ลือ Xiaomi อาจจะไม่ต่อสัญญากับ Leica ในรุ่นต่อไป
ทุกวันนี้หลายคนที่ซื้อมือถือ Xiaomi เพราะชื่อของ Leica ที่ติดเครื่องทำให้ไว้ใจเรื่องการถ่ายภาพ แต่เรื่องนี้กำลังจะเป็นอดีตไปแล้วเมื่อ Digital Chat Station รายงานว่า Xiaomi กำลังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนครั้งสำคัญ โดยจะยุติความร่วมมือ (co-branding) กับ Leica สำหรับอุปกรณ์ในซีรีส์ย่อยที่ใช้ชิปเซ็ต SM8850 ในอนาคต (คาดว่าเป็นตระกูล Snapdragon 8 รุ่นใหม่) และจะหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่พัฒนาขึ้นเองภายในบริษัทแทน
การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของ Xiaomi ในทีมวิจัยและพัฒนาของตนเอง และคาดว่าจะเป็นการลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ มีข้อมูลว่าการร่วมมือกับ Leica มีค่าใช้จ่ายด้านลิขสิทธิ์ประมาณ $3–$5 (ประมาณ 110–185 บาท) ต่อเครื่อง ซึ่งเงินที่ประหยัดได้จากส่วนนี้ Xiaomi มีแผนจะนำไปลงทุนอัปเกรดฮาร์ดแวร์ในส่วนอื่นๆ แทน
โดยเงินทุนที่ได้คืนมาจะถูกนำไปใช้
อัปเกรดเซ็นเซอร์กล้องให้ดีขึ้น
พัฒนาการถ่ายภาพเชิงคำนวณ (Computational Photography)
เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้น
ใช้หน้าจอแสดงผลแบบเรียบ (Flat Display) ที่ทันสมัยขึ้น
Digital Chat Station ยังเสริมอีกว่าความสามารถของกล้องในแบรนด์ Redmi จะได้รับการยกระดับครั้งใหญ่ถึงขั้น "epic-level" เลยทีเดียว ดังนั้นรุ่นที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคจตได้แก่ Xiaomi 16, 16 Pro, 16 Ultra, และ 16 Ultra Max รวมถึง Redmi K90 Pro และ Poco F8 Ultra ซึ่งแบรนด์รองอย่าง Redmi และ Poco ที่เน้นตลาดที่อ่อนไหวเรื่องราคา จะได้รับประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลงมากที่สุด
สอดคล้องกับเทรนด์อุตสาหกรรม
แน่นอนเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ Xiaomi คิดแค่ที่เดียว แต่กลับกลายเป็นทิศทางนี้สอดคล้องกับเทรนด์ในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนที่หลายแบรนด์เริ่มหันมาพัฒนาเทคโนโลยีกล้องของตนเอง เช่น Huawei ที่เปลี่ยนมาใช้ระบบ XMAGE ของตัวเองหลังจากสิ้นสุดสัญญากับ Leica ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ อย่าง Vivo, Oppo, และ Honor ยังคงร่วมมือกับ Zeiss, Hasselblad และ Harcourt ตามลำดับ
การตัดสินใจครั้งนี้ของ Xiaomi เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าบริษัทต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโซลูชันภายใน เพื่อส่งมอบฟีเจอร์ระดับเรือธงในราคาที่แข่งขันได้ โดยเน้นไปที่การยกระดับประสบการณ์ใช้งานหลักของผู้ใช้โดยตรง