SOCIETY: อาม่าจีนชอปกระหน่ำกว่า 10 ล้าน! จนต้องเช่าห้องเก็บพัสดุที่แกะไม่ทัน ด้านเจ้าตัวเผย ต้องใช้เงินให้หมด ไม่งั้นญาติจะมาขอยืม!
การเสพติดการชอปปิงดูจะเป็นเรื่องปกติของคนปัจจุบันนี้ แต่เสพติดหนักไป คนทั่วไปก็คงจะเห็นว่าเป็นปัญหา
แต่เท่าไรถึงจะเรียกว่าหนักเกินไปกันล่ะ? เคสที่จะเล่าต่อไปนี้ คงไม่ต้องเถียงกันว่าหนักไปหรือไม่แน่ๆ
คุณหวังเป็นอาม่าชาวจีนในวัย 66 ปี เธอได้ขายอพาร์ตเมนต์ห้องใหญ่ใจกลางกรุงเซี่ยงไฮ้แล้วมาซื้อบ้านชานเมือง ซึ่งญาติๆ ก็รู้ว่าเธอน่าจะมีเงินพอตัวอยู่ เพราะอพาร์ตเมนต์ระดับห้องใหญ่ใจกลางกรุงเซี่ยงไฮ้นั้นราคามีหลักหลายสิบล้านบาทแน่ๆ เรียกว่าขายมาซื้อบ้าน เงินก็ยังเหลือ
คุณหวังก็ปวดหัว กลัวญาติจะมายืมเงิน เธอเลยคิด ‘แผนการ’ ได้
ตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่บ้าน เธอดูไลฟ์ขายของทุกวัน แล้วกดซื้อของแบบไม่นึกคิดรัวๆ โดยส่วนใหญ่เธอก็จะซื้อพวกเครื่องประดับที่เป็นทองคำ เครื่องสำอาง และอาหารเสริม
ทั้งหมดนี้ฟังดูปกติมาก อาม่าที่ไหนก็ทำแบบนี้ แต่ปัญหาเรื่องนี้เป็นเชิง ‘ปริมาณ’ ล้วนๆ เพราะตั้งแต่คุณหวังเริ่มทำแบบนี้ เธอก็ทำไม่หยุด จนใช้เงินไปรวมๆ กว่า 10 ล้านบาท และในที่สุดของก็ล้น บ้านเต็มไปด้วยกล่องพัสดุทั้งที่แกะแล้วและยังไม่แกะ
ตอนแรกเพื่อนบ้านเป็นห่วง เรียกเจ้าหน้าที่เทศบาลมาดู เจ้าหน้าที่ช่วยคุณหวังเคลียร์ของไปรอบหนึ่ง แล้วมันก็กลับมารกเหมือนเดิม และรกครั้งล่าสุด คุณหวังแทบไม่มีที่นอนแล้ว กระทั่งถึงกับต้องไปเช่าห้อง เพื่อเอาพวกกล่องพัสดุที่ยังไม่เปิดไปกองไว้ ให้ที่บ้านยังมีที่นอนอยู่
แน่นอนว่าคุณหวัง‘อาการหนัก’ เอาเรื่อง ซึ่งถามว่าเธอไม่มีลูกหลานหรือ? เธอมีลูกสาว แต่อยู่ต่างประเทศ นานๆ กลับมาครั้ง โดยรวมแล้วเธออยู่ในจีนคนเดียว ไม่มีเพื่อนและไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับญาติๆ
หลังจากเรื่องราวแพร่กระจายไป ชาวเน็ตจีนบอกว่านี่คืออุทาหรณ์ของการที่ลูกหลานไม่ยอมดูแลพ่อแม่ แต่อีกด้าน สิ่งที่เราไม่รู้ก็คือ จริงๆ คุณหวังอาจมีเครื่องทองเก็บไว้เป็นสินทรัพย์จำนวนมากก็ได้
นักข่าวไปสัมภาษณ์คุณหวังว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้ เธอบอกว่าญาติชอบคิดว่าเธอรวย จะมายืมเงิน เธอเลยสั่งของมาให้มันรกบ้านไปหมด เพื่อให้ญาติโผล่หน้ามาที่บ้านแล้วจะได้ไม่กล้าเข้ามาพูดคุยขอยืมเงิน และล่าถอยไปในที่สุด
แน่นอนมันฟังดูเพี้ยนๆ แต่ในสังคมตะวันออก เราก็น่าจะจินตนาการออกว่าการที่ญาติโผล่มายืมเงินนี่ปกติมากๆ โดยเฉพาะเมื่อญาติคิดว่าเรา ‘รวย’ ซึ่งสังคมจีน ถ้าใครพอรู้ ระบบการกู้เงินสำหรับบุคคลธรรมดาก็จะเข้าใจว่ามันจำกัดมาก เครดิตดีแค่ไหนก็กู้เงินยาก เพราะรัฐบาลกลางจีนมองว่าการปล่อยให้คนเป็นหนี้เยอะๆ มันสั่นคลอนระบบเศรษฐกิจ ซึ่งก็มีส่วนจริง และผลก็คือคนจีนที่สิ้นหนทางจริงๆ ก็มักจะต้องไปกู้เงินแบบนอกระบบ
และก็นี่แหละ สุดท้าย ‘ญาติที่มีเงิน’ เลยมักจะเป็นที่พึ่ง ซึ่งก็ไม่แปลกเลยที่ใครที่มีเงินก็มักจะเลี่ยงไม่ให้ญาติๆ ได้ล่วงรู้ และหลายครั้ง สุดท้ายผลมันก็จะออกมางงๆ เพี้ยนๆ แบบคุณหวัง
ทั้งนี้ก็ต้องเข้าใจเช่นกันว่าสำหรับคนจีน ‘ที่ดิน’ ไม่ใช่การลงทุนที่ดี เพราะคนจีนเป็นเจ้าของที่ดินไม่ได้ ดังนั้นคนแก่ๆ อยากลงทุนหรือเปลี่ยนเงินไปเป็นสินทรัพย์ที่จะมูลค่าไม่ลดในระยะยาว บางทีเขาก็จะซื้อทองเก็บเอาไว้ และก็เป็นไปได้ว่า ที่จริงแล้วเห็นคุณหวังกล่องเต็มบ้านแบบนั้น อาจเป็นกล่องหลอกก็ได้ เพราะจริงๆ คุณหวังเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทองไปหมดแล้ว และก็ ‘เล่นละคร’ ให้ญาติไม่รู้ นึกว่าซื้ออาหารเสริมและเครื่องสำอางจนเงินหมดกันไปก็เป็นได้
แต่ทั้งหมดก็เรียกว่าเป็นปัญหาแบบสังคมตะวันออกจริง เพราะในสังคมตะวันตก การมีเงินปัญหาคือจะเอาไปลงทุนอย่างไรให้งอกเงย แต่ถ้าเป็นตะวันออก พอมีเงิน ปัญหาพื้นฐานคือจะทำอย่างไรไม่ให้คนใกล้ตัวมาไถเงินหรือญาติมายืมเงินมากกว่าจะเป็นเรื่องจะทำอย่างไรให้มันงอกเงย