โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Deepfake ฉก 200 ล้านดอลลาร์ สัญญาณภัยไซเบอร์โลกเข้าสู่ยุค “หลอกลวงขั้นสุด”

Manager Online

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

เมื่อ AI กลายเป็นอาวุธของคนร้าย ภัย Deepfake กำลังพัฒนาไปไกลเกินการตัดต่อเพื่อความบันเทิง กลายเป็นเครื่องมือหลอกลวงขั้นสูงที่ยากจะต้านทาน ทั้งต่อบุคคล องค์กร และระบบเศรษฐกิจโลก ภายใต้โลกดิจิทัลที่ "ความจริง" กำลังถูกปลอมได้ทุกพิกเซล

ในยุคที่เทคโนโลยีเดินเร็วกว่าการตั้งคำถาม และเสียงหรือใบหน้าไม่สามารถเป็นหลักฐานได้อีกต่อไป โลกกำลังเผชิญกับ “มหันตภัยลวงตา” ที่ชื่อว่า Deepfake เทคโนโลยีปลอมแปลงเสียงและภาพที่กำลังเปลี่ยนรูปแบบการก่ออาชญากรรมไปอย่างสิ้นเชิง

จากรายงาน “Q1 2025 Deepfake Incident Report” พบว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 มีมิจฉาชีพ Deepfake กว่า 163 ราย ก่อเหตุฉ้อโกงจนเหยื่อต้องสูญเสียทรัพย์สินไปรวมกันกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป้าหมายไม่จำกัดแค่บุคคลมีชื่อเสียงหรือองค์กรขนาดใหญ่ หากแต่รวมถึงประชาชนทั่วไปโดยทุกคนคือ “เป้าหมาย” ในสนามรบไซเบอร์ใบใหม่นี้

จากวิดีโอไวรัลสู่ “อาวุธดิจิทัล”

เทคโนโลยี Deepfake เคยถูกใช้สร้างความบันเทิงในโซเชียลมีเดีย แต่ปัจจุบันกลายเป็นอาวุธที่แหลมคมและยากจะตรวจจับ อาชญากรไซเบอร์สามารถเลียนเสียง เลียนใบหน้า และแม้กระทั่งสร้างวิดีโอคอลปลอมที่น่าเชื่อจนเหยื่อตกหลุมพรางอย่างง่ายดาย

หนึ่งในกรณีสะเทือนโลกเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เมื่อบริษัทแห่งหนึ่งสูญเสียเงินกว่า 25 ล้านดอลลาร์ หลังพนักงานคนหนึ่งได้รับวิดีโอคอลจาก “CFO ปลอม” ซึ่งสั่งการให้โอนเงินโดยทันที ด้วยความเชื่อว่ากำลังปฏิบัติตามคำสั่งผู้บริหารจริง ๆ

เมื่อบริษัทตรวจสอบกลับไปยังสำนักงานใหญ่ จึงพบว่า ไม่มีการติดต่อใดเกิดขึ้นเลย และ “CFO ตัวจริง” ไม่ได้อยู่ในการสนทนาดังกล่าวแม้แต่วินาทีเดียว

ตัวเลขที่ไม่ใช่แค่ตัวเลข

ผลสำรวจระบุว่า 41% ของกลโกง Deepfake มุ่งเป้าไปที่บุคคลมีชื่อเสียงและนักการเมือง อีก 34% มุ่งเป้าไปที่ “คนธรรมดา” ข้อมูลระบุว่าความเสียหายจากอาชญากรรมประเภทนี้ ไม่ได้จำกัดแค่ทรัพย์สิน แต่กระทบลึกถึงจิตใจของเหยื่อ ความรู้สึก “ถูกล่วงละเมิด” และ “ไม่สามารถไว้วางใจอะไรได้อีก”

เสียงที่คุณคุ้นเคย อาจไม่ใช่เสียงของคนที่คุณรัก

ใบหน้าบนหน้าจอ อาจเป็นแค่ภาพจำลองที่สมจริงเกินจริง

และที่สำคัญที่สุด ทุกอย่างอาจเกิดขึ้นได้จากการที่คุณเคย “อัปโหลดวิดีโอสั้น” บนโซเชียลมีเดียเมื่อหลายปีก่อน

AI อัจฉริยะในมือคนผิด = ภัยคุกคามไร้พรมแดน

อาชญากรใช้ข้อมูลจากสื่อออนไลน์สาธารณะ เช่น วิดีโอ YouTube หรือโพสต์โซเชียลมีเดีย เพื่อฝึกโมเดล AI ให้เลียนแบบเสียงบุคคลเป้าหมายได้แม่นยำถึง 85% จากข้อมูลเพียงไม่กี่วินาที ขณะเดียวกัน วิดีโอ Deepfake ก็กลายเป็นสิ่งที่แยกจากความจริงได้ยาก โดย 68% ของผู้ใช้งานไม่สามารถระบุได้ว่าวิดีโอใดจริงหรือปลอม

ยิ่งข้อมูลส่วนตัวถูกเผยแพร่มากเท่าไหร่ พื้นที่ในการโจมตีก็ยิ่งเปิดกว้างขึ้นเท่านั้น

พัฒนาการ Deepfake ไม่ได้หยุดแค่การฉ้อโกง

Deepfake ไม่ได้จบเพียงเรื่องเงิน จากการศึกษาพบว่า 32% ของคดี Deepfake เกี่ยวข้องกับเนื้อหาโป๊ปลอม เพื่อแบล็กเมล์หรือทำลายชื่อเสียงเหยื่อ 23% เป็นคดีฉ้อโกงทางการเงิน 14% ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง และอีก 13% เป็นการบิดเบือนข้อมูลในวงกว้าง

นั่นหมายความว่า ความจริงกำลังถูกสวมหน้ากาก และในโลกที่ใคร ๆ ก็ “สร้างความจริง” ขึ้นมาได้ด้วยปัญญาประดิษฐ์ คำถามสำคัญคือ แล้วเราจะเชื่ออะไรได้อีก?

ถ้าป้องกันไม่ทัน = แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

การรับมือกับภัย Deepfake จำเป็นต้องเริ่มจากระดับบุคคลไปจนถึงระดับชาติ

1.สำหรับบุคคลทั่วไป : ระมัดระวังข้อมูลที่โพสต์ออนไลน์ และอย่าเร่งรีบตอบสนองต่อข้อความหรือวิดีโอคอลที่ดูเร่งด่วนผิดปกติ

2.สำหรับองค์กร : ต้องฝึกอบรมพนักงานให้รู้จักเทคนิคตรวจจับ Deepfake เช่น การถามคำถามส่วนตัวที่ AI ตอบไม่ได้ หรือขอให้ผู้สื่อสาร “ขยับศีรษะ” แบบเฉพาะเจาะจงขณะวิดีโอคอล

3.สำหรับภาครัฐ : เร่งออกกฎหมายควบคุมให้ทันเกมการหลอกลวง กำหนดนิยามและบทลงโทษ Deepfake อย่างชัดเจน โดยยึดแนวปฏิบัติระดับสากล

แม้เวลาเหลือน้อย…แต่ยังพอมีหวัง

รายงานคาดการณ์ว่า ภายในปี 2570 มูลค่าตลาด Deepfake จะพุ่งแตะระดับ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตเฉลี่ยปีละ 32% ขณะที่อัตราการหลอกลวงผ่าน Deepfake ในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง 1,740% ในปี 2566 เพียงปีเดียว

หากไม่มีการรับมืออย่างทันท่วงทีความเชื่อมั่นในข้อมูลดิจิทัลจะพังทลายลงอย่างถาวร

Deepfake ไม่ใช่เรื่องของอนาคต มันคือ “ปัจจุบันที่บิดเบี้ยว”

ในยุคที่ "ภาพ-เสียง" อาจเป็นของปลอม ความมั่นคงดิจิทัลจึงไม่ใช่แค่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยไซเบอร์อีกต่อไป แต่เป็น “หน้าที่ของทุกคน” บนโลกออนไลน์

ก่อนจะเชื่อ - ต้องเช็ก

ก่อนจะส่ง - ต้องคิด

ก่อนจะโอน - ต้องโทรกลับ

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

"แซนด์" หลานแม้วแจ้งจับคนปล่อยข่าว "ไส้ศึกเขมร" ลั่นไม่มีผัวคนกัมพูชา "เชอรี่" ลูกพี่ลูกน้องหย่าแล้วกว่า 5 ปี

15 นาทีที่แล้ว

ครอบครัวส.ต.ธีรยุทธ สุดซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณในหลวง โปรดเกล้าให้ ทบ.ภาครัฐ/เอกชนสร้างบ้านหลังใหม่

16 นาทีที่แล้ว

หุ้นปิดพุ่ง 11.07 จุดขึ้นมาดีกว่าคาดรีบาวด์ระยะสั้นตามภูมิภาค-หวัง Fund Flow ไหลเข้า

19 นาทีที่แล้ว

ที่ปรึกษารมว.กต.แจ้งความถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึกจนแชร์ว่อนโซเชียล ลั่นใช้สิทธิตาม กม.เอาเรื่องถึงที่สุด

21 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

อีกแล้ว! พรุ่งนี้ น้ำมันขึ้นราคา

สวพ.FM91

ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวเชิดชูวีรชน มอบรถเข็นแก่ครอบครัวทหารกล้าผู้สละชีพเพื่อชาติ

SMART SME

พรุ่งนี้! (5 ส.ค.68) ปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ 40 สต./ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลราคาคงเดิม มีผลเวลา 05.00 น.

JS100 - Post&Share

ราคาน้ำมันพรุ่งนี้ 5 ส.ค. 2568 อัปเดตราคาน้ำมันทุกชนิดล่าสุดลิตรละกี่บาท

Thairath Money

วิเคราะห์กลยุทธ์ OATSIDE ทำไมถึงขาย “นมโอ๊ต” ได้ถูกลง เข้าถึงคนทั่วไปในราคาลิตรละ 56 บาท

Thairath Money

เจาะลึก KTC “เคลียร์หนี้เกลี้ยง” จุดเริ่มวินัยการเงินที่ยั่งยืน

PostToday

จ้าง “BEM” ใช้ขบวนรถเดิมเดินรถต่อเนื่อง “สายม่วงใต้” ประเดิม 4 สถานีปี 71 ตลอดสายเลื่อนปี 73

เดลินิวส์

หุ้นปิดพุ่ง 11.07 จุดขึ้นมาดีกว่าคาดรีบาวด์ระยะสั้นตามภูมิภาค-หวัง Fund Flow ไหลเข้า

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

SAMออกมาตรการช่วยลูกค้ารับผลกระทบพายุ'วิภา'

Manager Online

เศรษฐกิจสหรัฐฯ จ่อ "ชะงักงัน" โกลด์แมน แซคส์เตือนแรง หลังจ้างงานร่วง 90% ในเดือนเดียว

Manager Online

ภาษีทรัมป์19%ช่วยไม่ไหวอสังหาฯเน้นลดพอร์ต-เบรกขึ้นโปรเจ็กต์ใหม่

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...