮิงญา

สำนักข่าวไทย Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

มนุษย์ผูกพันกับธรรมชาติ น้อยลง 60% ในรอบ 200 ปี

TNN ช่อง16

หิ่งห้อยเสี่ยงสูญพันธุ์ จากโลกร้อน แสงรบกวน สารเคมี

TNN ช่อง16

โลกแปรปรวนหนัก ไทยร้อนระอุกลางฤดูฝน เตือนฝนถล่มอีกกลางส.ค.–ก.ย

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...