เช็กหุ้น! ต่างชาติซื้อ
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - วานนี้ ( 23 ก.ค. 68) ดัชนีตลาดหุ้นไทยพุ่ง 27.87 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 2.34% มาอยู่ที่ 1,219.62 จุด มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 45,127.72 ล้านบาท
ขณะที่ บล. เอเซียพลัส ระบุว่า ในมุมของไทยตามข้อเสนอของ รมว.คลังที่ออกแถลงตามสื่อต่างๆ จับใจความได้ว่ามีข้อเสนอที่คล้ายคลึงกับ ประเทศเพื่อนบ้าน คือการยกเลิกภาษีทั้งหมดสำหรับสินค้าสหรัฐฯ และเปิดตลาดให้สหรัฐฯ แบบปลอดภาษี (0%) รวมถึงการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯมากขึ้น ทั้งเครื่องบิน BOEING-สินค้าเกษตร-อุปกรณ์ทางการทหาร, การลงทุน โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เป็นต้น
จึงมองว่าไทยน่าจะถูกเก็บ RECIPROCAL TARIFFใกล้เคียงกับเพื่อนบ้าน คือ ระดับต่ำกว่า 20% และหนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงในอนาคต
โดยกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ เน้นหุ้นที่ ต่างชาติให้ความสนใจ โดยการซื้อสุทธิเยอะสุด 10 ใน 11 วันทำการ(ข้อมูลสิ้นสุด 7 -22 ก.ค.68) และผลตอบแทนยัง ไม่ปรับตัวขึ้นมากนัก
จับตา 20 หุ้น อาทิ AOT, CPALL, KTC, KBANK, CPN, SCC, WHA, CPF, BBL, ADVANC, OR, CBG, PTT, HANA, AMATA, TOP, BH, SAWAD, PTTGC, CKเป็นต้น
ด้าน บล.พาย ชี้ว่า ข้อมูลล่าสุดของรัฐบลไทย จะทำการยื่นข้อเสนอสุดท้ายให้สหรัฐฯพิจารณา ทางรัฐมนตรีคลังเชื่อว่าไทยจะได้ปรับลดภาษีจากระดับ 36% มาอยู่ในอัตราใกล้เคียงกับภูมิภาค
สำหรับการแต่งตั้งคุณวิทัย ขึ้นดำรงค์ตำแหน่งผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะเริ่มทำงานในช่วง 1 ต.ค. จากการให้ข้อมูลช่วงที่ผ่านมาของคุณวิทัย มักเสนอแนวคิดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยควรทำงานควบคู่กับหลายๆ หน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง ตลาดหลักทรัพย์ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมกับนโยบายเน้นแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนึ่งในนั้นคือการลดดอกเบี้ยเงินกู้เน้นการตัดเงินต้นมากขึ้น
แม้การลดดอกเบี้ยที่คุณวิทัยมักหยิบยกขึ้นมาเป็นหนึ่งในมาตรการ ซึ่งอาจเป็นบวกกับกลุ่มการเงิน แต่อย่างไรก็ตามในอีกนัยยะหนึ่งอาจเห็นการเข้าไปควบคุมมากขึ้นเกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้ของกลุ่ม Non Bank อนึ่งราคาหุ้นในกลุ่ม Non Bank ก็ปรับขึ้นมา 11% จากจุดต่ำสุดนับว่า Price In ไปบ้าง จึงอาจไม่ถึงกับบวกกับหุ้น Non Bank มากเท่าใดนัก
แต่หากหนี้ครัวเรือนแก้ปัญหาได้สำเร็จมองกลุ่มอิงการบริโภครับประโยชน์ CPALL- BJC- CRC HMPRO รวมไปถึงอสังหา AP - SPALI
นอกจากนี้ด้วยนโยบายการเงินอาจผ่อนคลายมากขึ้นจะหนุนให้บาทอ่อนค่า ซึ่งบวกกับกลุ่มส่งออก (ITC- TU) หุ้นแนะนำระยะสั้นได้แก่กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS) ธนาคารที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะ (SCB) กลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) อสังหาฯ (AP SPALI)
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 137.00 บาท)
กำไรสุทธิใน 2Q25 ออกมาแข็งแกร่งที่ 12.8 พันลบ. (+27.7% YoY, +2.3% QoQ) ด้านงบดุลแข็งแกร่ง NPL ratio ลดลงที่ 3.3% และ Coverage ratio เพิ่มเป็น 158.7% กลยุทธ์ใน 2H25 เน้นดูแลคุณภาพสินเชื่อ และควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อลด Cost to income ratio (CIR) ชดเชยผลกระทบจากสินเชื่อที่ชะลอตัว
CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท)
Valuationน่าสนใจ ปัจจุบันซื้อขายเพียง 12xPE’25E แม้ว่าระยะสั้น คาดกำไรปกติงวด 2Q25 ที่ 1.59 พันล้านบาท (-2%YoY, -36%QoQ) ผลจากการลดลงของยอดขายสาขาเดิมราว 5% YoY ขณะที่แนวโน้ม SSSG ช่วง 3Q25ยังคงมีความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขัน
อย่างไรก็ตามคาดว่า จะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้ SSSG ช่วง 3Q25 มีแนวโน้มดีขึ้นบ้างจาก 2Q25