‘มท.2’สั่งปภ.เร่งสำรวจความเสียหายบ้านประชาชน ควบคู่ฟื้นฟูเยียวยา
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 9 ส.ค.ที่ชุมชนบ้านนาสามัคคี อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามการให้การช่วยเหลือ ประชาชนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา และตรวจสอบหลุมหลบภัย
โดยน.ส.ธีรรัตน์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากฝ่ายความมั่นคงได้อนุญาตให้ประชาชนสามารถเข้าพื้นที่ได้อย่างปลอดภัยก็มีประชาชนเริ่มทยอยกลับสู่ภูมิลำเนาซึ่งพบว่าความเสียหายเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง ทั้งจากแรงระเบิด และผลกระทบอื่น ๆ โดยกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับจังหวัดและ อปท. ลงพื้นที่สำรวจและประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมตามระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยหากบ้านเรือนที่มีมูลค่าความเสียหายเกินกว่าหลักเกณฑ์ ก็ยังได้ผ่อนผันข้อระเบียบเพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้ และยังมีเงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากสำนักนายกรัฐมนตรีที่สามารถมอบความช่วยเหลือได้ทันทีสูงสุด 230,000 บาทต่อหลัง รวมถึงหน่วยอื่น ๆ บูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชน
"ปัจจุบันหลายพื้นที่ได้สำรวจความเสียหายเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างประมวลข้อมูลส่งไปยังส่วนกลางแต่ขณะเดียวกัน การช่วยเหลือเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ได้มีมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีข้อสั่งการให้ยกเว้นการเก็บค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 2 เดือน คือ กรกฎาคม–สิงหาคม 68 ทั้งบ้านเรือนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งศูนย์พักพิงทุกแห่ง" น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้เห็นพี่น้องชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) มากันอย่างพร้อมเพียงซึ่งทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่อพยพและช่วยเหลือประชาชนออกจากพื้นที่อย่างกล้าหาญ โดยสัปดาห์ที่จะถึงนี้จะมีการนำเสนอเรื่องค่าตอบแทนพี่น้อง ชรบ. ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์นี้ โดยหากปฏิบัติหน้าที่ 6-12 ชั่วโมง วันละ 120 บาท แต่หากปฏิบัติหน้าที่มากกว่า 12 ชั่วโมง วันละ 240 บาท
ทั้งนี้ จ.อุบลราชธานียังคงมีผู้อพยพกลุ่มเปราะบางที่พักอยู่ในศูนย์พักพิงเหลือเพียงแห่งเดียว ซึ่งเป็นผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น ผู้ป่วยฟอกไต รวมถึงบางส่วนที่มาจากอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ไม่สามารถเปิดให้บริการรักษาพยาบาลได้ จึงได้สั่งการให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะพร้อมกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย.