'Work-Life Balance' พฤติกรรม Gen Z วิถีวัยรุ่นที่องค์กรต้องปรับตัว
เปิดบทสัมภาษณ์ 2 อาจารย์ระดับอุดมศึกษา ที่บอกเล่ามุมมองที่ผ่านประสบการณ์ทั้งการสอนหนังสือ สัมผัสชีวิตและพฤติกรรมของ "วัยรุ่น Gen Z" อยู่ทุกวัน
ที่กำลังกลายเป็นแรงงานหลักของประเทศ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงตลาดแรงงานอย่างมีนัยสำคัญ
ด้วยทัศนคติ วิถีชีวิตที่แตกต่างจากอดีต ทั้งในเรื่องการทำงาน การใช้ชีวิต และการมองอนาคตทางการเงิน
เจน Z รุ่นที่โตมากับเทคโนโลยี
อาจารย์ผู้สอนนักศึกษาเจน Z ยืนยันตรงกันว่า เด็กยุคนี้คุ้นชินกับเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัล สามารถหาความรู้ได้รวดเร็ว ต่างจากรุ่นก่อนที่ต้องพยายามหาข้อมูลเอง
อาจารย์โบว์-ภัทราวดี ธีเลอร์ อาจารย์ประจำสาขาวารสารศาสตร์คอนเวอร์เจ้นท์และสื่อดิจิทัลสร้างสรรค์ คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM)กล่าวว่า “เด็กเจน Z จึงมักเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ชอบความหลากหลาย ยืดหยุ่น และต้องการคำอธิบายที่ชัดเจน หากได้รับคำตอบสั้น ๆ หรือกำกวม มักจะรู้สึกไม่เข้าใจและไม่พอใจ
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในการประเมินผลและกติกาที่ชัดเจน หากอาจารย์หรือหัวหน้างานไม่อธิบายเกณฑ์อย่างละเอียด เจน Z อาจตั้งคำถามและไม่ยอมรับได้ง่าย”
งานแบบไหนที่ใช่สำหรับเจน Z
“เจน Z ชอบงานที่ยืดหยุ่นและให้คุณค่ากับ Work-Life Balance พวกเขาไม่ต้องการทำงานล่วงเวลาหรือเผชิญงานที่ซ้ำซาก จำเจ” อาจารย์สะท้อน พร้อมเสริมว่าพวกเขายังต้องการคำอธิบายที่ชัดเจน โปร่งใส และไม่ยอมรับการสื่อสารแบบกำกวม
อาจารย์ภัคภาคิน หาญจริง อาจารย์ประจำสาขาวารสารศาสตร์คอนเวอร์เจ้นท์และสื่อดิจิทัลสร้างสรรค์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เสริมว่า เจน Z เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองและมองหางานที่สร้างความหมาย
ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับสุขภาวะจิตและสมดุลชีวิตสูงกว่าคนรุ่นก่อน “หากองค์กรปรับระบบงานให้เน้นผลลัพธ์มากกว่าการนับชั่วโมง จะสามารถดึงศักยภาพและนวัตกรรมของคนรุ่นนี้ออกมาได้เต็มที่”
โอกาสและจุดที่ต้องพัฒนา
การยึด Work-Life Balance ทำให้เจน Z กล้าปฏิเสธสิ่งที่ไม่ตรงใจ แม้อาจทำให้เปลี่ยนงานบ่อย แต่ก็เป็นแรงกดดันให้องค์กรต้องปรับตัว เปิดทางให้ระบบ Hybrid Work และงานแบบโปรเจกต์มากขึ้น จุดแข็งของเจน Z คือ ความคิดสร้างสรรค์ ความเร็ว และการใช้เทคโนโลยี แต่ก็ยังต้องพัฒนาเรื่อง การสื่อสาร การคัดกรองข้อมูล และความอดทน เพื่อสร้างความมั่นคงในเส้นทางอาชีพ
เทรนด์ใหม่ในตลาดแรงงาน
โซเชียลมีอิทธิพลต่อการเลือกเส้นทางชีวิต เด็กจำนวนมากสนใจเป็น Influencer, Content Creator หรือทำงานในสายครีเอทีฟมากกว่างานออฟฟิศแบบเดิม การสร้าง Personal Brand จึงเป็น “อาวุธลับ” ที่ช่วยสร้างโอกาสและรายได้
อสังหาฯ vs ความฝันของเจน Z
ต่างจากรุ่นพ่อแม่ที่มองว่าการซื้อบ้านคือเป้าหมายชีวิต เจน Z กลับเลือกเช่าเพราะคล่องตัวกว่า และไม่อยากแบกภาระหนี้ระยะยาว รายได้ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้กับการท่องเที่ยว การลงทุนในตัวเอง และประสบการณ์ชีวิตมากกว่าการสะสมทรัพย์สิน
ดังนั้นเจน Z ไม่ใช่แรงงานธรรมดา แต่เป็นแรงงานที่เป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ที่บังคับให้องค์กรและตลาดแรงงานต้องยกระดับ ทั้งเรื่องโครงสร้างการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และสวัสดิการ หากองค์กรไหนปรับตัวได้ทัน จะได้แรงงานที่มีทั้งไอเดียและพลังสร้างสรรค์ แต่ถ้ายังยึดติดกับระบบเดิม มีโอกาสสูงที่จะเสียคนรุ่นใหม่ไป