โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เอาจริง! ญี่ปุ่น ยูเออี โปรตุเกส ให้พนักงานรัฐทำงาน 4 วัน/สัปดาห์

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อัปเดตเทรนด์ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ในปี 2025 พบว่ามีหลายประเทศทั่วโลกเริ่มหันมาทดลองระบบ “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” กันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีเป้าหมายปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กร ลดภาวะเครียดและการหมดไฟของพนักงาน พร้อมทั้งคาดหวังเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ยังดีเท่าเดิม

แม้ยังไม่มีประเทศใดประกาศใช้ระบบนี้เป็นนโยบายระดับชาติ แต่การทดลองกำลังเกิดขึ้นทั้งในภาครัฐและเอกชน และอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้บริษัททั่วโลกปรับมุมมองใหม่ต่อเรื่องประสิทธิภาพ การดูแลพนักงาน และวัฒนธรรมในที่ทำงาน โดยเฉพาะปีนี้ มีหน่วยงานภาครัฐของหลายๆ ประเทศเริ่มทดลองระบบนี้อย่างจริงจังแล้ว

รีตา ฟอนตินญา (Rita Fontinha) ศาสตราจารย์ด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลเชิงกลยุทธ์แห่ง Henley Business School ซึ่งศึกษาความเป็นไปได้ของการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์บ่อยครั้ง ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ให้ประโยชน์อย่างมากทั้งต่อพนักงานและองค์กร”

3 ประเทศล่าสุด ทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ในปี 2025

1. ญี่ปุ่น

ตั้งแต่เดือนเมษายน รัฐบาลมหานครโตเกียวเริ่มเปิดทางให้พนักงานเลือกทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ตามโมเดล “100:80:100” หมายถึง ได้รับเงินเดือนเท่าเดิม (100%) ทำงานเพียง 80% ของชั่วโมงเดิม แต่ต้องรักษาผลิตภาพการทำงานให้ได้ 100%

นโยบายนี้มีเป้าหมายเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานให้ผู้หญิงญี่ปุ่น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามแก้ปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่องของประเทศ

ยูริโกะ โคอิเกะ (Yuriko Koike) ผู้ว่าการกรุงโตเกียว กล่าวเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ตามรายงานของ The Japan Times ว่า “เราจะยังคงทบทวนรูปแบบการทำงานอย่างยืดหยุ่น เพื่อให้ผู้หญิงไม่ต้องเสียโอกาสในอาชีพ เพราะเหตุการณ์ในชีวิต เช่น การมีบุตรหรือการเลี้ยงดูบุตร”

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี:UAE)

ดูไบ ซึ่งเป็นมหานครใหญ่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่เริ่มทดลองทำงานระบบนี้ในภาครัฐ โดยกำลังให้พนักงานรัฐทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ในโครงการ “Our Flexible Summer” ตั้งแต่ต้นกรกฎาคมถึงกลางกันยายน 2025 ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากการทดลองที่ประสบความสำเร็จในปี 2024 โดยแบ่งพนักงานเป็น 2 กลุ่ม คือ

- กลุ่มแรก ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง จันทร์ ถึง พฤหัสบดี
- กลุ่มที่สอง ทำงานวันละ 7 ชั่วโมง จันทร์ ถึง พฤหัสบดี และ 4 ชั่วโมงครึ่งในวันศุกร์

3. โปรตุเกส

ในเขตปกครองตนเองอะซอเรส (Azores Autonomous Region) รัฐบาลกำลังสนับสนุนการทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ในภาครัฐ โดยเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และอาจขยายสู่ภาคเอกชนในอนาคต

รีตา ฟอนตินญา ซึ่งเป็นผู้ประสานงานการศึกษานี้ในอะซอเรส บอกกับ Newsweek ว่า “การทดลองเหล่านี้กำลังสร้างข้อมูลเปรียบเทียบที่สำคัญ และแสดงให้เห็นว่า ระบบการทำงานรูปแบบนี้อาจปรับใช้ได้กับหลากหลายอุตสาหกรรมและบริบทขององค์กร”

ลดภาวะหมดไฟ คือความคาดหวังในระบบทำงาน 4 วัน

จากการวิจัยของฟอนตินญา การลดเวลาทำงานแต่รักษาค่าจ้างเดิม จะช่วยให้พนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งด้านสุขภาพกายและใจ ขณะเดียวกันนายจ้างก็ได้ประโยชน์จากการดึงดูดและรักษาบุคลากร รวมถึงลดความสูญเสียจากการหมดไฟในการทำงาน

เธอระบุว่า “สำหรับพนักงาน เราพบว่ามีสมดุลชีวิตกับงานที่ดีขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น (ลดความเครียด หมดไฟ วิตกกังวล และปัญหานอนไม่หลับ) ความพึงพอใจในงานสูงขึ้น และประสิทธิภาพดีขึ้น ทั้งจากมุมมองของพนักงานเองและหัวหน้างาน”

ส่วนประโยชน์ในมุมขององค์กร ผลวิจัยชี้ว่า ผลิตภาพโดยรวมเพิ่มขึ้น รายได้และกำไรดีขึ้น ซึ่งมาจากการขาดงานและการลาออกที่ลดลง พร้อมกับความสามารถในการดึงดูดและรักษาบุคลากร ทำให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านทรัพยากรบุคคลในระยะยาว

วิจัยล่าสุดยืนยัน ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ มีประสิทธิภาพจริง

หนึ่งในการทดลองครั้งใหญ่ล่าสุด ครอบคลุมพนักงานเกือบ 3,000 คน จาก 141 องค์กรใน 6 ประเทศ ซึ่งมีการเก็บข้อมูลตลอด 6 เดือน พบว่า พนักงานกลุ่มทดลองทำงาน 4 วัน มีความพึงพอใจในงานมากขึ้น สุขภาพกายและใจดีขึ้น โดยไม่มีการสูญเสียผลิตภาพอย่างมีนัยสำคัญ

ก่อนหน้านี้ การทดลองในสหราชอาณาจักรก็ให้ผลลัพธ์คล้ายกัน คือ พนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยรายได้องค์กรไม่ลดลงแม้แต่น้อย และบริษัทส่วนใหญ่ยังคงนโยบายนี้ต่อเนื่องหลังสิ้นสุดการทดลอง

ทั้งนี้ มีตัวอย่างจากองค์กรที่ใช้จริง ก็คือ B Lab U.S. & Canada องค์กรไม่แสวงกำไรซึ่งเป็นพันธมิตรของ B Lab Global ปรับเป็นทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ตั้งแต่ปี 2023 ผลสำรวจภายในล่าสุดพบว่า 93% ของพนักงานมีสมดุลชีวิตกับงานดีขึ้นและหมดไฟลดลง และ 73% รู้สึกมีอิสระในการทำงานมากขึ้น

ในมุมของนายจ้าง การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การจัดลำดับความสำคัญของงานชัดเจนขึ้น ลดจำนวนการประชุม และเพิ่มสมาธิในการทำงาน โดยไม่ลดปริมาณผลงานลงเลย

“ถ้าจะพูดไป ผลิตภาพกลับดีขึ้นด้วยซ้ำ” ทีมผู้ดำเนินการ ย้ำให้เห็นผลดีของการทดลอง พร้อมเสริมว่า อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนสู่การทำงาน 4 วัน ต้องใช้การวางแผนอย่างรอบคอบและความเข้าใจร่วมกันในองค์กร ไม่ใช่แค่การปรับตารางงาน พวกเขายอมรับว่า ในบางบริษัทยังมีอุปสรรคจากความเชื่อเดิมฝังรากลึก เกี่ยวกับการทำงานเต็มเวลาที่ฝังอยู่ในวัฒนธรรมองค์กร

อ้างอิง: Newsweek, ScientificAmerican, Scimex.org

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

เลขา ป.ป.ช.อัปเดตคดี 44 สส.ก้าวไกล บอกใช้เวลามาก เพราะหลักฐานเยอะ

28 นาทีที่แล้ว

'วรวัจน์' จี้ 'กมธ.งบฯ69' ส่งสัญญาณ แยกงบสร้างถนน ออกจาก งบจังหวัด

33 นาทีที่แล้ว

'กัมพูชา' แห่แบน 'สินค้าแบรนด์ไทย' ดันบริษัทท้องถิ่นเข้ามาแทนที่

33 นาทีที่แล้ว

ปชน.ส่ง 'สุทัศน์' เจ้าของร้านเบียร์คราฟต์-โรงแรม ชิง สส.เชียงราย

39 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

ขุดอุโมงค์เผากำแพง สู่จุดจบอยุธยา พินาศด้วยเพลิงกัลป์ ดั่งอาทิตย์ขึ้นพร้อมกัน 7 ดวง

ศิลปวัฒนธรรม

ถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ บอร์นมัธ วันนี้ 15 ส.ค. 68

PostToday

ใครคือ “ข้าราชการสถานทูตไทยในกัมพูชา” ที่อยู่ในช่วงตัดความสัมพันธ์ทั้ง 2 ครั้ง และถูกจับข้อหา “จารชน”

ศิลปวัฒนธรรม

EGCO Groupถอดรหัส “Triple R” ในมหกรรมวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ปี68

กรุงเทพธุรกิจ

ถ่ายทอดสด มวย วัน ลุมพินี 120 ONE Championship วันนี้ 15 ส.ค.68

PostToday

‘เจน Z’ มองการโทรโดยไม่บอกก่อน ไร้มารยาท รุกล้ำความเป็นส่วนตัว

กรุงเทพธุรกิจ

"เพิร์ล" แม่ไก่อายุมากที่สุดในโลก แชมป์ใหม่ลง Guinness World Records

Amarin TV

ไส้กรองเครื่องกรองน้ำ ควรเปลี่ยนเมื่อไร มีวิธีสังเกตอย่างไร

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...