วิจัยฮาร์วาร์ดชี้ เด็กที่ชอบทำ 3 สิ่งนี้ "ฉลาดกว่าเพื่อนมาก" พ่อแม่ควรรู้ อย่าขวางสมองเฉิดฉาย!
งานวิจัยฮาร์วาร์ดเผย เด็กที่ชอบทำ 3 สิ่งนี้ “สมองไวกว่า” เพื่อนร่วมวัย ฉลาด สมาธิดี พ่อแม่อย่าห้ามเด็ดขาด!
พ่อแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกของตัวเองฉลาด เรียนรู้เร็ว และมีความสามารถเหนือกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่ในความเป็นจริง เด็กแต่ละคนมีระดับความฉลาดต่างกัน ซึ่งความแตกต่างนี้ไม่ได้เกิดจาก “พรสวรรค์” เพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับ “การพัฒนาของสมอง” ในช่วงวัยเด็กอย่างใกล้ชิด
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคยทำการศึกษาพบว่า ความเร็วและประสิทธิภาพของสมองเด็ก มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมบางอย่างที่พวกเขาทำเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงอายุ 0-6 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่สมองมี “ความยืดหยุ่น” สูงที่สุด และสามารถสร้างการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท (ซินแนปส์) ได้มากถึง 70,000 ล้านครั้งต่อวัน มากกว่าผู้ใหญ่เกือบ 2 เท่า
หากเด็กได้รับการกระตุ้นที่เหมาะสมในช่วงนี้ พัฒนาการของสมองจะดีขึ้นถึง 40% และนี่คือ 3 พฤติกรรมสำคัญที่ Harvard แนะนำว่า “ยิ่งทำ ยิ่งฉลาด!”
1. ชอบสำรวจสิ่งใหม่ กระตุ้นประสาทสัมผัสและความคิด
เด็กที่ชอบฟังนิทาน เล่นตัวต่อ ออกไปเที่ยวสวนสาธารณะ หรือสนใจสีสันต่าง ๆ มักจะฉลาดกว่า เพราะพวกเขากำลังใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อกระตุ้นระบบประสาท ซึ่งช่วยให้สมองเชื่อมโยงข้อมูลได้เร็วและลึกขึ้น เด็กที่ได้รับการกระตุ้นทางประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม จะมีการพัฒนาทางสมองที่ดีและไวกว่า
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงการกระตุ้นที่เป็น “พิษ” เช่น
หน้าจออิเล็กทรอนิกส์ใกล้ตาเกินไป — ทำให้สมองถูกกระตุ้นมากเกินไป และอาจส่งผลเสียต่อสายตา
เสียงดัง / แสงจ้า / กลิ่นแรง — ทำให้ประสาทสัมผัสล้า เสี่ยงต่อปัญหาทางจิตใจ
การตกใจหรือถูกกระตุ้นกะทันหัน — เช่น การตะโกนหรือทำให้เด็กสะดุ้ง อาจฝังรอยทางจิตใจ
2. ชอบอ่านและพูดคุย: สมองประมวลผลไว ความจำดี
เด็กที่ชอบพูดหรืออ่านหนังสือ มักจะมีพัฒนาการทางภาษาดี ความคิดเร็ว และมีความจำดี เนื่องจากการใช้ภาษาเป็นการกระตุ้น สมองส่วน Broca ขณะที่การอ่านหนังสือจะช่วยเชื่อมต่อ ฮิปโปแคมปัส (ความจำ) และกลีบขมับ (การวิเคราะห์) พูดเยอะ อ่านเยอะ = สมองยืดหยุ่น คิดไว จำเก่ง
แล้วพ่อแม่ควรส่งเสริมการอ่านอย่างไร? ควรเลือกหนังสือให้เหมาะกับวัย, จัดมุมอ่านหนังสือที่แสงเพียงพอ, สอนให้เด็กอ่านในท่าทางที่ถูกต้อง ป้องกันปัญหาสายตาและกระดูกสันหลัง
3. ชอบเคลื่อนไหว สมาธิดี จำแม่น
ความเชื่อว่า “เด็กซนไม่ฉลาด” อาจล้าสมัยไปแล้ว เพราะการวิ่งเล่น กระโดด หรือเล่นกีฬา ช่วยกระตุ้นสมองได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ สมองส่วนฮิปโปแคมปัส (เกี่ยวกับความจำ) และ สมองส่วนหน้าผาก (การวางแผนและมีสมาธิ) เด็กที่เคลื่อนไหวบ่อย จะมีสมาธิดี ความจำดี และเรียนรู้เร็วขึ้น
คำแนะนำสำหรับพ่อแม่คือ
เลือกกิจกรรมเบา ๆ เช่น วิ่ง กระโดดเชือก หรือกีฬาเล่นลูกบอล
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักเกิน เช่น ยกน้ำหนัก หรือกีฬาหวาดเสียว
หมั่นสังเกตว่าลูกเหนื่อยหรือเจ็บหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกินขีดจำกัดร่างกาย
เด็กฉลาดได้ ถ้าส่งเสริมถูกจุด พัฒนาการของสมองเด็กไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือผลลัพธ์จากการส่งเสริมที่เหมาะสม หากลูกของคุณ ชอบสำรวจโลก สนใจหนังสือ และไม่อยู่นิ่ง นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ดีว่าเขากำลัง “เรียนรู้” อย่างเต็มที่
อย่าดับไฟแห่งความอยากรู้อยากเห็นของลูก เพียงเพราะคุณคิดว่ามัน “วุ่นวาย” สนับสนุนเขาอย่างมีหลักการ แล้วคุณจะได้เห็นสมองที่เปล่งประกายเกินคาด!