'หุ้นเวียดนาม' โตแรง เสี่ยง 'ปรับฐาน’ หลังสินเชื่อมาร์จิ้นพุ่งสูง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ความหวังของนักลงทุนรายย่อยในเวียดนามกลับมาอีกครั้ง เมื่อดัชนีVN Index ของเวียดนามที่พุ่งขึ้นถึง 22% ในปีนี้ จนเกิดวลี "Make VN Index 1,800" และ "MIGA" (Make Index Great Again) ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ว่าดัชนีจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางคนตั้งเป้าให้ตลาดพุ่งทะยานไปถึง 1,800 จุด
วานนี้(5 ส.ค.) ดัชนี VN Index ปิดตลาดสูงขึ้น 1.2% ที่ 1,547.15 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายเดือนของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ซิตี้ก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยล่าสุดมูลค่าการซื้อขายรายวันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.74 พันล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. และวันนี้(6ส.ค.) เคลื่อนไหวที่ระดับ 1,558.76 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังเปิดตลาด
ตลาดหุ้นเวียดนามพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามแซงหน้าดัชนีสำคัญอื่นๆ ในภูมิภาคและทำสถิติ “สูงสุดเป็นประวัติการณ์” เมื่อเดือนที่แล้ว
JPMorgan Chase & Co. คาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามจาก 46% เหลือ 20% ในเดือนที่แล้ว หลังจากนั้น ธนาคารก็ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเวียดนามเป็น "overweight" และเพิ่มเป้าหมายสิ้นปีสำหรับดัชนี VN Index เป็น 1,600 จุด
คาดเงินทุนไหลเข้าเวียดนามต่อเนื่อง
นอกจากนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากที่กลับเข้ามาลงทุนในตลาดแล้ว โดยกองทุนต่างชาติก็เริ่มกลับเข้ามาลงทุนเช่นกัน โดยข้อมูลจากบลูมเบิร์กระบุว่าในเดือนก.ค. มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิถึง 298 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นเดือนที่ 2 ที่มีเงินทุนไหลเข้าในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา
มาร์โก มาร์ติเนลลี จาก Turicum Investment Management คาดการณ์ว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยมาจากหลายอย่าง
- ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ทำให้นักลงทุนมองหาโอกาสในตลาดอื่น
- ตลาดหุ้นสหรัฐมีมูลค่าสูงมากแล้ว ทำให้นักลงทุนมองหาตลาดทางเลือกที่ยังมีโอกาสเติบโต
- มีความหวังว่าในเดือนก.ย.นี้ FTSE Russell ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีระดับโลก จะปรับสถานะตลาดหุ้นเวียดนามจาก "ตลาดชายขอบ" (Frontier Market) ขึ้นเป็น "ตลาดเกิดใหม่ระดับรอง" (Secondary Emerging Market)
ปัจจัยเหล่านี้ เมื่อรวมกับความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นของนักลงทุนในประเทศ จะเป็น "ปัจจัยที่ปูทางไปสู่ผลประกอบการของตลาดที่แข็งแกร่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า"
ตลาดหุ้นเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็ว
ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเวียดนาม มีบัญชีซื้อขายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 970,000 บัญชี ทำให้ยอดรวมทะลุ 10 ล้านบัญชีแล้ว ซึ่งเกือบจะบรรลุเป้าหมายของทางการที่ตั้งไว้ที่ 11 ล้านบัญชีภายในปี 2573 โดยการเติบโตนี้มีสาเหตุมาจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำ ทำให้เงินฝากไม่ให้ผลตอบแทนที่ดีนัก
นอกจากนี้ นักลงทุนรายย่อยมีบทบาทสำคัญในตลาดหุ้นเวียดนามอย่างมาก โดยคิดเป็นสัดส่วน กว่า 80% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งมากกว่าในไทยและอินโดนีเซียถึงสองเท่า การเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมากนี้ทำให้นักลงทุนรายย่อยกลายเป็นกำลังหลักที่สำคัญของตลาด ทั้งตัวขับเคลื่อนตลาดเมื่อกองทุนต่างชาติถอนตัว และสาเหตุของความผันผวนเมื่อบรรยากาศการลงทุนเปลี่ยนไป
‘ความเสี่ยง’ ตลาดหุ้นเวียดนาม
หวู มินห์ ดึ๊ก รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Vietcap Securities คาดการณ์ว่าดัชนี VN Index จะแตะระดับ 1,800 จุด ในปีหน้า และจะพุ่งทะลุ 2,000 จุด ในปี 2570
แม้ว่าภาคค้าปลีกของเวียดนามจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็มีความกังวลว่าอาจจะเกิดการ “ปรับฐาน” หรือราคาหุ้นจะตกลงได้ในอนาคต
หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ “สินเชื่อมาร์จิ้นพุ่งสูง” โดยในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา สินเชื่อมาร์จิ้น (Margin Loan) หรือการกู้เงินมาลงทุนในหุ้น พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงอย่างมากที่ตลาดจะทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว หากความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง
ครั้งล่าสุดที่สินเชื่อมาร์จิ้นพุ่งสูงสุดในเดือนม.ค. 2565 ตลาดหุ้นเคยร่วงลงมากกว่า 20% ภายในเวลาเพียง 4 เดือน ซึ่งเป็นบทเรียนที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
อ้างอิง Bloomberg